กลุ่มทรู โดย นายพิชิต ธันโยดม (ที่ 2 จากซ้าย) หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โดย นายพีระพงศ์ จรูญเอก (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผสานพันธมิตรร่วมพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารและดิจิทัลสำหรับผู้อยู่อาศัยในทุกด้าน ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ในทุกโครงการ ทุกทำเลของออริจิ้น พร้อมร่วมเปิดตัวโครงการ พาร์ค ออริจิ้น พญาไท ที่ออกแบบในแนวคิด A Perfect Living Platform ผสานธรรมชาติ เทคโนโลยี สังคมคุณภาพ โดยกลุ่มทรูจะวางโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกที่สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ด้วยความเร็วเริ่มต้นตั้งแต่ 1Gbps สูงสุด10Gbps พร้อมรองรับบริการ คอนเวอร์เจนซ์ ทั้งทรูวิชั่นส์ โทรศัพท์บ้าน และ WiFi ทั้งยังสามารถต่อยอดบริการสื่อสารและเทคโนโลยีดิจิทัล ทุกรูปแบบในอนาคต อาทิ Smart Home, Smart Parking, Smart Energy และ Robotics เป็นต้น เพื่อช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เติมเต็มไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัลให้เหนือระดับและสมบูรณ์แบบมากที่สุด
ทั้งนี้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge) นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill) เคนซิงตัน (Kensington) และโครงการแนวราบแบรนด์บริทาเนีย (Britania) โดยได้พัฒนาโครงการ พาร์ค ออริจิ้น พญาไท ให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลายทั้งภายในห้องพักและพื้นที่ส่วนกลาง โดยความร่วมมือกับกลุ่มทรูในครั้งนี้ จะเสริมให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตแบบ Smart Living ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และ Smart Solutions ต่างๆ อาทิ
- Smart Home ระบบการสั่งงานกับบ้านได้จากทุกที่ทั่วโลกแบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนและเครือข่ายคุณภาพของทรู ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 50 อุปกรณ์
- Smart Access Control ระบบกำหนดสิทธิ์เข้าใช้พื้นที่ ในการเข้าอาคารและจองพื้นที่ใช้งานต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน เช่น ห้องประชุม ฟิตเนต หรือ สระว่ายน้ำ ปลอดภัยด้วยระบบจดจำใบหน้า Face Recognition และสามารถส่ง QR Code ไปให้บุคคลภายนอก เพื่อใช้ผ่านเข้าบริเวณต่างๆ
- Smart Parking ระบบจอดรถอัจฉริยะ จดจำเลขทะเบียนรถเพื่อเข้าที่จอดรถ และจองที่จอดประหยัดเวลาในการวนหาที่จอดรถ รวมทั้งช่วยบริหารจัดการรถจากภายนอกให้เกิดความปลอดภัย
- Smart Energy ระบบพลังงานอัจฉริยะ ช่วยให้โครงการประหยัดต้นทุนในการดำเนินการ ด้วยอุปกรณ์ IoT ในการดูรายละเอียดการทำงานของอุปกรณ์พลังงาน เพื่อเปลี่ยนพลังงานหมุนเวียนต่าง ๆ เช่น แสงอาทิตย์ ลม หรือแม้กระทั่งน้ำ ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าสำหรับไว้ใช้ในโครงการ
- Robotics หุ่นยนต์สามารถตอบสนองการใช้งานได้หลากหลายในรูปแบบ พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทำงานได้ด้วยตัวเองแบบอัตโนมัติ และยังเชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ เช่น ลิฟท์ และระบบโทรศัพท์