กรุงเทพฯ – 9 มิถุนายน 2563 – วีเอ็มแวร์ (NYSE: VMW) ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมซอฟต์แวร์ระดับองค์กร ระดมกำลังอีโคซิสเต็มส์พาร์ทเนอร์ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น เพื่อช่วยให้ลูกค้าเชื่อมต่อ เติบโต ขยายขนาด และปกป้องสินทรัพย์ขององค์กรจากการดำเนินธุรกิจ รวมถึงเมื่อเกิดความชะงักงันในสังคม (societal disruption) เช่นปัจจุบัน ทำให้มีพนักงานที่ต้องทำงานแบบรีโมทเป็นจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมากก่อน วีเอ็มแวร์จึงได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เร่งสร้างความคล่องตัวในการทำงานแบบโมบิลิตี้ในระดับองค์กรให้เร็วมากขึ้น เพื่อสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจภายในภูมิภาค

ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ วีเอ็มแวร์ได้เพิ่มความช่วยเหลือให้กับองค์กรต่าง ๆ ทั่วทั้งภูมิภาคให้สามารถดำเนินการตามแผนสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว โดยให้กระทบกับการปฏิบัติงานจริงน้อยที่สุด ด้วยวิธีการดังนี้:

• เชื่อมต่อ และให้พนักงานมีส่วนร่วมในการทำงานผ่านโซลูชัน Digital Workspace ด้วยการเข้าถึงแอปพลิเคชันที่สำคัญผ่านอุปกรณ์ขององค์กร หรืออุปกรณ์ส่วนตัวได้อย่างราบรื่น

• เพิ่มประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันระดับองค์กรในการเชื่อมต่อระยะไกลมากขึ้น

• ขยายความสามารถได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เมื่อมีผู้ใช้งานระยะไกลรายใหม่เข้ามา และมีความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น

• ปกป้องเอ็นพอยท์ทั้งหมดขณะที่พนักงานสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลขององค์กรจากระยะไกลได้อย่างปลอดภัย

อูมา ทานา บาลาซินแกม รองประธานฝ่ายธุรกิจพาร์ทเนอร์ ของวีเอ็มแวร์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่า “ในขณะที่ลูกค้าของเราพบกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และอนาคตของการทำงานที่เปลี่ยนไปตลอดกาล ท่ามกลางชีวิตวิถีใหม่ หรือที่เรียกกันว่า นิวนอร์มอล (New Normal) องค์กรต้องการให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยได้จากทุกที่ ทุกเวลา พาร์ทเนอร์ของเรายังคงทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาที่ไว้วางใจได้ ในการช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับตัวและเติบโตขึ้น ลูกค้าของเราได้รับความช่วยเหลือจากพาร์ทเนอร์ในการติดตั้งเพื่อให้สามารถทำงานระยะไกล, สร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับแอปพลิเคชันและรองรับคลาวด์ ครอบคลุมถึงโซลูชันด้านความปลอดภัยอย่างแท้จริงได้ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ หรือเร็วกว่านั้น เราขอขอบคุณในความตั้งใจและความพยายามทั้งหมดของพาร์ทเนอร์ของเราในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา”

พาร์ทเนอร์ของวีเอ็มแวร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นร่วมแบ่งปันเรื่องราวประทับใจ

ประเทศไทย

“VMware Workspace ONE เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำในการให้บริการ Digital Workplace ที่เสถียร และง่ายต่อการใช้งาน ช่วยสร้างความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ ทำให้เราก้าวล้ำเหนือกว่าตลาด ถึงแม้จะมีการแข่งขันสูงก็ตาม” สุทธินันท์ พรศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิวชั่น แอดวานซ์เทค

อินเดีย

“วีเอ็มแวร์ได้ให้การสนับสนุนอันช่วยให้คอมมูนิตี้ของพาร์ทเนอร์เติบโตและสามารถปรับตัวทันต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการสนับสนุนของวีเอ็มแวร์ เราสามารถเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าได้ดีขึ้น รวมถึงการสนับสนุนรูปแบบธุรกิจใหม่ๆด้วยโซลูชันของวีเอ็มแวร์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าของเรา” ซับบาแรม โกวลา, กรรมการผู้จัดการ บริษัท Gowra Bits & Bytes P กล่าว

สิงคโปร์

“ลูกค้าส่วนใหญ่ของเรามีเวลาในการวางแผนสำหรับ การสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจในเวลาอันสั้น ซึ่งน้อยกว่าหนึ่งวันเสียอีก และยังเป็นสเกลใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาได้เตรียมการไว้อีก แต่ด้วยการสนับสนุนและร่วมมือกับวีเอ็มแวร์ ทำให้เราสามารถช่วยลูกค้าของเราแก้ปัญหาที่ท้าทายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกระทบกับการดำเนินธุรกิจของพวกเขาที่น้อยที่สุด” ลี ชอง-วิน, ซีอีโอของ Logicalis Asia กล่าว

วีเอ็มแวร์ผลักดันให้อีโคซิสเต็มส์พาร์ทเนอร์ในเอเชียมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ล่าสุดได้ทำการปรับพอร์ทเทคโนโลยีขององค์กรให้สอดรับกับธุรกิจ ช่วยให้ เชื่อมต่อ เติบโต รองรับการขยาย และปกป้องธุรกิจ เมื่อต้องรับมือกับ “ชีวิตวิถีใหม่ หรือ “New Normal”

VMware Workspace ONE ช่วยให้พนักงานในองค์กรมีดิจิทัลเวิร์คสเปซที่ปลอดภัยมากขึ้นบนทุกอุปกรณ์ รวมถึงอุปกรณ์โมบายล์ส่วนตัว เดสก์ท็อป และโน๊ตบุ๊ก ด้วยการใช้ประโยชน์จากโซลูชันคลาวด์คอมพิวติ้ง Disaster Recovery as a Service (DRaaS) เพื่อการเข้าถึงได้มากที่สุด แพลตฟอร์มนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้งานที่ไม่มีอุปกรณ์ Windows สามารถเข้าถึงหน้าเดสก์ท็อปของตนจากที่ทำงานโดยใช้ VMware Horizon นอกจากนี้ VMware Assist ยังอนุญาตให้มีการแก้ไขปัญหาของอุปกรณ์จากระยะไกลด้วย

VMware SD-WAN by VeloCloud ทำให้องค์กรสามารถ deploy ได้อย่างรวดเร็ว มีศักยภาพสูงในการเข้าถึงสาขา (branch access) ผ่านคลาวด์ หรือดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กร ช่วยให้องค์กรสามารถปรับขยายเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึงทรัพยากรสำคัญได้ทุกที่ทุกเวลา

VMware Carbon Black Cloud มีการเปิดใช้งาน machine learning และการวิเคราะห์พฤติกรรม ทำให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัยสามารถ ป้องกัน ตรวจจับ และตอบสนองต่อภัยคุกคาม ช่องโหว่ หรือกำหนดค่าระบบที่มีความเสี่ยงได้แบบเรียลไทม์ ช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ปลายทาง และเวิร์กโหลดของธุรกิจมีมากขึ้น ส่งผลให้องค์กรมีดิจิทัลเวิร์กสเปซที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับพนักงานที่ทำงานจากระยะไกล

VMware Horizon, Workspace ONE, VeloCloud และ Carbon Black เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือเครื่องหมายการค้าของ VMware Inc. หรือ บริษัทสาขาในสหรัฐอเมริกา และเขตอำนาจศาลอื่น ๆ

 

Comments

comments