18 กุมภาพันธ์ 2563 – ดีแทคประกาศทิศทางการดำเนินธุรกิจ ปี 2563 พัฒนาประสบการณ์ใช้งานลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพรับส่งข้อมูลดีขึ้นถึง 3 เท่า พร้อมทั้งประกาศแผนพัฒนาบริการ 5G คาดว่าสามารถเปิดให้บริการในพื้นที่ที่กำหนดช่วงครึ่งปีแรก 2563 และเปิดให้บริการใหม่ อาทิ dtac@home บน Massive MIMO, เครือข่ายในองค์กร และคอนเทนท์จากพันธมิตร
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “การได้คลื่นย่านความถี่สูงมาเพิ่มในชุดคลื่นความถี่ของดีแทค ที่มีความพร้อมในคลื่นย่านความถี่ต่ำและความถี่กลางจะทำให้เราส่งมอบประสบการณ์ใช้งานคุณภาพสูงสู่ลูกค้าดียิ่งขึ้น และพัฒนาต่อไปในอนาคต ดีแทคสัญญาว่าจะไม่หยุดพัฒนาโครงข่ายและนำเทคโนโลยีใหม่เพื่อลูกค้าทุกคน ซึ่งสามารถได้รับประสบการณ์ใช้งานดาวน์โหลดที่ได้รับการยอมรับว่าเร็วที่สุดในไทย* สำหรับการคว้าคลื่น 5G (ความถี่ย่าน 26 GHz หรือ mmWave) ทำให้ขณะนี้ดีแทคพร้อมแล้วในการให้บริการทั้งคลื่นความถี่ทั้งย่านต่ำ-กลาง-สูง เพื่อนำเทคโนโลยีชั้นนำให้บริการรับส่งข้อมูลเพื่อให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดในอนาคต”
กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี พ.ศ. 2563 (Roadmap 2020)
ดีแทคกำลังเปลี่ยนผ่านประสบการณ์ใช้งานของลูกค้าให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น การใช้ machine-learning มาช่วยแนะนำให้ตรงความต้องการต่างๆ โดยที่ผ่านมามียอดเพิ่ม 38% จากขายผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่ม และจากดีแทครีวอร์ดที่พัฒนารูปแบบใหม่ให้เหมาะสมและตรงใจยิ่งขึ้นโดยดีแทคจะพัฒนาให้เหมาะสมยิ่งขึ้นตลอดปี 2563
สำหรับการปรับปรุงโครงข่ายและเพิ่มประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ดีแทคยังได้ปรับองค์กรสู่รูปแบบการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ในปี พ.ศ. 2562 ดีแทคได้เพิ่มพนักงานอีก 25% ที่มีทักษะดิจิทัล เช่น ความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต การวิเคราะห์ข้อมูลและการจัดการระบบธุรกิจอัจฉริยะ ทั้งนี้ ด้วยความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มเทเลนอร์ดีแทคตั้งเป้าที่จะเพิ่มพนักงานที่มีทักษะดังกล่าวอีก 50% ในปี พ.ศ. 2563 นอกจากนั้น รูปแบบการทำงานแบบ Agile ของดีแทคยังช่วยลดการทำงานที่ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์เหลือเพียงเป็นชั่วโมง และทำให้ออกแบบบริการเพื่อลูกค้าได้ในเวลารวดเร็วอย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น
นายชารัด กล่าวต่อไปว่า “ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของปี 2562 ทำให้เรามั่นใจที่จะมุ่งสู่การยกระดับประสบการณ์ใช้งานโครงข่ายเพื่อลูกค้าต่อไป และนำเสนอบริการที่ตรงความต้องการเพิ่มมากขึ้น เราจะเปลี่ยนผ่านสู่เรื่องดิจิทัลให้ง่ายขึ้นสำหรับลูกค้าของเรา และเปลี่ยนองค์กรของเราเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดีแทคไม่หยุดพัฒนาเพื่อประสบการณ์ลูกค้า และเตรียมพร้อมองค์กรสู่อนาคต”
พัฒนาคุณภาพโครงข่ายดีกว่าเพื่อทุกคน
การดำเนินธุรกิจในปีนี้ ดีแทคมุ่งมั่นจะยกระดับประสิทธิภาพโครงข่ายเพื่อลูกค้าทุกคน นอกจากดีแทคจะเปิดบริการ 5G แล้ว ดีแทคยังให้ความสำคัญในการเพิ่มศักยภาพโครงข่ายปัจจจุบันเพื่อสัญญาณขยายครอบคลุมการใช้งาน และเพิ่มประสิทธิภาพการรับส่งดีขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า
“ดีแทคเร่งขยาย Massive MIMO เทคโนโลยีความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ใช้งานหนาแน่นทั่วประเทศ และขยายโครงข่ายเพื่อให้บริการเพิ่มอีกหลายพันสถานีฐานสำหรับการใช้งาน 4G คลื่น 2300 MHz ที่ให้บริการบนคลื่นทีโอที เพื่อยกระดับประสบการณ์รับส่งข้อมูลดีกว่าเดิม และเพิ่มการครอบคลุมพื้นที่ใช้งานยิ่งขึ้น ดีแทคคาดว่าจะมีสถานีฐานให้บริการ 4G คลื่น 2300 MHz มากกว่า 20,000 สถานีในปลายปี 2563” นายชารัด กล่าวเพิ่มเติม
ก้าวต่อไปสู่ 5G
จากการประมูลคลื่นความถี่ล่าสุด ดีแทคได้ถือครองคลื่น 5G ความถี่ย่าน 26GHz จำนวน 200 MHz ซึ่งสามารถนำมาให้บริการ 5G อินเทอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ไร้สายประจำที่ ซึ่งจะทำความเร็วได้สูงสุดราว 1Gbps ในพื้นที่ที่กำหนดเปิดให้บริการ คาดว่าจะเปิดให้บริการราวครึ่งปีแรกของ ปี 2563
การขยายโครงข่าย 5G บนคลื่น 700 MHz เพื่อเพิ่มการครอบคลุมใช้งาน 5G โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาคของประเทศ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มติดตั้งโครงข่ายได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
ในปี 2563 ดีแทคมีแผนพัฒนานวัตกรรมบริการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการใช้งาน 5G ไร้สายความเร็วสูง อินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงประจำที่ และคอนเทนท์รูปแบบใหม่ โซลูชั่นอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หรือ IoT สำหรับอุตสาหกรรม และพัฒนารูปแบบใช้งาน
“การได้คลื่น 5G เป็นแค่การเริ่มต้นของเส้นทาง ซึ่งยังมีส่วนประกอบต่างๆ อีกมากที่จะตามมาในไตรมาสต่างๆ ของปีนี้ เป้าหมายของเราคือไม่หยุดพัฒนาโซลูชั่นในการเชื่อมต่อการใช้งานเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ไม่ว่าจะการใช้งานของลูกค้าในเมือง ในพื้นที่ภูมิภาค เรามุ่งมั่นที่จะเชื่อมต่อลูกค้ากับสิ่งที่สำคัญที่สุดและเพิ่มศักยภาพให้สังคม” นายชารัด กล่าวในที่สุด
เกี่ยวกับคลื่น 26 GHz – คลื่น 26 GHz หรือ mmWave เป็นคลื่นความถี่สูงที่มีคุณสมบัติพิเศษ เหมาะสำหรับการใช้งานความเร็วสูงสุดเพื่อรับส่งข้อมูล และสามารถเพิ่มความสามารถในการรองรับการใช้งานในปริมาณมากพร้อมทั้งมีความแม่นยำในการใช้งาน เพื่อรองรับนวัตกรรม 5G ต่างๆ ในอนาคตได้อย่างแท้จริง โดยสามารถนำมาพัฒนาคอนเทนท์ร่วมกับการใช้ VR หรือ AR รวมถึงออกแบบบริการ 5G เพื่อสาธารณสุขในที่ห่างไกล เป็นต้น
เกี่ยวกับ Massive MIMO technology – Massive MIMO คืออุปกรณ์รับส่งสัญญาณที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย 4G LTE-TDD ให้มีคุณภาพสูง พร้อมทั้งยังเพิ่มความสามารถ (Capacity) ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อใช้งานรับชมวิดีโอ ความละเอียดสูง แบบ Full HD และการใช้งานอินเทอร์เน็ตอื่นๆ ให้แก่ลูกค้า โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานหนาแน่นและบริเวณตึกสูงอย่างในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการใช้งานข้อมูลในปริมาณมาก การนำเทคโนโลยี Massive MIMO มาใช้ นับเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมการสื่อสารโทรคมนาคมไทย เพื่อรองรับการใช้งานยุคอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในอนาคตสำหรับดีแทค
#TelecomLover #dtac