เมื่อเร็วๆ นี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชัน ได้รับรางวัลผู้จำหน่ายระบบโครงสร้างสำคัญด้านพลังงานในเอเชียแปซิฟิกแห่งปี 2020 (2020 Asia-Pacific Critical Power Infrastructure Vendor of the Year) ควบรางวัลบริษัท UPS ในเอเชียแปซิฟิกแห่งปี 2020 (2020 Asia Pacific UPS Company of the Year) ที่มอบโดย Frost & Sullivan ทั้งนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้ชนะเลิศรางวัลในสาขาดังกล่าวมาโดยต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2012 และยังคงเสริมความแข็งแกร่งต่อไปอีกด้วยการเป็นผู้นำตลาดระดับโลกในเรื่องของโซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์
ในการชนะเลิศรางวัลจาก Frost & Sullivan เมื่อเร็วๆ นี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับเกียรติยศจากการพัฒนาสองสายผลิตภัณฑ์ นั่นคือ Galaxy ที่มุ่งเน้นที่ความน่าเชื่อถือของพลังงานกับเรื่องประสิทธิภาพด้านพลังงาน และ Easy UPS ที่พรั่งพร้อมไปด้วยคุณค่าและฟีเจอร์ที่มุ่งเน้นการใช้งานของลูกค้าเป็นหลัก ทั้งนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้มีการออกนวัตกรรมสำคัญอีกหลายอย่างสำหรับทั้งสองสายผลิตภัณฑ์ในปี 2019 โดย Galazy V-Series (VX, VM, VS) UPS เป็นโหมดปฏิบัติการแบบ ECOnversion ซึ่งให้ประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงถึง 99 เปอร์เซ็นต์ อย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยหนึ่งในประโยชน์หลักคืออินเวอร์เตอร์ ที่สามารถรองรับโหลดได้อย่างไร้รอยต่อในกรณีที่ระบบ utility bypass ล้มเหลว นอกจากนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้กับระบบ UPS ถึงสามเท่าของอายุการใช้งานที่คาดการณ์ในส่วนทางเลือกที่เป็นแบตเตอรี่ VRLA ดังนั้นจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายสุทธิในการเป็นเจ้าของได้สูงถึง 30-50 เปอร์เซ็นต์
“ลูกค้าของเราเป็นแรงบันดาลใจให้เราในทุกวัน ในการสร้างนวัตกรรมและเพิ่มศักยภาพให้กับทุกคนในการทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นโดยใช้ทรัพยากรน้อยลง เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกในความมุ่งมั่นพยายามของเราในเรื่องของประสิทธิภาพ ความยั่งยืน ความสามารถในการเชื่อมต่อ และความปลอดภัย โดยในการบรรลุการเติบโตอย่างยั่งยืนท่ามกลางการแข่งขันดุเดือดในตลาด เรามุ่งเน้นที่คุณภาพ และการสร้างความมั่นใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการมองการณ์ไกลเพื่อสร้างความสำเร็จในยุคหลังการแพร่ระบาด” เบอนัวต์ ดูบาร์เลอ รองประธานอาวุโส ภาคพื้นเอเชียตะวันออกและญี่ปุ่น ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าว “ความยืดหยุ่นในการดำเนินงานและความพยายามในการเปลี่ยนระบบสู่ดิจิทัล ได้กลายเป็นแรงผลักให้เกิดวาระการประชุมขององค์กรเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ด้วยสถานภาพที่มั่นคงของเราในเรื่องเหล่านี้ เรามีความพร้อม รวมถึงกระตือรือร้นและมุ่งมั่นที่จะสร้างการเดินทางในเรื่องเหล่านี้ให้กับทั้งลูกค้าและคู่ค้าของเราในการก้าวสู่เน็กซ์นอร์มัล (Next Normal)” เบอร์นัวต์ กล่าวเสริม
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับรางวัลการสืบสานเรื่องของนวัตกรรม
การเข้าใจถึงความจำเป็นในการสร้างความคล่องตัวตั้งแต่แรกเริ่ม ทำให้ชไนเดอร์ อิเล็คทริค สามารถคาดการณ์พร้อมทั้งตอบโจทย์ข้อเรียกร้องในการผลักดันสู่การทำให้กระบวนการต่างๆ เป็นระบบดิจิทัล ผ่านโซลูชันที่ก้าวล้ำกว่าใคร ทั้งในเรื่องของ IT และ OT และเพื่อให้มั่นใจว่าชีวิตจะดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่องในโลกดิจิทัล ทั้งนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จึงเป็นพันธมิตรกับผู้วางระบบ IT และ OT ต่างๆ รวมถึงผู้ใช้ที่ต้องการนำระบบที่ให้ความยืดหยุ่น เชื่อมต่อถึงกัน สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้ ให้ความยั่งยืน มีประสิทธิภาพ และผสานการทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ อีกทั้งให้ความน่าเชื่อถือ ผลลัพธ์ก็คือ สิ่งเหล่านี้ถูกสะท้อนอยู่ในความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในการสร้างนวัตกรรมพร้อมทั้งยืนหยัดที่จะมอบโซลูชันที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้ามาตลอด
ในการรักษาสถานภาพการเป็นผู้นำตลาดระดับโลก ชไนเดอร์ อิเล็คทริคได้มอบบริการด้านการดูแลวงจรการใช้งานผลิตภัณฑ์ (lifecycle services) ที่มากกว่าเรื่องของโซลูชันระบบพลังงานและระบบทำความเย็น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความมั่นใจเรื่องการวางแผนได้อย่างเหมาะสม ทั้งการติดตั้ง และการดำเนินการในการมอบโซลูชันสำหรับบริการอื่นๆ ที่จำเป็น รวมถึงให้ความยืดหยุ่น และความสามารถในการปรับระบบให้ตรงต่อความต้องการใช้งานเฉพาะ หรือcustomisation ได้อย่างไม่มีใครเทียบจึงช่วยให้เจ้าของดาต้าเซ็นเตอร์ สามารถตอบสนองต่อความท้าทายของตลาดได้อย่างรวดเร็ว
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค และผลิตภัณฑ์นวัตกรรมล่าสุด สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการของชไนเดอร์ อิเล็คทริค และที่ https://www.se.com/my/en/