กรุงเทพฯ ประเทศไทย 31 สิงหาคม 2563 – เสียวหมี่ ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศว่าจะเริ่มการผลิตสมาร์ทโฟนจำนวนมากที่ติดตั้งกล้องถ่ายภาพใต้จอ รุ่นที่ 3 อย่างเป็นทางการในปีหน้า นี่ถือเป็นกลยุทธ์ล่าสุดของเสียวหมี่ในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ที่ได้รับแรงสนับสนุนจากนวัตกรรมเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องของบริษัท
รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรกที่เพิ่งเปิดเผยไปของเสียวหมี่ แสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินการที่โดดเด่นของบริษัทในตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม ในไตรมาสที่สองของปี 2563 ราคาขายเฉลี่ย (“ASP”) ของสมาร์ทโฟนของบริษัท เพิ่มขึ้นสูงถึง 11.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกับปีก่อน สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงรุ่นใหม่ของเสียวหมี่ไม่ว่าจะเป็น Mi 10 series และ Mi 10 Ultra ที่เพิ่งเปิดตัวไป ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้นำและสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในตลาดระดับไฮเอนด์
ในตลาดต่างประเทศการจัดส่งสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมของเสียวหมี่ที่มีราคา 300 ยูโรขึ้นไป เพิ่มขึ้นสูงถึง 99.2% เมื่อเทียบปีต่อปีในไตรมาสที่สองของปี 2563 จากข้อมูลของ Canalys การจัดส่งสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ในยุโรปเพิ่มขึ้นถึง 64.9% เมื่อเทียบช่วงเดียวกับปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัทได้ถือครองส่วนแบ่งการตลาดรวม 16.8% และติดอันดับสามอันดับแรกในตลาดเป็นครั้งแรก ในยุโรปตะวันตกการจัดส่งสมาร์ทโฟนของบริษัทเติบโตขึ้น 115.9% เมื่อเทียบช่วงเดียวกับปีก่อน ทำให้เสียวหมี่มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 12.4%
กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ของเสียวหมี่เกิดขึ้นจากความสำเร็จทางด้านเทคโนโลยีของเสียวหมี่ ไม่นานหลังจากเปิดตัวแบตเตอรี่กราฟีน 120 วัตต์ ที่มีการผลิตจำนวนมากเป็นครั้งแรกใน Mi 10 Ultra เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม เสียวหมี่ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่มีศักยภาพในการผลิตจำนวนมากเช่นกันกัน นั่นก็คือเทคโนโลยีกล้องใต้จอรุ่นที่ 3 เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดนี้สามารถอำพรางกล้องหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบภายใต้หน้าจอของโทรศัพท์โดยไม่ทำให้เอฟเฟกต์การแสดงผลแบบขอบจรดขอบขาดหายไป จากการการหลบเลี่ยงรูและ dot drops เทคโนโลยีนี้ทำให้รูปแบบเต็มหน้าจอที่สมบูรณ์แบบกลายเป็นจริง
ตั้งแต่รุ่นแรกของเทคโนโลยีที่อยู่ในห้องทดลองไปจนถึงรุ่นที่สองที่เปิดตัวสู่สาธารณะอย่างเป็นทางการ เสียวหมี่ไม่เคยหยุดการพัฒนากล้องใต้หน้าจอ ในเทคโนโลยีกล้องใต้จอรุ่นที่สาม เสียวหมี่ได้ปรับปรุงเอฟเฟกต์แบบเต็มหน้าจอเป็นอย่างมาก ผ่านการจัดเรียงพิกเซลที่พัฒนาขึ้นเองและการปรับอัลกอริทึมของกล้องให้เหมาะสม ทำให้สามารถแสดงประสิทธิภาพได้เช่นเดียวกับกล้องหน้าทั่วไป ความก้าวหน้าเหล่านี้ทำให้เสียวหมี่สามารถปรับปรุงเทคโนโลยีและนำไปสู่การผลิตจำนวนมากได้
การจัดเรียงพิกเซลที่พัฒนาขึ้นเองที่ใช้ในเทคโนโลยีกล้องใต้จอรุ่นที่ 3 ของเสียวหมี่ ช่วยให้หน้าจอสามารถส่งแสงผ่านพื้นที่ช่องว่างของพิกเซลย่อยได้ ทำให้แต่ละพิกเซลสามารถคงรูปแบบพิกเซล RGB ย่อย ที่สมบูรณ์โดยไม่ลดความหนาแน่นของพิกเซลลง เมื่อเทียบกับโซลูชันทั่วไปในตลาด เสียวหมี่ได้เพิ่มจำนวนพิกเซลในแนวนอนและแนวตั้งเป็นสองเท่าโดยมีความหนาแน่นของพิกเซลที่เท่ากันเหนือกล้องเช่นเดียวกับพื้นที่แสดงผลที่เหลือ ดังนั้นพื้นที่ด้านบนของกล้องจึงแสดงให้เห็นถึงความสว่างช่วงสีและความแม่นยำของสีเช่นเดียวกับส่วนที่เหลือของจอแสดงผล
จากการจัดเรียงพิกเซลแบบใหม่ล่าสุดกล้องใต้จอรุ่นที่ 3 ของเสียวหมี่ ยังใช้การออกแบบวงจรแบบพิเศษเพื่อซ่อนส่วนประกอบต่างๆ ภายใต้พิกเซล RGB ย่อย เพื่อเพิ่มการส่งผ่านแสงของพื้นที่กล้องใต้หน้าจอ เมื่อรวมเข้ากับอัลกอริธึมการเพิ่มประสิทธิภาพที่พัฒนาขึ้นเองของเสียวหมี่ กล้องใต้จอรุ่นใหม่นี้จะมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่อัพเกรดขึ้น ประสิทธิภาพการถ่ายภาพเทียบเท่ากล้องหน้าทั่วไป
เสียวหมี่ตั้งเป้าที่จะนำเทคโนโลยีนี้สู่ตลาดในปีหน้า
“จงอย่าหยุดที่จะสำรวจและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ” เป็นหลักการสามประการแรกของเสียวหมี่ เสียวหมี่ได้สำรวจความเป็นไปได้ในการใช้งานเทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ อย่างต่อเนื่อง การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมากทุกปี และผลแห่งความพยายามของเสียวหมี่ประความสำเร็จและออกสู่ตลาด Mi 10 Ultra ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้มีเทคโนโลยีระดับแนวหน้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการชาร์จเร็วที่พัฒนาขึ้นเองโดยผสมผสานการชาร์จเร็วคู่ที่ทันสมัยที่สุดในโลกของการชาร์จแบบมีสาย 120 วัตต์และแบบไร้สาย 50 วัตต์ AI super zoom 120 เท่าและเทคโนโลยี Dual Native ISO Fusion มอบประสบการณ์การถ่ายภาพชั้นเลิศ ส่งผลให้ติดท็อปอันดับของการจัดอันดับ DXOMARK เทคโนโลยีกล้องใต้จอรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวในวันนี้ทำหน้าจอแสดงผลแบบเต็มหน้าจอกลายเป็นจริง เบื้องหลังนวัตกรรมเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสวงหาความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีขั้นสูงสุดของเสียวหมี่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการวิจัยและพัฒนาอีกด้วย
เป็นเวลานานแล้วที่ตลาดโทรศัพท์มือถือระดับไฮเอนด์นั้นมีไว้สำหรับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่ต้องใช้ความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่แข็งแกร่งเป็นกำลังสำคัญ ด้วยเหตุนี้เองจึงมีจำนวนผู้ผลิตที่จำกัด ปัจจุบันเสียวหมี่ได้สร้างข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใคร ทั้งในด้านการชาร์จเร็ว การถ่ายภาพ การแสดงผลและอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงการสำรวจและขยายข้อได้เปรียบเหล่านี้อย่างต่อเนื่องจะทำส่งผลให้โทรศัพท์มือถือของเสียวหมี่เป็นศูนย์กลางของตลาดไฮเอนด์
