กรุงเทพฯ — 5 พฤศจิกายน 2563  อเมซฟิต (Amazfit) เปิดตัว Amazfit Bip U สมาร์ทวอชรุ่นล่าสุดในตระกูล Wearable ของอเมซฟิต ด้วยดีไซน์สวยสะดุดตา น้ำหนักเบา พร้อมรองรับการใช้งานเพื่อการดูแลสุขภาพและติดตามการออกกำลังกายได้ในราคาที่ย่อมเยา ปรับเปลี่ยนหน้าจอการแสดงผลได้ตามต้องการ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับรู้ถึงข้อมูลสุขภาพเพื่อติดตามระดับความฟิตของร่ายกายแบบจัดเต็ม Amazfit Bip U พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 ที่ร้านค้าอย่างเป็นทางการของอเมซฟิตใน Shopee และพร้อมกันนี้ อเมซฟิตยังขนดีลข้อเสนอสุดพิเศษที่สุดแห่งปีในช่วงเทศกาล 11.11 ที่ไม่ควรพลาดและให้ลูกค้าเป็นเจ้าของสมาร์ทวอชที่ฮอตที่สุดของอเมซฟิตเพื่อดูแลสุขภาพและความฟิตในราคาพิเศษพร้อมรับของกำนัลมากมาย

ดีลพิเศษ 11.11 จากอเมซฟิต

โปรโมชันเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 00.00 น. ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ที่ 11.11 Big Sale ของ Shopee เตรียมพบกับทัพผลิตภัณฑ์ของอเมซฟิตราคาพิเศษมากมาย

ดีลพิเศษอื่น ๆ สำหรับลูกค้า:

  • ส่วนลดสูงสุด 60% และรับคูปองลดเพิ่มอีก 11%
  • ออเดอร์แรกในเทศกาล 11.11 จะได้รับ Amazfit GTS มูลค่า 4,799 บาท ฟรี
  • Top spender ที่มียอดซื้อสูงสุดจะได้รับ Amazfit T-Rex มูลค่า 5,190 บาท ฟรี
  • รับของขวัญพิเศษเพิ่มเติมในเทศกาล 11.11 วันเดียวเท่านั้น

พบโปรโมชั่นพิเศษเหล่านี้ได้ที่ Amazfit Official Store at Shopee : https://bit.ly/2SB4nTZ

Amazfit Bip U สมาร์ทวอชสำหรับแอ็คทีฟไลฟ์สไตล์

Amazfit Bip U คือเพื่อนฟิตเนสคู่ใจของคุณ ไม่ว่าจะความฟิตระดับไหน ก็จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้ ด้วยน้ำหนักที่เบาและการสวมใส่สบายของ Amazfit Bip U คุณจึงมั่นใจได้ในทุกกิจกรรมตลอดวัน คุณสมบัติเด่นของตัวเครื่องมีดังนี้

  • หน้าจอสีขนาดใหญ่ – เต็มอิ่มกับหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น แสดงผลได้ชัดขึ้นด้วยจอกระจก 2.5D Corning Gorilla 3 ขนาด 1.43” แบบ HD (ความละเอียด 320×302 พิกเซล) ที่ให้ภาพคมชัด ทนทาน เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ ทำให้การอ่านข้อความและการเตือนกำหนดการต่าง ๆ ชัดเจน หน้าจอยังสามารถปรับแต่งได้มากถึง 50 แบบ[1] หรือจะอัปโหลดภาพทำเป็นแบ็คกราวน์ก็ได้ และผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงข้อมูลที่จำเป็นให้แสดงบนหน้าจอหลักได้Amazfit Bip U มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ ดำ ชมพู และ เขียว
  • โหมดกีฬามากกว่า 60 แบบ[2] – Amazfit Bip U จัดเต็มข้อมูลการออกกำลังกายได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกีฬาหรือกิจกรรมยอดฮิต รวมกว่า 60 แบบ ทั้งการวิ่ง ปั่นจักรยาน โยคะ เต้น สเก็ต คิกบ็อกซิ่ง และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มาพร้อมกับเมตริกข้อมูลสำคัญแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • กันน้ำระดับ 5 ATM[3] – Amazfit Bip U สามารถกันน้ำลึกได้ถึง 50 เมตร
  • ฟีเจอร์ SomnusCare, BioTracker2 PPG และ OxygenBeats[4] – ฟีเจอร์การดูแลสุขภาพและ
    ฟิตเนสที่รอบด้าน จัดเต็มทั้ง SomnusCare™ ที่ช่วยติดตามช่วงการนอนหลับลึก หลับตื้น ช่วง REM หรือแม้แต่การพักงีบตอนกลางวัน[5] และให้คะแนน คุณจะได้ทราบถึงรูปแบบการนอนและพัฒนาคุณภาพการนอนได้ดีขึ้น ส่วน BioTracker2 PPG เป็นเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24/7 ด้วยเทคโนโลยี OxygenBeats ที่สามารถตรวจวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดได้ ถ้าคุณรู้สึกไม่สบาย เครียด หรือออกกำลังกายเข้มข้น อย่างมาราธอน หรือเข้ายิมหนัก ๆ ก็สามารถวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด
    และรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพร่างกายจากฟีเจอร์นี้
  • พิเศษสำหรับสุขภาพคุณผู้หญิง Amazfit Bip U สามารถติดตามวงจรของรอบเดือนและระยะตกไข่ จึงช่วยเตือนกำหนดให้ทราบและให้ข้อมูลจำเป็นได้
  • ดูแลความเครียด & ฝึกหายใจ – ผ่อนคลายได้มากขึ้นโดยการติดตามการหายใจของตัวเอง เพื่อดูแลความเครียด นาฬิการุ่นนี้รองรับการดูแลความเครียดและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฝึกหายใจ ช่วยให้คุณปรับระดับความเครียดให้สมดุลมากขึ้น
  • PAI[6] – ระบบ PAI™ Health Assessment System ล้ำสมัย จะแปรข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจและกิจกรรมต่าง ๆ ของคุณออกมาเป็นคะแนน ช่วยให้คุณเข้าใจสภาพความฟิตของร่างกายได้ในทันที
  • น้ำหนักเบา พร้อมแบตเตอรีอึด 9 วัน[7] –Amazfit Bip U มีน้ำหนักเพียง 31 กรัม และเมื่อชาร์จไฟเต็ม
    จะสามารถใช้ติดตามสุขภาพและกิจกรรมออกกำลังได้นานถึง 9 วัน
  • ใช้งานง่าย– Amazfit Bip U สามารถซิงก์ข้อความ อีเมล และการแจ้งเตือนต่าง ๆ จากแอปพลิเคชันยอดฮิตบนมือถือ จึงดึงข้อมูลที่มีประโยชน์มากมายมาไว้บนคลังที่ข้อมือได้ ทั้งนาฬิกาปลุก พยากรณ์อากาศ ควบคุมการเล่นเพลงบนโทรศัพท์ผ่านบลูทูธ รีโมทคอนโทรลกล้อง รวมทั้งแจ้งเตือนเมื่อคุณนั่งนิ่งอยู่นานเกินไป และฟังก์ชันช่วยหาโทรศัพท์

สมาร์ทวอชรุ่นนี้อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์การวิเคราะห์สุขภาพและติดตามการออกกำลังมากมาย ช่วยให้ผู้ใช้ไปถึงเป้าหมายด้านสุขภาพได้ง่ายขึ้น เพลิดเพลิน และเต็มที่กับชีวิตได้มากขึ้น

ราคาและการวางจำหน่าย

Amazfit Bip U จะพร้อมวางจำหน่ายทาง Amazfit Official Store ทาง Shopee ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 ในราคาสุดพิเศษเพียง 1,890 บาท

คุณสมบัติของตัวเครื่อง[8]
Amazfit Bip U
หน้าจอ 1.43″ full color TFT ความละเอียด 320×302
ขนาด 40.9 x 35.5 x 11.4 มม.
น้ำหนัก 31 กรัม พร้อมสาย
ทัชสกรีน กระจก 2.5D + เคลือบฟิล์มกันรอยนิ้วมือ
สี 3 สี ได้แก่ ดำ เขียว และ ชมพู
การเชื่อมต่อ บลูทูธ 5.0 BLE
เซ็นเซอร์ เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (BioTracker™ 2 PPG bio-tracking optical heart rate sensor)[9]
เซ็นเซอร์วัดความเร่งเซ็นเซอร์ตรวจจับการหมุน
การแสดงพิกัด Amazfit Bip U รองรับการเชื่อมต่อกับ GPS บนสมาร์ทโฟน
วัสดุตัวเรือน โพลีคาร์บอเนต
วัสดุสายนาฬิกา ซิลิโคน
ความยาวสายนาฬิกา 118 มม. (สายยาว), 76 มม. (สายสั้น)
ความกว้างสายนาฬิกา 20 มม.
กันน้ำ 5 ATM[10]
อายุการใช้งานแบตเตอรี 230mAh. ลิเทียมไอออนโพลีเมอร์ (ความจุขั้นต่ำ)

– สภาพการใช้งานทั่วไป: สูงสุด 9 วัน

– เวลาในการชาร์จ: ประมาณ 2 ชั่วโมง

โหมดสปอร์ต มีมากกว่า 60 โหมดให้เลือก
การแจ้งเตือน มี
แอคเซสเซอรี สายนาฬิกา แท่นชาร์จ คู่มือการใช้
อุปกรณ์ที่รองรับ Android 5.0 หรือ iOS 10.0 และรุ่นที่สูงกว่า
แอปพลิเคชัน Zepp

 

เกี่ยวกับ Amazfit

อเมซฟิต (Amazfit) ก่อตั้งในเดือนกันยายน ปี 2015 โดยเป็นแบรนด์ในเครือของ Huami Technology (NYSE: HMI) นำเสนอสมาร์ทวอช 7 รุ่นพร้อมสร้อยสายนาฬิกา ได้แก่รุ่น Stratos, Basic, Flagship, Health, Fashion, Outdoor และรุ่น X นอกจากนี้ Amazfit ยังมีอุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาและการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นหูฟังเอียร์บัดสไตล์สปอร์ต TWS ลู่วิ่งอัจฉริยะ เครื่องชั่งอัจฉริยะตรวจวัดบอดี้แฟต รวมทั้งชุดกีฬาและอุปกรณ์ การออกแบบและความเชี่ยวชาญเป็นเลิศได้ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอชของ Amazfit ได้รับรางวัลเกียรติยศมากมาย เช่น รางวัล iF Industrial Design และรางวัล Red Dot Design ของเยอรมัน ทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์ Amazfit มีวางจำหน่ายในกว่า 70 ประเทศทั่วโลกในภูมิภาคต่าง ๆ รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา เยอรมัน และญี่ปุ่น จากรายงานสำรวจอุปกรณ์แวร์เอเบิลระดับโลกของ IDC ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 นับได้ว่านาฬิกาของ Amazfit มีส่วนแบ่งตลาดนาฬิกาที่ผู้ใหญ่ใช้มากที่สุดในประเทศอิตาลี สเปน อินเดีย และหลายภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นนำในหลายประเทศ เช่น จีน เยอรมัน ฝรั่งเศส รัสเซีย และบราซิล เรียนรู้เกี่ยวกับบริษัทเพิ่มเติมได้ที่ https://en.amazfit.com/about.html

Huami Technology เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2013 โดยให้บริการระบบดูแลสุขภาพผ่านคลาวด์ ด้วยเทคโนโลยีแวร์เอเบิลอัจฉริยะ ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ ปี2018 Huami Technology ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) (ชื่อย่อหลักทรัพย์: HMI)

Comments

comments