การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นถือเป็นประตูด่านแรกที่มีส่วนช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคให้ลองเปิดใจกับแบรนด์สินค้าใหม่ได้ง่ายขึ้น ภายในงาน PACK PRINT INTERNATIONAL 2019 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ถือเป็นงานจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมการพิมพ์และการบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย เพื่อช่วยขับเคลื่อนและส่งเสริมศักยภาพให้กับผู้ผลิต นักออกแบบ นักการตลาด ผู้ประกอบการในไทย ในปีนี้ บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการพิมพ์สุดล้ำมาร่วมจัดแสดงภายใต้ธีม “Enter a World Beyond Imagination” มีไฮไลท์สำคัญ คือ การสาธิตประสิทธิภาพงานออกแบบสิ่งพิมพ์ในยุคดิจิทัลที่หลากหลาย ผ่านเครื่องพิมพ์โปรดักส์ชั่นขนาดใหญ่ รุ่น “IridesseTM Production Press” – แท่นพิมพ์ 6 สีเครื่องแรกของอุตสาหกรรม ที่โดดเด่นด้วยสีพื้นฐาน CMYK (บวกกับสองสีพิเศษ สีเงิน สีทอง สีใส เเละสีขาว) พิมพ์ 6 สีพร้อมกันในครั้งเดียว (six colour in one pass) การันตีคุณภาพในระดับสูง ด้วยรางวัล EDP Cut Sheet Printer Award for Innovation in Digital Production จาก European Digital Press Association Awards ช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่งานพิมพ์ยุคใหม่ สามารถนำเสนองานพิมพ์ในระดับพรีเมี่ยมด้วยความมันวาวของสีเมทัลลิกที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับงานพิมพ์ได้อย่างน่าทึ่ง ช่วยให้ผู้ออกแบบสิ่งพิมพ์ (Creators) ทำงานและสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น ไปสู่การสร้างงานพิมพ์ที่มีความเฉพาะตอบโจทย์การตลาดส่งผลให้ธุรกิจมีความแตกต่างและมีบุคลิกมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลล่าสุดจากสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทยพบว่า ประเทศไทยนับว่าเป็นตลาดการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก และคาดว่าความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคจะมีสัดส่วนสูงถึง 40% จากทั่วโลกในปี 2565 ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการพิมพ์และโซลูชั่นการจัดการเอกสาร มองว่าอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์สามารถนำเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ on-demand/finishing มาช่วยสร้างโอกาสการทำตลาดที่เน้นสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และเพิ่มมูลค่างานพิมพ์ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจในด้านนี้ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากลดระยะเวลาและเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตแล้ว ยังช่วยสร้างสรรค์ไอเดียการออกแบบใหม่ ๆ ยิ่งธุรกิจมีการคิด วิเคราะห์และวางแผนการลงทุนที่เน้นความยั่งยืน การนำเทคโนโลยีการพิมพ์มาปรับใช้อย่างเหมาะสม ก็จะมีโอกาสสร้างความสำเร็จในระยะยาวเพิ่มขึ้นได้
ภาพ Iridesse ในงานระหว่างใช้ฟีเจอร์/ฟังก์ชั่นต่าง ๆ พร้อมตัวอย่างงานพิมพ์ (บรรจุภัณฑ์)
ความสามารถที่โดดเด่นของ IridesseTM Product Press คือ ความสามารถในการพิมพ์ได้หลากสีและมีขั้นตอนหลังการพิมพ์ (finishing) ได้พร้อมกันในครั้งเดียว เหมาะกับงานพิมพ์ที่ใช้สีแบบพิเศษ เนื่องจากบางธุรกิจอาจมีขั้นตอนการดำเนินการหลายขั้นตอนในเครื่อง ช่วยให้สามารถผลิตงานพิมพ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าหมึกสีแบบพิเศษแต่ละสีบนแท่นพิมพ์ สามารถใช้สีพิเศษชนิดต่าง ๆ ได้โดยง่าย เนื่องจากแท่นพิมพ์สามารถผลิตสี metallic โดยการผสมหมึกสีทอง หรือหมึกสีเงินเข้ากับหมึก CMYK
IridesseTM Production Press
สามารถเปลี่ยนสีพิเศษ (Specialty Dry Ink) ได้ด้วยตนเอง: เอื้อประโยชน์ให้นักออกแบบงานพิมพ์สามารถเปลี่ยนสีพิเศษ (Specialty Dry Ink*) ได้ 4 สี * สีทอง, สีเงิน, สีขาว และสีใส ตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการและมองหาความ personalised บวกกับการเทสีพื้นหลัง (Underlay) ด้วยหมึกสีพิเศษ (Specialty Dry Ink) ทำให้ได้สีเมทัลลิกที่สวยงามเทียบเท่ากับการพิมพ์แบบออฟเซ็ท ฟีเจอร์นี้ช่วยให้นักออกแบบสามารถสร้างสรรค์เทคนิคในการพิมพ์สีพิเศษโดยการลงสีพื้นหลังด้วยสีทองหรือสีเงิน ก่อนสี CMYK กลายเป็นสีเมทัลลิกสะท้อนความแวววาว สร้างเอกลักษณ์ให้กับลูกค้าคนสำคัญ รับรู้ถึงพลังของภาพที่ปรากฏออกมาด้วยผงหมึกชนิดพิเศษคล้ายกับการพิมพ์ฟอยล์ (Foil Stamping) และอื่น ๆ อีกมากมาย
โซนจัดแสดงซอฟต์แวร์สำหรับงานพิมพ์ดิจิทัล ประกอบด้วย
โซนจัดแสดงซอฟต์แวร์สำหรับงานออกแบบบรรจุภัณฑ์
งานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ในรูปแบบต่าง ๆ ผลงานของ IridesseTM Production Press
นอกจากนี้ภายในบูท Fuji Xerox ยังได้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์มาร่วมบรรยายให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจตลอดทั้ง 4 วัน โดยมีเนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่เรื่องเทรนด์ที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการรู้เท่าทันและปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ไปจนถึงเคล็ดลับการออกแบบโครงสร้างของบรรจุภัณฑ์ การดีไซน์ตราสินค้า และท้ายสุดกับเรื่องราวความสำเร็จของผู้ประกอบคนไทยตัวจริงเสียงจริงที่มาเล่าถึงจุดเปลี่ยน และโอกาส ความท้าทายใหม่ ๆ ของธุรกิจสิ่งพิมพ์ในยุคดิจิทัลที่ต้องเร่งปรับตัว ซึ่งสามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่ https://www.facebook.com/FujiXeroxTH/
คุณสมเพ็ชร เจียรมณีทวีสิน CEO บริษัท I.Q. LAB จำกัด หนึ่งในธุรกิจคนไทยที่พยายามปรับตัวโดยพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเสริมการทำธุรกิจวันนี้ เผยว่า “ปัจจุบันธุรกิจโรงพิมพ์ถูกดิสรัปต์โดยเทคโนโลยีหลากหลาย เราจำเป็นต้องมีการปรับตัวถ้าไม่ปรับตัวก็คงจะอยู่ยาก ดังนั้นต้องเปิดรับความรู้ใหม่ ๆ และอัพเดตเครื่องไม้เครื่องมือที่จะช่วยขยายขอบเขตการรับงานที่กว้างกว่าเดิม บวกกับความคิดสร้างสรรค์และประสบการณ์ก็จะทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ อย่าง I.Q. LAB เมื่อ 9 ปีก่อนเรากล้าลงทุนกับเครื่องพิมพ์ Colour 1000 ซึ่งถือว่ามีสมรรถนะที่สูงในเวลานั้น และเรายังเป็นบริษัทแรก ๆ ที่นำเครื่อง Iridesse ของ Fuji Xerox มาใช้เพิ่มศักยภาพงานพิมพ์และการออกแบบ ด้วยจุดเด่นหลัก ๆ ของตัวเครื่อง คือเราสามารถ DIY งานออกแบบได้หลากหลาย สร้างภาพแปลก ๆ ได้ด้วยการผสมสีเมทัลลิกขึ้นมาเองเเละครีเอทงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคนี้ได้แบบเบ็ดเสร็จ”
