กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 20 พฤษภาคม 2563: การขายของแบบไลฟ์สดถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ล่าสุดบนโลกโซเชียลมีเดีย นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ร้านค้าที่ขายผ่านไลฟ์สดบน Facebook สามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 200% และเนื่องจากความนิยมของการไลฟ์ขายของที่เพิ่มขึ้นนี้เอง ทำให้หลายธุรกิจและแบรนด์ ต่างเตรียมตัวเพื่อก้าวสู่วงการไลฟ์สดขายสินค้ากันมากขึ้น

Shoplus ผู้นำด้านการให้บริการเทคโนยี AI ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไลฟ์สดขายของ ซึ่งนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ใช้บริการที่เป็นร้านค้าคนไทยเพิ่มขึ้นถึง 500% เนื่องจากผู้คนต้องการหาช่องทางใหม่ในการขายสินค้า แม้กระทั่งทางรัฐบาลก็หันมาใช้อีคอมเมิร์ซในการขายผลไม้ที่ไม่สามารถส่งออกได้เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

หลายคนอาจจะมีคำถามว่า การไลฟ์สดให้ปังต้องทำยังไงบ้าง การไลฟ์สดจะเหมาะกับสินค้าของเรารึเปล่าหรือเรามีอุปกรณ์เพียงพอในการเริ่มไลฟ์รึยัง

ก่อนจะเริ่มสู่เทคนิคข้อแรก สิ่งที่สำคัญที่สุดในการไลฟ์ขายของออนไลน์ให้ปัง คือการมีผู้ชม เนื่องจากยอดขายจะมากหรือน้อยก็มีผลมาจากจำนวนคนที่เข้าดูการไลฟ์ด้วย และเหมือนกับงานขายอื่นๆ กุญแจสู่ความสำเร็จคือ การวางแผน ซึ่ง Shoplus ได้รวบรวมเทคนิค 10 ข้อจากประสบการณ์ตรงของร้านค้ามากประสบการณ์ ที่จะช่วยให้คุณพร้อมกับการไลฟ์สด ขายของออนไลน์ให้ปังได้อย่างแน่นอน!

Shoplus แบ่งการเตรียมตัวไลฟ์เป็น 3 ส่วน คือ ก่อนไลฟ์สด, ไลฟ์สด และหลังไลฟ์สด

เตรียมพร้อม ก่อนเริ่มไลฟ์สด!

1. ช่วงเวลาไหน ขายดี: ช่วงเวลาถือเป็นส่วนสำคัญมากสำหรับการไลฟ์สดขายของ หากเราเลือกไลฟ์สดถูกวันและถูกเวลาจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ชมและยอดขายของร้านได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถใช้ Facebook analytics เพื่อดูว่าลูกค้าของเราปกติใช้โซเชียลมีเดียมากที่สุดตอนไหน แล้วก็ปรับเวลาการไลฟ์ของคุณตามนั้นได้เลย

2. บอกให้โลกรู้ ว่าคุณจะไลฟ์!: เช่นเดียวกันกับโฆษณาของหนังและรายการทีวี คุณต้องประกาศให้ผู้คนรู้ว่าคุณขายอะไร ขายเมื่อไหร่ ลองโปรโมทไลฟ์ของคุณด้วยการโพสต์รูปสินค้า และแจ้งช่วงเวลาที่คุณจะไลฟ์บนเพจของคุณล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วัน ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงนาทีสุดท้าย และอย่าลืมว่าคุณสามารถโพสต์บนโซเชียลของคุณได้ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Instagram, Twitter หรือว่าจะเป็น Tiktok

3. เตรียมตัวไลฟ์: ตรวจเช็คว่าคุณมีพื้นที่เพียงพอในการขยับไปมาได้สะดวก และผู้ชมสามารถเห็นสินค้าได้ถนัด เพราะถ้าเห็นสินค้าไม่ชัด ลูกค้าคงไม่ซื้อแน่ ดังนั้นเช็คให้ดีว่าแสงและพื้นหลังสว่างเพียงพอหรือยัง ยิ่งฝึกก็จะยิ่งเก่ง ลองทำแล้วค่อยๆ แก้ปัญหาไป หากรู้สึกว่าการทำทุกอย่างด้วยตัวเองอาจจะยากเกินไป ลองชวนเพื่อนมาช่วยขายด้วยกัน และอย่าลืมว่าการช็อปปิ้งเป็นเรื่องสนุก ยิ่งผู้ชมมีส่วนร่วมมากเท่าไหร่ก็มีโอกาสที่พวกเขาจะซื้อสินค้ามากเท่านั้น

4. ถ่ายวิดีโอไลฟ์ให้ปัง: ไม่มีกล้องเทพๆ หรอ ไม่เป็นไรเลย แค่มือถือเครื่องเดียว ก็ไลฟ์ได้สบาย เพราะจริงๆแล้วส่วนมากคนจะดูไลฟ์ผ่านโทรศัพท์มือถือกันทั้งนั้น ตั้งกล้องแนวตั้งเพื่อให้ภาพเต็มจอ และก่อนเริ่มอย่าลืมเช็คให้แน่ใจว่าชาร์ตแบตโทรศัพท์มือถือไว้เต็มแล้ว และสัญญาณอินเตอร์เน็ตเสถียรดีรึเปล่า เท่านี้คุณก็ใกล้พร้อมไลฟ์ได้แล้ว

ถ้าทุกอย่างพร้อมแล้ว หายใจลึกๆ แล้วไปเริ่มไลฟ์กัน!

5. เริ่มทักทายแล้วพูดไปยาวๆ เลย: ถ้าคุณเคยดูการขายผ่านไลฟ์สดมาก่อน คุณคงรู้ว่าไลฟ์ที่ดีคือไลฟ์ที่สนุก ดังนั้นเริ่มต้นไลฟ์ด้วยการพูดคุยทักทาย กล่าวต้อนรับผู้ชม ซึ่งลูกค้าบางคนอาจจะไม่ได้เข้ามาดูตั้งแต่แรก ดังนั้นหมั่นบอกผู้ชมว่าคุณกำลังทำอะไร พูดแนะนำร้านค้า สินค้าและโปรโมชั่นพิเศษของคุณบ่อยๆ ทำตัวสบายๆ แล้วสนุกกับมัน ลองนึกภาพว่าคุณกำลังคุยกับเพื่อน ทุกอย่างอาจจะไม่ได้เพอร์เฟค แต่ไม่ต้องตื่นเต้น คนชอบอะไรที่ดูจริง และการไลฟ์สดก็ช่วยโชว์อีกด้านให้ร้านหรือแบรนด์ของคุณ

6. สังเกตช่องสนทนาเสมอ: คอยมองข้อความที่ขึ้นมาใหม่แล้วมีส่วนร่วมกับผู้ชม ไม่ว่าจะเป็น การทักทายผู้ที่เข้ามาใหม่ ขอบคุณลูกค้าที่ซื้อสินค้า และพยายามตอบสนองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่จำเป็นต้องตอบทุกอัน แต่การตอบจะช่วยให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมและรู้สึกสำคัญ ระหว่างที่คุณไลฟ์สดขายของ คุณไม่เพียงแค่ขายสินค้า แต่คุณกำลังขายความเป็นตัวเองที่ทำให้การขายออกมาในรูปแบบเฉพาะตัว ช่วยให้ลูกค้าจดจำร้านคุณได้

7. โชว์ตัวตนของคุณออกมา: คนมักซื้อสินค้าจากคนที่รู้สึกชอบ เช่นเดียวกับการที่เราซื้อสินค้า  การเป็นผู้ขายที่ดีจะสามารถดึงดูดคนเข้ามาที่ร้านเพิ่มขึ้น ด้วยวิธีการพูดหรือการขายที่สนุกและน่าสนใจ ลองเพิ่มมูลค่าให้ร้านและเอกลักษณ์ให้แบรนด์ด้วยบุคลิกภาพที่โดดเด่นของคุณ  

ไลฟ์สดจบ แต่การขายของออนไลน์ยังไม่จบ

8. สร้างความน่าเชื่อถือ: ไลฟ์ขายของเสร็จแล้ว อย่าพึ่งหยุดเท่านั้นโพสต์ขอบคุณผู้ชมและลูกค้าที่ให้ความสนับสนุนบนช่องทางโซเชียลมีเดียของร้าน ซึ่งคุณสามารถแชร์ภาพการทำงานเพื่อส่งสินค้าไปให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นระหว่างแพ็คของ หรือสินค้าที่พร้อมจัดส่ง เพื่อแสดงความจริงใจและสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ของคุณได้อีกด้วย

9. วิเคราะห์ผลลัพธ์: ย้อนดูไลฟ์สดของคุณเพื่อมาปรับปรุงการไลฟ์ครั้งต่อไปดูสิ ลองดูว่าคุณพูดเร็วไปไหม ท่าทางเป็นอย่างไรบ้าง ให้เวลาลูกค้าในการชมสินค้าเต่ละชิ้นนานพอหรือไม่ ส่วนไหนดีแล้วก็ทำต่อไป แล้วปรับปรุงในส่วนที่คิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ทำให้การไลฟ์สดครั้งต่อไปปังขึ้นไปอีก

10. วางแผนการไลฟ์ครั้งต่อไป: หลังจากได้ลองการไลฟ์สดขายของไปแล้ว การไลฟ์ครั้งต่อไปจะน่าตื่นเต้นกว่าเดิม อย่าหยุดที่จะสร้างความเคลื่อนไหวในร้านของคุณ แล้วสร้างการพูดถึงในหมู่ผู้ติดตาม หากผู้ชมชื่นชอบการไลฟ์ของคุณ เค้าจะช่วยแชร์ต่อไปยังเพื่อนฝูง เพื่อชวนกันมาชมไลฟ์ครั้งต่อไป การเดินทางของคุณพึ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น

หากคุณคิดว่าการไลฟ์สดขายของคือคำตอบของแบรนด์ของคุณ Shoplus ระบบจัดการออเดอร์อย่างครบวงจรมีขั้นตอนการติดตั้งที่ง่ายและสะดวก เชื่อมต่อกับ Facebook ได้โดยตรง ให้ร้านค้ามีส่วนร่วมกับผู้ชมได้มากขึ้น สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ช่วยจัดเก็บและจัดการออเดอร์พร้อมปิดยอดรับชำระเงินด้วยฟังก์ชั่นต่างๆไม่ว่าจะเป็น AI-Live sell จาก Shoplus ที่ช่วยจัดเก็บออเดอร์อัตโนมัติจากคอมเมนต์และข้อความ ไปจนถึงติดต่อลูกค้าเพื่อปิดออเดอร์ระหว่างไลฟ์ได้ทันที AI-Chatbot ซึ่งเป็นระบบบอทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการขายออนไลน์ของ Shoplus ช่วยทักหาลูกค้าที่สนใจสินค้า เพื่อแนะนำการสั่งซื้อ ยืนยันออเดอร์และช่วยปิดการขายได้อัตโนมัติ ส่วน AI-Messenger จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและนำข้อมูลการจัดส่งของลูกค้าในแชทมาสร้างเป็นออเดอร์ให้อัตโนมัติ

Shoplus ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับร้านที่พึ่งสร้างเพจ Facebook ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ด้วยสิทธิ์ลงทะเบียนใช้บริการฟรี 3 เดือน สามารถลงทะเบียนได้แล้วที่ https://fw.shoplus.app/rV1H

Comments

comments