11 ธันวาคม 2561 – ดีแทคประสบความสำเร็จในการนำเทคโนโลยียุค 5G รับส่งสัญญาณด้วย Massive MIMO 64×64 ทันสมัยล่าสุดระดับโลกที่มีประสิทธิภาพสูงสุดรองรับ 4G LTE TDD บนคลื่น 2300 MHz มาให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนมือถือในมหกรรมคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่น (BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL2018) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 9 ธันวาคม 2561 ที่ดิ โอเชี่ยน เขาใหญ่ จ. นครราชสีมา ซึ่งคาดว่ามีผู้มาร่วมงานมากกว่า 5 หมื่นราย เผยผลการใช้งาน Massive MIMO 64×64 เพิ่มขีดความสามารถ (Capacity) การรับส่งข้อมูลดีขึ้นจากเดิม 4-16 เท่า พร้อมวางแผนขยายเปิดให้บริการเป็นทางการต่อไป
นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคได้เริ่มบุกเบิกเทคโนโลยีพื้นฐานสำหรับ 5G โดยอุปกรณ์เครือข่ายที่ดีแทคติดตั้งในปัจจุบันมีความล้ำสมัยและพร้อมรองรับเทคโนโลยี 5G ทันที เพียงอัปเกรดซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์บางส่วนสำหรับใช้งานบนคลื่น 2300 MHz ที่ดีแทคเป็นพันธมิตรกับทีโอที โดยดีแทคเป็นรายแรกในไทยที่ใช้อุปกรณ์รับส่งสัญญาณแบบ Massive MIMO 64×64ที่ทันสมัยที่สุดในโลกมาให้บริการเชิงพาณิชย์พร้อมใช้งานบนสมาร์ทโฟนได้จริง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่มากับคลื่น 2300 MHz ที่ให้บริการ 4G LTE TDD โดยถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ปัญหาการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ที่จำกัดแต่มีปริมาณคนใช้งานหนาแน่นได้เป็นอย่างดี โดย Massive MIMO 64×64 ได้เพิ่มขีดความสามารถ(Capacity) การรับส่งข้อมูลดีขึ้นจากเดิม 4-16 เท่า เมื่อเทียบกับการรับส่งแบบ MIMO 4×4”
การรับส่งสัญญาณของเสามือถือสำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในปัจจุบัน ได้พัฒนาเสาสัญญาณเพื่อการรับส่งแบบ MIMO (Multiple-input and Multiple-output) ด้วยอุปกรณ์ที่เพิ่มช่องสัญญาณจึงเพิ่มความสามารถในการรับส่งสัญญาณของชุดข้อมูลให้มากขึ้นในเสา 1 จุด ทำให้เพิ่มความสามารถหรือ Capacity ในการให้บริการทั้งดาวน์โหลดและอัปโหลดข้อมูลได้มากขึ้นในแต่ละเสา ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ดียิ่งขึ้น
วันนี้เทคโนโลยีล่าสุดของโลกได้พัฒนาเป็น Massive MIMO 64×64 ซึ่งรองรับ 4G LTE TDD บนคลื่น 2300 MHz จึงสามารถนำมาให้บริการได้จริงกับสมาร์ทโฟน นอกจากจะรองรับจำนวนข้อมูลมหาศาลในแต่ละพื้นที่ทำให้ผู้ใช้งานในพื้นที่เดียวกันสามารถใช้งานพร้อมกันได้ดียิ่งขึ้น จุดเด่นของ Massive MIMO 64×64 ยังสามารถกำหนดช่วงการส่งสัญญาณหลากหลายรูปแบบในแต่ละพื้นที่ (Beamforming) เพื่อให้เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้ใช้งานและอุปกรณ์การสื่อสารซึ่งจะเป็นพื้นฐานสู่การรองรับ 5G ในอนาคตอีกด้วย
“ดีแทคได้เลือกเทคโนโลยี Massive MIMO 64×64 มาทดสอบที่มหกรรมคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่น (BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 2018) เพราะเป็นงานเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและมีผู้เข้าชมมหาศาลซึ่งคาดว่ามากกว่า 5 หมื่นราย และมีพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนและงานอินเทอร์เน็ตบนมือถืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งการใช้งานเสาส่งสัญญาณแบบเดิมจะไม่เพียงพอต่อการรองรับการใช้งาน การทดสอบในครั้งนี้เป็นการพิสูจน์จากการใช้งานจริงโดยลูกค้าดีแทคได้รับประสบการณ์ที่ดีเพิ่มขึ้น แม้จะมีจำนวนผู้ใช้งานหนาแน่น ดีแทคจะนำการทดสอบใช้งานมาวิเคราะห์รูปแบบการให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการต่อไป โดยจะเน้นสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้ดาต้าสูง และรองรับพื้นที่จัดเทศกาลหรือการจัดงานที่มีจำนวนคนใช้งานมาก เช่น การจัดคอนเสิร์ต หรือเทศกาลพิเศษต่างๆ” นายประเทศ กล่าวในที่สุด