กรุงเทพฯ — 9 มีนาคม 2563 — LINE ประเทศไทย ประกาศเดินหน้าโครงการ LINE ScaleUp 2020 โปรแกรมต่อยอดความสำเร็จสตาร์ทอัพไทยสู่ตลาดโลก มีเป้าหมายสูงสุดเพื่อยกระดับศักยภาพสตาร์ทอัพไทยด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยีจาก LINE พร้อมโอกาสให้ได้รับทุนสนับสนุนจากต่างประเทศ โดยปีนี้ขอเชิญชวนสตาร์ทอัพสัญชาติไทยระดับซีรีส์ A ขึ้นไป ส่งโปรไฟล์และแผนธุรกิจให้โครงการพิจารณา โดยจะคัดเลือกทีมเข้าสู่ ScaleUp Camp ร่วมพัฒนาเตรียมความพร้อมก่อนนำเสนอสู่นักลงทุนเพื่อผลักดันสู่เส้นทางยูนิคอร์นต่อไป
เจเดน คัง รองประธานกรรมการฝ่ายกลยุทธ์ LINE ประเทศไทย ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร LINE ScaleUp กล่าวว่า โครงการ LINE ScaleUp เริ่มต้นครั้งแรกในปี 2561 เพื่อมอบโอกาสให้สตาร์ทอัพไทยได้ขยายการให้บริการผลิตภัณฑ์ของตนสู่แพลตฟอร์ม LINE โดยเน้นเพิ่มศักยภาพ สร้างความแข็งแกร่ง เตรียมความพร้อมให้สตาร์ทอัพไทยสู่ตลาดโลกและได้รับโอกาสจากการระดมทุนระดับนานาชาติ พร้อมมอบสิทธิพิเศษในการใช้เทคโนโลยี LINE Messaging API การให้คำปรึกษาด้านเทคนิค และคำแนะนำด้านธุรกิจและการลงทุน โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างสตาร์ทอัพไทยสู่ยูนิคอร์นที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก
ปีที่ผ่านมาโครงการ LINE ScaleUp ได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากสตาร์ทอัพไทยในการสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยแต่ละรายที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการยังประสบความสำเร็จในการขยายและพัฒนาธุรกิจ (Scale) อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเรียนรู้และนำเทคโนโลยีของไลน์ไปใช้ในธุรกิจจนสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างไร้ขีดจำกัด และบางรายยังได้รับเงินทุนเพิ่มขึ้นจากนักลงทุนต่างชาติจากการเดินสายนำเสนอแผนธุรกิจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการของเรา
“สำหรับปีนี้ LINE ScaleUp มองหาสตาร์ทอัพสัญชาติไทยระดับซีรีส์ A ที่มีความชัดเจนในสินค้าและบริการว่าเป็นที่ต้องการของตลาดและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค (B2C) รายบุคคล เพราะไลน์เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าถึงผู้ใช้ซึ่งเป็นผู้บริโภคโดยตรง และที่สำคัญ สตาร์ทอัพจะต้องมีความตั้งใจที่จะใช้เทคโนโลยีของไลน์ในการขยายธุรกิจของตน” นายเจเดน กล่าวเสริม
เขากล่าวอีกว่า “จากสถานการณ์ปัจจุบันที่เรากำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งถึงแม้จะเห็นว่ากำลังซื้อหดตัวอย่างมาก แต่เราพบว่าธุรกิจที่สามารถเดินหน้าไปต่อได้โดยได้รับผลกระทบน้อยกว่า คือ ธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลเป็นหลัก หรือมีช่องทางการเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัล สิ่งนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการสื่อสารที่กำลังเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจอย่างชัดเจน นอกจากนั้น ในโอกาสวิกฤตเช่นนี้ ถือเป็นโอกาสหรือช่วงเวลาที่เหมาะสมของสตาร์ทอัพในการปรับตัว พัฒนาและต่อยอดเพื่อที่จะเตรียมความพร้อมในการขยายธุรกิจ เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่จะต้องเกิดขึ้นในอนาคต”
“ปัจจุบัน สตาร์ทอัพไทยส่วนใหญ่ถือว่ายังอยู่ในระยะเริ่มต้น และยังมีโอกาสอีกมากมายที่จะพัฒนาต่อไป LINE พร้อมสนับสนุนองค์ความรู้และเครื่องมือต่างๆ ให้กับสตาร์ทอัพไทยอย่างเต็มที่ เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้พวกเขาสามารถพัฒนาและเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในไทย ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของเราที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” นายเจเดน กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับสตาร์ทอัพไทยที่มีความสนใจเข้าร่วมโครงการ LINE ScaleUp สามารถลงทะเบียนสมัครได้ที่ http://scaleup.line.me ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พร้อมเตรียมเสนอผลงานในเดือนมิถุนายน และจะมีการเข้าสู่ ScaleUp Camp ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม จากนั้นจะคัดเลือกอีกครั้งเพื่อหาทีมที่ดีที่สุดในเดือนพฤศจิกายนเพื่อผลักดันสู่เส้นทางยูนิคอร์นที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกต่อไป
