จากกระแสการตอบรับเป็นอย่างมากของหนังสือ Digital Transformation in Actionที่ได้สร้างการตระหนักรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในโลกธุรกิจท่ามกลางวิกฤตและการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้คน หนังสือที่ว่าด้วยหลักการสู่การนำไปปฎิบัติได้จริง ปรับเพื่อเปลี่ยนองค์กรไปสู่ Digital Transformation Canvasตอกย้ำความรู้สู่การลงมือทำ

ในวันที่ทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากมหันตภัยครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งหลายคนกล่าวว่า เป็นมหันตภัยครั้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ระบบเศรษฐกิจทั้งโลกต่างได้รับผลกระทบที่รุนแรง นับเป็นอุบัติการณ์ที่สร้างผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้

คำถามที่ตามมาคือในสถานการณ์เช่นนี้ จะมีองค์กรหรือภาคธุรกิจที่สามารถรอดพ้นหรือเติบโตได้ในสภาพการณ์เช่นนี้หรือไม่ ?ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องนำมาวิเคราะห์ พร้อมกับหาโอกาส วิธีการหลักการ หรือกลยุทธ์เพื่อหาทางรอดและสร้างการเติบโต

พจธนพงศ์พรรณ ธัญญรัตตกุล กูรู และวิทยากร ด้าน Digital Transformation ผู้เขียนหนังสือ Best Seller และผู้ก่อตั้งสถาบันDigital Transformation Academy จับมือพันธมิตรBundanjai by SE-EDเปิดตัว3E-Book หนังสือ Digital Transformation Canvas ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย พร้อมเปิดตัวหนังสือ Digital Transformation in Action ฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยพลิกฟื้นธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตครั้งใหม่

จากบทวิจัยของ BloombergNEFs (BNEF) 2020 National Industrial Digitalization Raking ได้ทำการสำรวจประเทศที่มีการทำ Digital Transformation พบว่า ประเทศที่เป็นผู้นำในการทำกลยุทธ์ดิจิทัล และ Digital Transformation 10 อันดับแรก ได้แก่ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ เยอรมนี สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศษ แคนาดา สวีเดน

สำหรับประเทศไทย พบว่า ยังไม่ติดอันดับในกลุ่มประเทศชั้นนำที่ทำกลยุทธ์ดิจิทัล และ Digital Transformation ได้ดี และยังมีอันดับที่ต่ำกว่าประเทศอินเดีย แม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อประชากรสูงกว่าก็ตามตัวชี้วัดด้านดิจิทัลและการทำ Digital Transformation เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน เห็นได้จากรายงานของ IMD World Competitive Yearbook 2020 พบว่า ประเทศผู้นำที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง ได้แก่ สิงคโปร์ เดนมาร์ค สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ สวีเดน แคนนาดา สหรัฐอเมริกา โดยประเทศไทยอยู่อันดับที่ 29 ตกลงมาจากอันดับ 25 จากปี 2019

พจ ธนพงศ์พรรณ ธัญญรัตตกุล กล่าวว่า การเปิดตัว E-Book ครั้งแรกของหนังสือ Digital Transformation Canvas ภาษาอังกฤษและภาษาไทย และหนังสือ Digital Transformation in Action ฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด 2021 นี้ ก็เพื่อช่วยพลิกฟื้นธุรกิจสร้างการเติบโตครั้งใหม่ ด้วยการส่งเสริมองค์ความรู้ และ How-to ในการทำกลยุทธ์ดิจิทัล และ Digital Transformation ให้แพร่หลายในวงกว้างทั้งประเทศร่วมกันไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานเอกชนที่เป็นองคร์ขนาดใหญ่, ธุรกิจ SMEs, Startup หรือแม้แต่หน่วยงานของรัฐบาล โดยจะมีการจัดจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม E-Book ชั้นนำของ SE-ED และแพลตฟอร์มต่างประเทศของ Amazon

นอกจากนี้ ภายในงาน คุณพจ ธนพงศ์พรรณ ยังได้เปิดเผยเทรนด์ของการทำ Digital Transformation ปี 2021 ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ทั้งเรื่องของการทำ 5G, Smart Home, Smart City, Artificial Intelligence (AI), Digital Currency, Blockchain, Industry 4.0, Digital Health, Cybersecurity & Privacy, Quantum & Super Computer ที่จะเป็น New Normal ที่จะเกิดขึ้นจริงทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย

ในการทำ Digital Transformation ทั้งหมดมีองค์กรเพียง16% ที่ประสบความสำเร็จ ที่เหลือกว่า 84% ไม่สำเร็จ นั่นเพราะองค์กรเหล่านั้นเพียงแค่นำระบบไอทีหรือDigital Marketing ข้ามาใช้ในการทำธุรกิจเท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทรานส์ฟอร์มธุรกิจคำถามคือ เราจะนำธุรกิจของเราเข้าไปอยู่ในส่วน 16%ที่สำเร็จได้อย่างไร ?

จากผลการวิจัย อุตสาหกรรมที่อยู่รอด คือ อุตสาหกรรมด้านดิจิทัล นั่นคือ ไม่ว่าจะทำธุรกิจใดก็ตามหากมีการใช้ดิจิทัลธุรกิจนั้นย่อมสามารถTransform ธุรกิจได้

ในหนังสือเล่มแรก Digital Transformation in Action เป็นการพูดถึงหลักการในการที่จะเปลี่ยนองค์กรไปสู่ Digital หลักการต่างๆขั้นพื้นฐาน เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ ในโลกทุกวันนี้คู่แข่งในภาคธุรกิจเดียวกันไม่น่ากลัวเท่ากับคู่แข่งที่มาจากต่างอุตสาหกรรมและ Startup ที่เข้ามา Disrupt ธุรกิจที่มีอยู่เดิม ยกตัวอย่างเช่น Adobe ในสมัยก่อนจะทำการขายแบบเป็น Software Licenseปรับเปลี่ยนรูปแบบมาสู่การจำหน่ายแบบ Subscriptionและกลายเป็นผู้นำ MarTech(Marketing Technology) Platformของโลกเพื่อธุรกิจในที่สุด

ในวันนี้เราต้องมาดูว่า Core Business หรือสินทรัพย์หลักของธุรกิจเราคืออะไร มีนวัตกรรมใดที่คนทุกคนอยากใช้ สิ่งนั้นนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จริงได้อย่างไร?และในองค์กรเองก็ต้องปรับเปลี่ยนจากภายในด้วยเช่นกันเมื่อDigital Disruption และ โควิด-19 มา ธุรกิจสามารถเรียนรู้จากสูตรสำเร็จในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ จาก 20 บริษัทที่ทำ Digital Transformation ที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โดย Harvard Business Review ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นพิมพ์เขียวสำหรับการ Transform ธุรกิจที่สามารถวัดได้จาก 1.ธุรกิจมี New Growth หรือสร้างการเติบโตครั้งใหม่ ได้หรือไม่? 2.ธุรกิจนั้นสามารถเปลี่ยนธุรกิจจากเดิมไปสู่ธุรกิจใหม่อย่างไร ?และ 3.ต้องสร้างการเติบโตด้าน Financial ที่ดีด้วย

ตัวอย่างที่จะขอกล่าวถึง คือ แอร์เอเชีย จากธุรกิจสายการบินแบบดั้งเดิมทรานส์ฟอร์มสู่การเป็นSuper App  และemarketplace ในที่สุด 3 สิ่งที่จะเป็นตัวบอกว่าองค์กรกำลัง Transform หลายธุรกิจที่ล้มเหลว เราต้องศึกษาจากหลักการ และนำไปสู่การปฏิบัติในการทรานฟอร์มองค์กรของตนได้ในที่สุด

การทรานฟอร์มเป็นสิ่งที่จะต้องวางแผนและเริ่มลงมือทำ มีเป้าหมาย โดยเริ่มที่ Mindset ของทั้งผู้บริหารและบุคลากรในองค์กร (สร้างการตระหนักรู้ มีวิสัยทัศน์ และกำหนดเป้าหมาย)ต้องกำจัดอุปสรรคและข้ออ้างต่างๆที่จะไม่ประสบความสำเร็จ การเชคความพร้อมในการเริ่มต้นทรานฟอร์ม โดยวัด 6 เรื่องได้แก่1.โอกาสทางธุรกิจ2.การแข่งขัน 3.ลูกค้าเป้าหมาย4.Data เอาข้อมูลมาสร้างเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์5.การสร้างนวัตกรรม6.ความพร้อมของการเป็นองค์กรดิจิทัล ว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน

ซึ่งทั้งหมดนั้นต้องเห็นภาพในการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน และสามารถระบุได้ว่าTransform แล้วจะวัดความสำเร็จจากอะไร? หลัก 7 ด้านเพื่อวัดความสำเร็จของการTransform ได้แก่1.อะไรที่ทำให้เราต้องก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล 2.องค์กรมีวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับโลกดิจิทัลแล้วหรือไม่3.องค์กรมีวิสัยทัศน์ที่เอื้อต่อการอยู่ในโลกดิจิทัลหรือไม่ 4.ความสามารถในการกำหนดสิ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อให้องค์กรสามารถเข้าสู่โลกดิจิทัล5.การสร้างองค์กรที่มีความเป็นดิจิทัล  6.ดูว่าเราจะทรานฟอร์มองค์กรเป็นดิจิทัลในธุรกิจอะไร 7.รู้และระบุถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทรานส์ฟอร์มธุรกิจได้

จารุวรรณ เวชตระกูล ผู้อำนวยการสำนักพิมพ์วิช กล่าวว่า ในปี 2561 คุณพจได้สร้างแรงกระเพื่อมให้สังคมได้ทราบถึงการตื่นตัวในการปรับตัวให้รวดเร็วเพื่อตอบรับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ทำให้หนังสือ Digital Transformation in action ได้รับการตอบรับอย่างมาก ซึ่งหากองค์กรใดสามารถรู้และปรับตัวได้จากเมื่อ 2 ปีที่แล้วเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ในวันนี้จะไม่ได้รับผลกระทบที่มากเท่าองค์กรที่ไม่ได้เตรียมความพร้อมหรือปรับตัวเลย  และสำหรับในวันนี้ ที่สภาพแวดล้องของโลก มาเป็นปัจจัยเพื่อให้เราได้เปลี่ยนแปลง คำถามที่ว่า แล้วเราจะเปลี่ยนไปได้อย่างไร (อย่างงเร่งด่วนให้ทันการณ์) หนังสือ Digital Transformation Canvas คือ คำตอบ

รุ่งกาล ไพสิฐพานิชตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทุกวันนี้แม้พฤติกรรมของนักอ่านจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าทุกคนยังมองหาองค์ความรู้ที่มีประโยชน์และแสวงหาแรงบันดาลใจอยู่เสมอ และหนังสือคือสื่อที่มีคุณค่า อีกทั้งเรายังส่งเสริมสังคมรักการอ่านที่ให้เพื่อนนักเขียนได้นำเสนอสื่อต่างๆให้ผู้ได้สนใจขยายการเรียนรู้ โดยซีเอ็ดได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ในร้านหนังสือเพื่อสร้างประสบการณ์และยังปรับไปสู่หน้าร้านดิจิทัลให้สอดรับกับการเปลี่ยนไปของผู้คน ซึ่งผมขอยืนยันว่าBundanjai by SE-ED ตอบโจทย์นี้ได้ครบและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งว่าช่องทางต่างๆที่เรามีจะสามารถส่งต่อเรื่องราวดีๆไปสู่กลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างประโยชน์ได้ต่อไป โดยเฉพาะในครั้งนี้ที่มีวิกฤตต่อผู้ประกอบการในวงกว้าง

ซีเอ็ด เป็นองค์กรที่อยู่มา 40 กว่าปี การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอาจจะเป็นสิ่งที่ยังไม่คุ้นชินมากนัก แต่ใน 2 ปีที่ผ่านมา เราปรับตัวและพริ้วไหวเร็วขึ้น เริ่มจากการมองสภาพภายนอกและการมองให้เห็นถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่เปลี่ยนไป เรามองเรื่องประสบการณ์ของลูกค้าในทุกๆมิติ แพลตฟอร์มต่างๆ จึงเกิดขึ้น มีสาขาที่เป็นดิจิทัล สาขาแรก คือ สาขางามวงศ์วาน Digital Store คนทั่วไปจะสามารถเข้าถึง Content ได้ง่ายขึ้น และสามารถลิงค์กันระหว่าง online to off lineและ Offline to Online ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกื้อหนุนกัน

Mr. Austin Stanley Robinson ผู้เรียบเรียงหนังสือ Digital Transformation Canvas (ภาษาอังกฤษ) และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท วิรุฬห์ อินฟินิท โฮลดิ้ง จำกัด ที่ปรึกษาธุรกิจด้าน Digital & Organization Transformation กล่าวว่า หนังสือ Digital Transformation Canvas (ภาษาอังกฤษ) จะช่วยให้องค์ความรู้ด้าน Digital Transformation ไปสู่วงกว้างทั้งในและต่างประเทศ ที่แม้ว่าจะมีหนังสือภาษาอังกฤษประเภทนี้ในตลาดมากก็จริง แต่ยังไม่มีหนังสือที่เป็น How-To ที่มี Framework หรือกระบวนการที่ชัดเจนที่องค์กรสามารถเรียนรู้หลักการและนำไปปฏิบัติได้จริง โดยมีกรณีศึกษาระดับโลกมากมายเป็นตัวอย่างในหนังสืออีกด้วย นอกจากในหนังสือจะมีการกล่าวถึงหลักการทรานส์ฟอร์มและการสร้างขีดความสามารถใหม่ด้านดิจิทัลแล้ว ยังมีการเน้นถึงแนวคิดและแนวทางปฏิบัติในการทำ Organization & HR Transformation ซึ่งเป็นเรื่องของคนและการเปลี่ยนองค์กรที่เป็นหัวใจหลักของการทรานส์ฟอร์มอย่างแท้จริงอีกด้วยและยังเป็นที่น่าภูมิใจว่าในวันนี้ องค์ความรู้หรือทรัพย์สินทางปัญญาของคนไทยจะสามารถก้าวไปสู่ตลาดความรู้ในระดับโลกได้ นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี

คุณพจ ธนพงศ์พรรณ ยังเป็นผู้ก่อตั้งสถาบัน Digital Transformation Academy เพื่อช่วยองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และ How-To ในการทำ Digital Transformation ให้เกิดขึ้นจริงอีกด้วย และในปี 2564 ที่จะถึงนี้ จะมีการทำโครงการ Digital Transformation Thailand เพื่อช่วยขับเคลื่อน Digital Economy และการทำ Digital Transformation ให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย และเพื่อสนับสนุนการสร้างอุตสาหกรรม New S-Curve ใหม่ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ประเทศไทยอีกด้วยซึ่งในสภาวะการณ์เช่นนี้เราจะมารอคอยความหวังและความช่วยเหลือจากภาครัฐแต่เพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ องค์กรและหน่วยงานทุกภาคส่วนสามารถที่จะศึกษาและร่วมมือกันนำองค์ความรู้ด้าน Digital Transformation นำไปปรับใช้ ทั้งในส่วนบุคคลไปสู่องค์กร ซึ่งหากเราทำได้สำเร็จประเทศชาติและสังคมก็จะสามารถก้าวไปสู่ New S curve ได้อย่างเต็มรูปแบบและฝ่าวิกฤตไปได้แน่นอน

สำหรับผู้สนใจหนังสือ Digital Transformation Canvas ภาษาอังกฤษ หนังสือ Digital Transformation in Action ฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด สามารถดาวน์โหE-Book หนังสือ Digital Transformation Canvas ภาษาอังกฤษ ราคาเล่มละ 600 บาท และภาษาไทย ราคาเล่มละ 300 บาท และหนังสือ Digital Transformation in Action ฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด ราคาเล่มละ 300 บาท ได้ที่ www.se-ed.com และ www.bundanjai.com

Comments

comments