กรุงเทพฯ  — 25 พฤศจิกายน 2563 – อเมซฟิตเสริมทัพไลน์อัปสมาร์ทวอชแฟชั่นอีกสองรุ่น ทั้งอเมซฟิต จีทีอาร์ 2 (Amazfit GTR 2) ที่ผสมผสานความเป็นนาฬิกาข้อมือแบบดั้งเดิมเสริมด้วยฟีเจอร์ฟิตเนสแบบจัดเต็ม พร้อมด้วยรุ่นอเมซฟิต จีทีเอส 2 (Amazfit GTS 2) สมาร์ทวอชที่เพรียวบางและมีสไตล์ที่สุดของอเมซฟิตเท่าที่เคยมีมา โดยทั้งสองรุ่นพร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 นี้ บนช่องทางออนไลน์ใน Shopee ในราคาเพียง 5,599 บาทสำหรับอเมซฟิต จีทีเอส 2 และ 5,799 บาทสำหรับอเมซฟิต จีทีอาร์ 2  พร้อมดีลพิเศษและของกำนัลมากมายในช่วงเปิดตัว

ดีไซน์หรู เทคโนฯ ล้ำ
อเมซฟิต จีอีอาร์ 2 มีให้เลือกทั้งแบบตัวเรือนสเตนเลสสตีลและอะลูมิเนียมอัลลอยสีดำ ให้ลุคสุดคลาสสิก โดดเด่นด้วยหน้าปัดแบบ AMOLED ทรงกลมขนาด 1.39 นิ้ว ขอบโค้งมน 3 มิติ อ่านชัด อ่านง่าย ทุกองศา ส่วนอเมซฟิต จีทีเอส 2 โดดเด่นด้วยความเพรียวบาง หน้าจอ AMOLED ทรงเหลี่ยมหรูขนาด 1.65 นิ้ว ตัวเรือนอะลูมิเนียมอัลลอย มีให้เลือก 3 สี คือ Midnight Black, Desert Gold และ Urban Grey พร้อมสายรัดข้อมือสีเข้ากัน

หน้าปัดของทั้งสองรุ่นทำจากกระจก 3 มิติ Corning Gorilla เคลือบสาร oDLC (optical Diamond-like Carbon) และสารที่ช่วยป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ จึงป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี และทำความสะอาดได้ง่าย นอกจากนี้ หน้าปัดยังสามารถปรับเปลี่ยนมุมการแสดงข้อมูลเพื่อความสะดวกสำหรับการสวมบนข้อมือทั้งสองข้าง อีกทั้งมีธีมหน้าปัดให้เลือกกว่า 40 แบบ[1] จึงเป็นสมาร์ทวอชแนวหน้าที่รองรับการปรับแต่งให้เข้ากับสไตล์ส่วนบุคคล ผู้ใช้สามารถปรับแอป Quick Access ได้ จากนั้นก็เพียงปัดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อเข้าถึงแอปและฟีเจอร์คู่ใจด้านสุขภาพและฟิตเนส

ฟีเจอร์ครบเพื่อการดูแลสุขภาพและฟิตเนส[2]
อเมซฟิต จีทีอาร์ 2 และ จีทีเอส 2 มาพร้อมกับฟังก์ชันการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจอย่างแม่นยำ ด้วยเซ็นเซอร์ BioTracker™ 2 PPG ที่ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24/7 ไม่ว่าจะเป็นอัตราตอนพักผ่อน (resting heart rate) โซนอัตราการเต้นของหัวใจ (heart rate zones) และเตือนเมื่อหัวใจเต้นผิดปกติ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้คุณทราบความแข็งแรงของหัวใจได้ดีขึ้น

ฟีเจอร์ BioTracker™ 2 PPG นี้ รองรับ OxygenBeats™[3] ในการวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด เมื่อผู้ใช้ต้องเผชิญกับการทำงานนาน ๆ ที่ทำให้สมองเมื่อยล้า หรือการใช้ร่างกายหนัก ๆ จากกิจกรรม เช่น การวิ่งมาราธอนหรือกีฬากลางแจ้ง หากรู้สึกไม่สบายใจ ก็สามารถวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดได้โดยง่าย จะได้รู้สถานะของร่างกายและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยอุปกรณ์ที่สวมใส่

การติดตามคุณภาพการนอน[4] ช่วยรักษาสมรรถนะร่างกายให้ฟิตที่สุดได้ ซึ่งสมาร์ทวอชของ Amazfit จะช่วยติดตามการนอน ทำให้คุณเข้าใจรูปแบบการนอนหลับและปรับปรุงการนอนให้ดีขึ้น เมื่อซิงก์ข้อมูลเข้ากับแอปแล้ว จะทราบได้ว่านอนในช่วงหลับตื้นหรือหลับลึกไปนานเท่าไร รวมทั้งช่วง REM (Rapid Eye Movement) และการงีบนอนในเวลากลางวัน[5]

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับระบบ PAI™ Health Assessment System[6] ที่สามารถแปลงข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ ติดตามกิจกรรม และข้อมูลสุขภาพอื่น ๆ ออกมาเป็นคะแนน PAI ให้ได้รู้สภาพความฟิตของคุณได้โดยสะดวก ค่า PAI หมายถึงข้อมูลกิจกรรมส่วนบุคคล (Personal Activity Intelligence) ที่อ้างอิงจากโปรไฟล์ส่วนตัวของแต่ละคน จึงเป็นค่าที่สร้างมาเพื่อคุณ ซึ่งผลการวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าระบบ PAI™ Health Assessment System มีส่วนช่วยให้คุณรู้ว่าจะต้องทำกิจกรรมมากน้อยแค่ไหน ถึงจะแข็งแรงอยู่เสมอ หรืออยู่ในสภาพที่ฟิตที่สุด

สมาร์ทวอชในซีรีส์ จีที 2 ทั้งสองรุ่นยังรองรับฟีเจอร์การติดตามความเครียด ซึ่งจะช่วยให้คุณรักษาสมดุลของระดับความเครียดได้ เมื่อรู้สึกเครียด ก็สามารถผ่อนคลายด้วยแนวทางใหม่ ๆ ในการดูแลความเครียดได้


[1] Always-on Display: เมื่อหน้าจอเรืองแสง จะแสดงข้อมูลระบบให้เห็น เมื่อหน้าจออยู่ในโหมดสแตนด์บาย จะแสดงเวลาให้ทราบ สำหรับฟังก์ชันนี้ ผู้ใช้จำเป็นต้องตั้งค่าให้เป็น “Always On Display” เอง
[2] ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ ข้อมูลการวัดต่าง ๆ มีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้เพื่อวินิจฉัยหรือติดตามอาการป่วย นอกจากนี้ การที่เซ็นเซอร์สัมผัสบริเวณผิวที่มีการสักหรือเปลี่ยนโทนสีไป อาจมีผลต่อความถูกต้องของข้อมูล 
[3] ระดับ SpO2 อาจมีผลต่อระดับออกซิเจนในอวัยวะต่าง ๆ หากระดับนี้ต่ำเกินไป อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน ปวดหัว หรือ หัวใจวายได้ ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ ข้อมูลการวัดต่าง ๆ มีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้เพื่อวินิจฉัยหรือติดตามอาการป่วย
[4] การติดตามการนอน: สามารถบันทึกการนอนหลับในช่วงเย็นและการงีบได้  เมื่อเครื่องตรวจจับได้ว่าผู้สวมใส่กำลังหลับในช่วงเที่ยงคืนถึง 6 โมงเช้า จะมีการบันทึกการนอนระหว่างช่วง 6 โมงเย็นของวันก่อนหน้าจนถึงเวลา 11 นาฬิกาว่าเป็นเวลานอนตอนกลางคืน การนอนระหว่าง 11 นาฬิกาถึง 6 โมงเย็นที่กินเวลามากกว่า 20 นาที จะบันทึกเป็นการนอนงีบ และจะไม่มีการบันทึกช่วงการนอนที่น้อยกว่า 20 นาทีเอาไว้
[5] การติดตามวงจรการหลับ REM จะต้องเปิดใช้โหมด Sleep Assistant เพื่อติดตามการเต้นของหัวใจ ในช่วงการหลับ REM ตาของคุณจะเคลื่อนไปในทิศต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ปกติจะมีการฝันในช่วง REM
[6] จากการวิจัยโดย HUNT Fitness Study พบว่าผู้ที่รักษาระดับค่า PAI ให้สูงกว่า 100 ได้ จะมีความเสี่ยงน้อยลงที่จะเป็นโรคความดัน โรคหัวใจ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 สำหรับงานวิจัยของ HUNT Fitness Study นั้น ดำเนินการโดย Professor Ulrik Wisloff จากคณะแพทยศาสตร์ Norwegian University of Science and Technology ใช้เวลาการศึกษามากกว่า 35 ปี และมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 230,000 ราย
การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงหมายถึงต้องแอ็คทีฟอยู่เสมอ จีทีอาร์ 2 และ จีทีเอส 2 จึงมีโหมดกีฬายอดฮิตมาให้เลือกถึง 12 โหมด[1] ช่วยให้ชีวิตไม่หยุดนิ่ง พร้อมออกกำลังกายได้เสมอ สามารถบันทึกระยะทาง ความเร็ว การเปลี่ยนแปลงอัตราการเต้นของหัวใจ แคลอรีที่เผาผลาญ และข้อมูลอื่น ๆ ในช่วงที่ออกกำลังกาย ทั้งสองรุ่นนี้ ยังกันน้ำลึกสุด 5 ATM[2] จึงสวมใส่และบันทึกข้อมูลที่ทำได้ในช่วงว่ายน้ำหรือออกกำลังกายในสภาพแวดล้อมที่ทรหด และหากคุณหยุดนิ่งนานเกินไป ก็จะมีการเตือนให้รู้ว่าต้องเคลื่อนไหวบ้างแล้ว

ทั้งสองรุ่นสามารถเก็บเพลงในเมมโมรีได้ถึง 3GB ช่วยให้การออกกำลังกายได้เพลิน ๆ โดยไม่ต้องพกโทรศัพท์ นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าความแรงในการสั่นเตือนได้ด้วย (haptic vibration) ไม่ว่าจะเป็นการสั่นให้รับโทรศัพท์หรือได้รับข้อความใหม่ ทั้งสองรุ่นจึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น เมื่อถอดนาฬิกา ฟังก์ชันตรวจจับการสวมใส่จะทำงาน และล็อกนาฬิกา ช่วยป้องกันความเป็นส่วนตัว ซึ่งสามารถใส่รหัสเพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยได้ด้วย

ทั้งสองรุ่น มีไมโครโฟนและลำโพงในตัว จึงสามารถรับสายเรียกเข้าได้สะดวก เมื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ ผ่านบลูทูธ


[1] วิ่งกลางแจ้ง วิ่งบนลู่วิ่ง วิ่งเทรล เดิน ปั่นจักรยานกลางแจ้ง ปั่นจักรยานในร่ม ว่ายน้ำในสระ ว่ายน้ำในทะเล เครื่องเดินวงรี ฟรีเทรนนิ่ง ปีนเขา เล่นสกี
[2] ตามมาตรฐาน GB/T 30106-2013 / IOS 22810:2010 นาฬิการุ่น Amazfit GTS 2 สามารถกันน้ำลึกสูงสุดได้ 50 เมตร และผ่านการทดสอบโดย National Clock Quality Supervision and Inspection Center รายงานหมายเลข SHES 200601198601 หากต้องการคงประสบการณ์การสวมใส่ให้มีประสิทธิภาพต่อเนื่อง กรุณาเช็ดนาฬิกาในทันทีที่ทำได้ หลังจากที่นำไปใช้ในน้ำ ทั้งนี้มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการกันน้ำ ซึ่งสภาพในห้องทดลองที่กันน้ำได้ 50 เมตรนั้น ใช้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น
ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น และสนุกขึ้น
ตอนนี้คุณสามารถสั่งการด้วยเสียงผ่านสมาร์ทวอชได้แล้ว ทั้งสองรุ่นนี้จึงยิ่งฉลาดมากขึ้นไปอีก เพราะมาพร้อมกับการรองรับ Amazon Alexa[1] ในตัว จึงทำได้ทั้งสอบถาม หาข้อมูล แปล สร้างรายการช็อปปิ้ง ตั้งปลุก ตั้งเวลาและการเตือน เช็คสภาพอากาศ ควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ในบ้าน และอื่น ๆ อีกมากมาย คุณสามารถคุยกับเครื่องสมาร์ทวอชทั้ง 2 รุ่น ได้ โดย Alexa จะตอบสนองต่อคำสั่งเสียงของคุณเป็นข้อความบนหน้าจอ หรือยังสามารถสั่งการด้วยเสียงเมื่อทำงานแบบออฟไลน์เพื่อเปิดการทำงานของโหมดกีฬา ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ และอื่น ๆ

แบตเตอรีของซีรีส์ จีที 2 มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น โดยคุณสามารถใช้เครื่องนี้ทุกวันไปตลอดทั้งสัปดาห์ได้ สำหรับ จีทีอาร์ 2 มีอายุแบตเตอรีที่ยาวนานกว่าเดิม โดยสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 14 วัน[2] เมื่อใช้งานปกติ และใช้ได้นานถึง 38 วัน[3] หากใช้ฟังก์ชันพื้นฐานเท่านั้น และสำหรับ จีทีเอส 2 สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 7 วัน[4] และใช้งานได้สูงสุดถึง 20 วัน[5] เมื่อใช้งานฟังก์ชันพื้นฐาน

ราคาและการวางจำหน่าย

อเมซฟิต จีทีเอส 2 ราคา 5,599 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Desert Gold และ Urban Grey


อเมซฟิต จีทีอาร์ 2 มีให้เลือกสองรุ่น คือ Sport Edition ราคา 5,599 บาท และ Classic Edition ราคา 5,799 บาท

สมาร์ทวอชทั้งสองรุ่นนี้ มีวางจำหน่ายที่ช่องทางออนไลน์ใน Shopee ที่ร้าน
Amazfit Official Store :

ร้านตัวแทนจำหน่าย ThaiMall :

คุณสมบัติของตัวเครื่อง[6]
Amazfit GTR 2 Amazfit GTS 2
หน้าจอ 1.39” AMOLED 1.65” AMOLED
ขนาด (หน้าปัด) 46.4 x 46.4 x 10.7 มม. 42.8 x 35.6 x 9.7 มม.
น้ำหนัก แบบคลาสสิก 39 กรัม ไม่รวมสายนาฬิกา
แบบสปอร์ต  31.5 กรัม ไม่รวมสายนาฬิกา
24.7 กรัม ไม่รวมสายนาฬิกา
ทัชสกรีน กระจกนิรภัยเทมเปอร์ + เคลือบฟิล์มกันรอย นิ้วมือ + เคลือบฟิล์ม ODLC กระจกนิรภัยเทมเปอร์ + เคลือบฟิล์มกันรอยนิ้วมือ + เคลือบฟิล์ม ODLC
สี Obsidian Black Midnight Black, Desert Gold, Urban Grey
การเชื่อมต่อ บลูทูธ 5.0 บลูทูธ 5.0
เซ็นเซอร์ เซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหว เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ BioTracker™ 2 PPG เซ็นเซอร์ตรวจจับการหมุน เซ็นเซอร์วัดแรงดันอากาศ เซ็นเซอร์วัดสภาพแสงโดยรอบ เซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหว เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ BioTracker™ 2 PPG เซ็นเซอร์ตรวจจับการหมุน เซ็นเซอร์วัดแรงดันอากาศ เซ็นเซอร์วัดสภาพแสงโดยรอบ
การจับตำแหน่ง GPS + GLONASS GPS + GLONASS
วัสดุตัวเรือน สเตนเลสสตีล หรือ อะลูมิเนียมอัลลอย อะลูมิเนียมอัลลอย
ไมโครโฟน มี มี
ลำโพง มี มี
วัสดุสายนาฬิกา ซิลิโคน หรือ หนัง ซิลิโคน
ความกว้างสายนาฬิกา 22 มม. 20 มม.
ความสามารถกันน้ำ 5 ATM[7] 5 ATM[8]
ความจุแบตเตอรี แบตเตอรีลิเทียมไอออนโพลีเมอร์ 471 mAh (ความจุปกติ) แบตเตอรีลิเทียมไอออนโพลีเมอร์ 246 mAh (ความจุปกติ)
อายุแบตเตอรี[9] – สภาพการใช้งานปกติ: สูงสุด 14 วัน
– เวลาที่ใช้ในการชาร์จ: ประมาณ 2.5 ชั่วโมง
– สภาพการใช้งานปกติ: สูงสุด 7 วัน
– เวลาที่ใช้ในการชาร์จ: ประมาณ 2 ชั่วโมง
โหมดกีฬา 12 โหมดกีฬา 12 โหมดกีฬา
การแจ้งเตือน มี มี
AI Assistant Amazon Alexa ในตัว[10] Amazon Alexa ในตัว[11]
แอคเซสซอรี นาฬิกา (พร้อมสาย) / แท่นชาร์จ / คู่มือการใช้ นาฬิกา (พร้อมสาย) / แท่นชาร์จ / คู่มือการใช้
อุปกรณ์ที่รองรับ ตั้งแต่ Android 5.0 หรือ iOS 10.0 ขึ้นไป ตั้งแต่ Android 5.0 หรือ iOS 10.0 ขึ้นไป
แอปพลิเคชัน Zepp Zepp

เกี่ยวกับ Amazfit
อเมซฟิต (Amazfit) ก่อตั้งในเดือนกันยายน ปี 2015 โดยเป็นแบรนด์ในเครือของ Huami Technology (NYSE: HMI) นำเสนอสมาร์ทวอช 7 รุ่นพร้อมสร้อยสายนาฬิกา ได้แก่รุ่น Stratos, Basic, Flagship, Health, Fashion, Outdoor และรุ่น X นอกจากนี้ Amazfit ยังมีอุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาและการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นหูฟังเอียร์บัดสไตล์สปอร์ต TWS ลู่วิ่งอัจฉริยะ เครื่องชั่งอัจฉริยะตรวจวัดบอดี้แฟต รวมทั้งชุดกีฬาและอุปกรณ์ การออกแบบและความเชี่ยวชาญเป็นเลิศได้ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอชของ Amazfit ได้รับรางวัลเกียรติยศมากมาย เช่น รางวัล iF Industrial Design และรางวัล Red Dot Design ของเยอรมัน ทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์ Amazfit มีวางจำหน่ายในกว่า 70 ประเทศทั่วโลกในภูมิภาคต่าง ๆ รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา เยอรมัน และญี่ปุ่น จากรายงานสำรวจอุปกรณ์แวร์เอเบิลระดับโลกของ IDC ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 นับได้ว่านาฬิกาของ Amazfit มีส่วนแบ่งตลาดนาฬิกาที่ผู้ใหญ่ใช้มากที่สุดในประเทศอิตาลี สเปน อินเดีย และหลายภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นนำในหลายประเทศ เช่น จีน เยอรมัน ฝรั่งเศส รัสเซีย และบราซิล เรียนรู้เกี่ยวกับบริษัทเพิ่มเติมได้ที่ https://en.amazfit.com/about.html

Huami Technology เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2013 โดยให้บริการระบบดูแลสุขภาพผ่านคลาวด์ ด้วยเทคโนโลยีแวร์เอเบิลอัจฉริยะ ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 Huami Technology ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) (ชื่อย่อหลักทรัพย์: HMI)

Comments

comments