11 มกราคม 2564: เปิดศักราชใหม่ พร้อมความท้าทายสำหรับคนไทยและกลุ่มผู้ประกอบการ SME ที่ถือเป็นฐานรากสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ โดย AIS SME ขอร่วมแรงสู้ไปพร้อมกันผ่านแนวคิด “เพื่อนที่มั่นใจได้ทุกเรื่อง SME”
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. รายงานสถานการณ์ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดเมื่อปี 2563 ว่า 61.4% ยังไม่มีช่องทางการขายผ่านออนไลน์ ในขณะที่ มีถึง 79.3% ที่สามารถรับชำระเงินผ่านทางออนไลน์ได้แล้ว โดยมีเพียง 38.6% ที่มีช่องทางขายบนออนไลน์ และช่องทางที่ขายดีที่สุดคือ บน Facebook, LINE และ Website ตามลำดับ
ข้อมูลจากเอไอเอส พบว่า 4 อันดับต้นๆ ที่ผู้ประกอบการต้องการคือ เพิ่มการส่งเสริมการขายในตลาดออนไลน์, เพิ่มนวัตกรรมในการทำธุรกิจ, เพิ่มความยืดหยุ่น และปรับโครงสร้างต้นทุน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาบริหารจัดการ แต่ที่ผ่านมาอาจขาดเครื่องมือที่เหมาะสมและคุ้มค่า
เปิดตัวอาวุธดิจิทัล 7S จาก AIS SME ที่พร้อมช่วยยกระดับ เคียงข้าง SME ไทยให้แข็งแกร่ง ด้วย Business Model แบบใหม่ พร้อมรับมือทุกความท้าทาย สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ที่ผ่านมา ภาคธุรกิจถูก Disrupt โดยเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ค่อยๆ เข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ (New Business Model) ไปพร้อมกัน และชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อเกิดภาวะการระบาดจาก COVID–19 ในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนอกจากจะเป็นมหันตภัยที่สร้างความเสียหาย และเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตไปโดยสิ้นเชิงแล้ว สำหรับภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SME ที่แม้จะเป็นกลุ่มธุรกิจแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งจากมาตรการล็อกดาวน์ประเทศ และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แต่ก็นำมาซึ่งโอกาสที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจด้วยเครื่องมือดิจิทัลโซลูชัน หรือออนไลน์ เข้ามาเป็นส่วนผสมใหม่ของการดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดและสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนเช่นกัน”
“เอไอเอส ในฐานะ Digital Life Service Provider ได้มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล 3 ด้าน คือ เครือข่าย AIS 5G ชั้นนำระดับภูมิภาค และอันดับ 1 ในไทยที่มีคลื่นมากที่สุด เร็วแรงที่สุด, พลานุภาพของเน็ตบ้าน AIS Fibre ที่ได้รับการการันตีให้เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ยอดเยี่ยมในเอเชีย-แปซิฟิก ประจำปี 2020 พร้อมด้วยบริการดิจิทัลที่ครอบคลุมครบทุกด้าน เพื่อสนับสนุนการใช้ชีวิตและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SME ที่จะเป็นเพื่อนที่มั่นใจได้ทุกเรื่อง SME ที่ ง่าย มั่นใจ ครบทุกมิติ”
ง่าย ต่อยอดธุรกิจง่ายด้วยหลากหลายบริการที่ตอบโจทย์ SME ทุกประเภท
มั่นใจ ส่งมอบบริการด้วยโซลูชันบนเครือข่ายคุณภาพ
ครบทุกมิติ ดูแลด้วยผู้ชำนาญการ พร้อมสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้ SME เติบโตต่อเนื่อง
AIS SME พร้อมอยู่เคียงข้าง เป็นเพื่อนที่ SME มั่นใจได้ทุกเรื่องอย่างแท้จริง ผ่านอาวุธดิจิทัล 7S ประกอบด้วย
“การทำธุรกิจ SME ยุคใหม่ ไม่มีสูตรสำเร็จเหมือนในอดีต ขึ้นอยู่กับว่า เราจะกล้าพลิกเกมจากความท้าทาย ปัญหา หรืออุปสรรคที่เข้ามาอย่างรวดเร็วได้อย่างไร เพราะบนโลกยุคดิจิทัล การแข่งขันชี้วัดกันที่Speed และ Spirit ที่จะเปลี่ยน Business Model ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลอย่างชาญฉลาด ทั้งการบริหารจัดการต้นทุนการผลิต การบริหารงาน Operation ที่จะต้องต่อเนื่องและไร้รอยต่อ โดย AIS SME ขอยืนยันความพร้อมว่า เราจะอยู่เคียงข้าง คอยสนับสนุนให้ SME ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง แบบไม่ต้องกังวลกับระบบบริการหลังบ้าน เพราะชาวเอไอเอสจะร่วมดูแลคุณเสมอ จะเป็นเพื่อนที่มั่นใจได้ทุกเรื่อง SME ที่ ง่าย มั่นใจ ครบทุกมิติ” นายธนพงษ์ กล่าวสรุป
ผู้ประกอบการ SME ไทย ที่สนใจสมัครหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้หลากหลายช่องทาง
– เว็บไซต์ AIS SMEhttps://business.ais.co.th/sme/index.html
– เฟซบุ๊ก AIS SMEhttps://www.facebook.com/AISBusinessSME
– ไลน์ AIS SME@AIS Business
– CALL CENTER1149