รายงานข้อมูลล่าสุดจาก Adobe Analytics เผย คนชื่นชอบคอนเทนท์และหันไปฟังพอดคาสต์เพิ่มมากขึ้น รายงานดังกล่าวซึ่งอ้างอิงผลสำรวจความคิดเห็นของชาวสหรัฐฯ จำนวน 1,008 คน สะท้อนพฤติกรรมการฟังออดิโอสตรีมมิ่งของผู้ฟังพอดคาสต์ รวมไปถึงข้อมูล Comscore ของผู้ใช้งานโมบายล์แอปในสหรัฐฯ 193ล้านคนต่อเดือน ในช่วงตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 ถึงพฤษภาคม 2562
ผลการศึกษาดังกล่าวระบุว่า การใช้งานโมบายล์แอปพอดคาสต์เพิ่มขึ้น 60% ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 โดยหนึ่งในสี่ของผู้ฟังพอดคาสต์ในปัจจุบันเพิ่งเคยใช้งานเป็นครั้งแรกในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา Adobe Analyticsคาดว่า แนวโน้มการเติบโตนี้จะยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่ผู้ฟัง 45% ระบุว่าตนเองมีแผนที่จะฟังพอดคาสต์เพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยพวกเขาจะค้นหารายการพอดคาสต์ผ่านบล็อกออนไลน์และบทความเป็นหลัก (41%)
การรับรู้เกี่ยวกับคุณภาพของพอดคาสต์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเกือบหนึ่งในสามของผู้ฟังระบุว่ารายการต่างๆ พัฒนาคอนเทนท์มีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ
วีเว็ก ปันด์ยา นักวิเคราะห์บริหารของ Adobe Digital Insights กล่าวว่า “เราเชื่อว่าในช่วงแรกๆ พอดคาสต์อยู่ในช่วงของการทดลอง และแบรนด์ต่างๆ ไม่ได้ลงทุนมากนักในเรื่องของคุณภาพ แต่เมื่อตลาดพอดคาสต์โตขึ้น และมีแบรนด์เริ่มให้ความสนใจเข้าร่วมมากขึ้น คุณภาพการผลิตจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ”
เมื่อเจาะลึกเกี่ยวกับกลุ่มผู้ฟังพอดคาสต์ Adobe Analytics พบว่า คนรุ่นมิลเลนเนียล (Millennial) เป็นฐานผู้ฟังที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ขณะที่พอดคาสต์ก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในกลุ่ม Generation Z ด้วยเช่นกัน ปัจจุบัน ราวหนึ่งในสามของคนรุ่นมิลเลนเนียลกล่าวว่าตนเองฟังพอดคาสต์มากกว่า 5 รายการต่อสัปดาห์ ขณะที่ 67% ของคนกลุ่ม Gen Z ที่ตอบแบบสอบถามระบุว่า ตนเองมีแผนที่จะฟังพอดคาสต์เพิ่มมากขึ้นในปีหน้า
โดยรวมแล้ว กว่าครึ่งของผู้ฟัง (52%) ระบุว่าตนเองฟังพอดคาสต์ระหว่างเดินทางไปทำงานหรือในขณะทำงาน และ 42% ฟังขณะอยู่ในรถยนต์
“ผู้ฟังชื่นชอบพอดคาสต์ เพราะเป็นประสบการณ์รองที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่เดินทางไปทำงานหรือขับรถ และช่วยฆ่าเวลาได้เป็นอย่างดี ขณะที่วิทยุมีลักษณะเป็นไลฟ์สตรีม แต่พอดคาสต์เป็นแบบออนดีมานด์ และผู้ฟังสามารถพกพารายการเสียงติดตัวไปได้ทุกที่ และสามารถเปิดฟังในช่วงเวลาที่สะดวกมากที่สุด” ปันด์ยากล่าวเพิ่มเติม
เรื่องตลก การศึกษา และบทวิเคราะห์ข่าวอาชญากรรม เป็นกลุ่มรายการพอดคาสต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นหัวข้อใดก็ตาม ผู้ฟังส่วนใหญ่ระบุว่าตนเองชื่นชอบพอดคาสต์ที่มีความยาวไม่เกินหนึ่งชั่วโมง
นอกจากนี้ ผลการศึกษายังชี้ว่า พอดคาสต์จะกลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพสำหรับโฆษณา โดย60% ของผู้บริโภคที่ตอบแบบสอบถาม ระบุว่า ตนเองค้นหาสินค้าหรือบริการหลังจากที่ได้ยินโฆษณา และ25% ได้ทำการซื้อสินค้าที่พบผ่านทางโฆษณาในพอดคาสต์ ขณะที่ 58% ของผู้ฟังยอมรับว่าตนเองข้ามโฆษณาในพอดคาสต์
ในบรรดา 72% ของผู้ฟังพอดคาสต์ที่เคยได้ยินโฆษณาขณะที่ฟัง หนึ่งในสามคิดว่าสปอตโฆษณาบนพอดคาสต์กระตุ้นความอยากซื้อมากกว่าโฆษณารูปแบบอื่นๆ นอกจากนี้ 40% คิดว่าโฆษณาบนพอดคาสต์สร้างความน่าอึดอัดขณะฟังน้อยกว่าโฆษณาประเภทอื่นๆ
“จากผลสำรวจดังกล่าว แสดงแนวโน้มว่า โฆษณาบนพอดคาสต์จะมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงฐานลูกค้าที่เกี่ยวข้อง” ปันด์ยากล่าวกับ CMO.com
นอกเหนือจากการตรวจสอบแนวโน้มของการฟังพอดคาสต์แล้ว Adobe Analytics ยังสำรวจการฟังออดิโอบุ๊ค พบชี้ว่า มีประเด็นที่น่าสนใจหลายประการ คือ ผู้ฟังพอดคาสต์ ระบุว่า ตนเองสตรีมออดิโอบุ๊คมากกว่าที่ผู้ไม่ได้ฟังพอดคาสต์ แต่ชอบออดิโอบุ๊คมากกว่าพอดคาสต์ขณะที่ทำกิจกรรมที่ใช้เวลานาน เช่น อยู่บนเครื่องบิน ขณะเดินทางด้วยรถยนต์ หรือช่วงวันหยุดพักร้อน
อย่างไรก็ตาม ออดิโอบุ๊คไม่ได้เข้ามาแทนที่หนังสือรูปแบบเดิมๆ โดย 74% ของผู้ใช้ที่ฟังออดิโอบุ๊คกล่าวว่าตนเองอ่านหนังสือแบบปกติด้วยเช่นกัน
“เป็นเรื่องดีที่ผู้คนยังคงอ่านหนังสือที่พิมพ์บนกระดาษตามปกติ แต่ก็เลือกที่จะฟังออดิโอบุ๊คในกรณีที่ไม่สามารถอ่านหนังสือได้โดยตรง” ปันด์ยากล่าว