บริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มต่อสู้มาอย่างยาวนานเกี่ยวกับข้อบังคับเฉพาะเรื่องการจัดการอายุของผลิตภัณฑ์, ความซับซ้อนของการจัดตารางการผลิต, การตรวจสอบย้อนกลับและปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีศุลกากร, แนวคิดด้านความยั่งยืน และกฎระเบียบที่เพิ่มมากขึ้นก็เป็นแรงส่งมหาศาลที่เพิ่มความซับซ้อนให้กับเรื่องเหล่านี้มากขึ้น ปัญหาและแนวโน้มเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบซัพพลายเชนทั้งหมดของคุณ – ตั้งแต่การจัดซื้อ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการจัดส่งสินค้า
อินฟอร์จำแนกความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับความซับซ้อนของระบบซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มออกเป็นสามเรื่อง ดังนี้ 1. ต้องมีความสามารถในการรับรู้และมองเห็นความเป็นไปของทั่วทั้งโลก 2. ต้องรู้จักคาดการณ์และรับมือกับความผันผวน และ 3. ต้องใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด
ต้องมีความสามารถในการมองเห็นและรับรู้สถานการณ์ของทั่วทั้งโลก
เรามักจะสนใจเฉพาะตัวแปรต่าง ๆ ที่เราควบคุมได้ แต่ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทบทวนระบบซัพพลายเชนทั้งหมดใหม่อีกครั้ง เนื่องจากกระบวนการเหล่านี้ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะเป็น เมื่อประมาณสองปีที่แล้วอินฟอร์ได้ทำการสำรวจบริษัทต่าง ๆ ที่อยู่บนเครือข่าย Infor Nexus และพบว่า 46% ของบริษัทเหล่านั้นกล่าวว่า ก่อนที่จะใช้งาน Infor Nexus พวกเขาต้องใช้เวลานานถึงสามวันกว่าจะระบุได้ว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นอยู่ที่ไหน และจะได้รับของเมื่อไหร่ เห็นได้ชัดเจนว่าข้อมูลที่มีไม่ได้ช่วยให้เขาตัดสินใจได้ดีเพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีช่องว่างระหว่างการที่ผู้ผลิตจะติดต่อกับลูกค้า ซัพพลายเออร์ และบริษัทขนส่งภายนอกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ EDI (Electronic Data Interchange) ที่หลากหลายระหว่างจุดต่อจุด, พอร์ทัลต่าง ๆ, สเปรดชีท, อีเมล – ซึ่งล้วนเป็นเรื่องราวที่แทบจะไม่มีจุดสิ้นสุด – และยากที่จะดูแลรักษาให้คงสภาพ
ดังนั้นเพื่อที่จะรับรู้และมองเห็นความเป็นไปของระบบได้ทั้งหมด คุณจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับคู่ค้าทั่วโลกด้วยวิธีที่ได้ผล ด้วยการใช้ระบบเครือข่ายทางธุรกิจระดับองค์กรที่หลากหลาย คุณจะสามารถขจัดการทำงานแบบแยกส่วน (silos) ได้ทั้งภายในองค์กรและระหว่างองค์กรของคุณกับผู้ที่คุณติดต่อทำธุรกิจด้วย ระบบดังกล่าวช่วยรวบรวมและแบ่งปันข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและการตอบสนองทางธุรกิจโดยรวม
Food photo created by jcomp – www.freepik.com
ต้องรู้จักคาดการณ์และรับมือกับความผันผวน
คุณคาดการณ์และรับมือกับความผันผวนได้อย่างไร เรื่องนี้สามารถเริ่มต้นที่พื้นฐานของประสิทธิภาพและระบบอัตโนมัติภายในโรงงาน คุณจะเพิ่มประสิทธิภาพในการกำหนดตารางการผลิตได้อย่างไร คุณจะรับมือกับปัญหาติดขัดต่าง ๆ ให้ดีขึ้นได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบแยกส่วนในการปฏิบัติงาน หรือความเร็วต่าง ๆ ภายในสายงานการบรรจุผลิตภัณฑ์ของคุณ
เครื่องมือการจัดตารางเวลาที่ใช้พิจารณาตัวแปรทั้งหมด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำตอบเท่านั้น เมื่อคุณนำโซลูชั่นสำหรับการบริหารสินทรัพย์มาใช้ในธุรกิจของคุณ และบูรณาการเข้ากับโซลูชั่นการจัดตารางเวลา คุณจะมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการวางแผนรอบระยะเวลาการบำรุงรักษาโดยพิจารณาจากความสามารถในการรับรู้และการมองเห็นการทำงานของทั้งระบบที่ดีขึ้นว่าอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้จริงคืออะไร การจัดตารางการผลิตและการบริหารสินทรัพย์มีผลกระทบต่อซัพพลายเชน และความสามารถในการจัดส่งของคุณ ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะบริหารจัดการแยกส่วนไปต่างหาก
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพและระบบอัตโนมัติ เราพบว่ายังมีความท้าทายในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและคลังสินค้าขององค์กร และความเข้าใจในความซับซ้อนของการดำเนินการดังกล่าวอันเนื่องมาจาก ช่องทางต่าง ๆ ทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าบริษัทของคุณจะทำอีคอมเมิร์ซเองหรือทำร่วมกับผู้จำหน่ายอีคอมเมิร์ซเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ก็ตาม ความสามารถและข้อกำหนดต่าง ๆ บางอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป และบริษัทจำนวนมากต่างกำลังค้นหาลึกลงไปถึงเครื่องมือต่างๆ ที่มีให้บริการอยู่ เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น
การปรับปรุงประสิทธิภาพเป็นปัจจัยผลักดันในอุตสาหกรรมอาหารมานานหลายทศวรรษ แต่ช่วงนี้การให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสเป็นหนึ่งในเรื่องที่มีความผันผวนมากที่สุด สิ่งที่ผู้บริโภคกำลังมองหานั้นสามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของตลาดได้ตลอดเวลา จากเดิมที่ผู้บริโภคสนใจเรื่องปลอดไขมันหรือปลอดจีเอ็มโอ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความสนใจเปลี่ยนไปเป็นเรื่องฉลากมากขึ้น เพราะผู้บริโภคต้องการเข้าใจมากขึ้นถึงสิ่งที่ระบุอยู่ในส่วนผสม และขณะนี้แนวโน้มในเรื่องนี้ก็กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น ปัจจุบันข้อเรียกร้องด้านความยั่งยืนสามารถรวมถึงสภาพความเป็นไปของฟาร์ม, ความยั่งยืนของวัตถุดิบที่คุณใช้, การใช้พลังงาน, การลดการใช้พลาสติก และการลดความสิ้นเปลืองด้านบรรจุภัณฑ์ให้น้อยลง
อินฟอร์มีลูกค้าจำนวนมากที่เน้นเรื่องการวัดผลและรายงานเกี่ยวกับมาตรวัดความยั่งยืน หนึ่งในนั้นคือการจัดการกับปัญหาพื้นฐานที่ว่าจะทำอย่างไรที่จะสามารถผลิตอาหารเลี้ยงประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นด้วยวิธีการที่ยั่งยืน การใช้โซลูชั่นระดับโลกเพื่อช่วยทำให้ระบบซัพพลายเชนของเขามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนับเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการดังกล่าว
แต่ละบริษัทอาจมีวัตถุประสงค์และความต้องการที่แตกต่างกัน รวมทั้งวิธีการของตนเองในการรับมือกับประเด็นเรื่องความยั่งยืน สำหรับบางบริษัทหมายถึงการทำงานที่ดีขึ้นในการติดตามและตรวจสอบวัตถุดิบย้อนกลับ ส่วนบริษัทอื่น ๆ อาจหมายถึงการทำงานที่ดีขึ้นในการวัดคาร์บอนฟุตปริ้นท์ หรือการจัดการน้ำเสีย ซึ่งความท้าทายในที่นี้สำหรับบริษัทคือ จะต้องพิจารณาดูว่าสิ่งที่ต้องการวัดคือสิ่งใด พวกเขาต้องการติดตามสิ่งใด และในทางกลับกันก็จะต้องมีเครื่องมือที่จะช่วยให้ทำเช่นนั้นได้ด้วย
ความผันผวนเรื่องสุดท้ายคือสถานการณ์หรือเรื่องใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทราบมาก่อน บริษัทอาหารและเครื่องดื่มคุ้นเคยกับความท้าทายในการวางแผนที่เกี่ยวข้องกับช่วงเทศกาล อายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ และการส่งเสริมการขาย เมื่อไม่นานมานี้เราได้จัดการกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นที่เกี่ยวกับกฎระเบียบและอัตราภาษีที่ไม่เคยคาดการณ์ได้มาก่อน และแม้แต่เรื่องความพร้อมของทุนมนุษย์ คุณจะตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างไร หากคุณรู้ว่าคุณไม่สามารถหาคนมาทำงานที่โรงงานของคุณเพิ่มได้ เพื่อที่จะสามารถมองตัวแปรเหล่านั้นในธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจำเป็นต้องใช้เครื่องมือการวางแผนขั้นสูงบางประเภทที่ยอดเยี่ยม เพราะคุณจะไม่สามารถคาดเดาได้ดีที่สุดโดยอาศัยแค่เครื่องมือที่คุณมีอยู่แล้ว
” Food photo created by freepik – www.freepik.com
ต้องใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด
เมื่อคุณกำลังมองไปที่การสร้างระบบพื้นฐานที่ดีขึ้นเพื่อใช้รับมือกับความท้าทายที่อาจต้องเผชิญภายในองค์กรทั้งหมดของคุณ มีโซลูชั่นหลากหลายประเภทที่คุณจะต้องพิจารณา ซึ่งตัวเลือกเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นโซลูชั่นด้านซัพพลายเชนเสมอไป แต่ท้้งหมดล้วนต้องมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบซัพพลายเชนทั้งหมด ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนทั้้งในด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ตัวอย่างแรกคือการบริหารจัดการส่วนผสม หลายบริษัทต้องการตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมที่กำลังรังสรรค์เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้กับประเทศหนึ่งๆ เนื่องจากอาจจะมีข้อจำกัดหลายประการที่เกิดจากมุมมองระดับโลกต่อสถานที่ที่คุณจะขายผลิตภัณฑ์หนึ่งๆ ได้ การพยายามจัดการสิ่งนี้ด้วยตนเองถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะการที่คุณจะสามารถตอบข้อซักถามจากลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกได้ จำเป็นต้องใช้โซลูชั่นการจัดการส่วนผสมที่ค่อนข้างทรงประสิทธิภาพ
อีกตัวอย่างหนึ่งที่กำลังเป็นเรื่องพูดถึงในขณะนี้คือบล็อกเชน (blockchain) หลายบริษัทเป้าหมายเชื่อว่าสิ่งที่บล็อกเชนจะทำได้นั้น บริษัทสามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วกว่า ดีกว่าและมีราคาถูกกว่า อย่างไรก็ตามความท้าทายหลายประการเกี่ยวกับความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับและเรื่องคุณภาพที่บล็อกเชนพยายามจัดการอยู่นั้น ดูเหมือนว่าจะแก้ไขได้รวดเร็วขึ้นและด้วยความมั่นใจมากขึ้นเมื่อใช้โซลูชั่นที่มีอยู่และได้รับการพิสูจน์แล้ว ฟังก์ชั่นการทำงานที่ฝังอยู่ในโซลูชั่น ERP ที่ทันสมัยควบคู่ไปกับแพลตฟอร์มคลาวด์แบบเครือข่าย (network-based) อาจจะไม่ได้มีความดึงดูดใจ/ความน่าสนใจเช่นบล็อกเชน แต่ก็มีตัวพิสูจน์ความสำเร็จที่ปราศจากข้อกังขา บ่มเพาะความแข็งแกร่งผ่านการใช้งานอย่างทนทานมานานนับปี และเป็นโซลูชั่นที่คู่ค้า ซัพพลายเออร์ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ และผู้ให้บริการขนส่งจำนวนมากสามารถเข้าใช้งานได้ในปัจจุบัน
บทความโดย นายฟาบิโอ ทิวิติ รองประธาน บริษัท อินฟอร์ อาเชียน