ดีแทคร่วมกับพันธมิตรอาซีฟา ผู้ผลิตและจำหน่ายสวิตช์บอร์ดไฟฟ้า สำหรับองค์กรธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม ได้ร่วมพัฒนาแอปพลิเคชัน ติดตั้ง คอมมิสชั่นนิ่ง และส่งมอบโซลูชันการบริหารจัดการพลังงานระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ Smart Monitoring and Service Care for Electrical Switchboard (MDB Care) ผ่านตู้สวิตช์บอร์ดไฟฟ้าสำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้า หรือ MDB (Main Distribution Board) ให้กับธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด มหาชน หรือ ทีเอ็มบีธนชาต สร้างเสถียรภาพในการให้บริการ จากระบบพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นระบบหลังบ้านที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ทีเอ็มบีธนชาตสามารถนำเสนอบริการทางการเงินที่มีคุณภาพสูง ตอบสนองความต้องการและความมุ่งหวังของลูกค้าที่ต้องการความมั่นใจในการทำธุรกรรมกับธนาคารได้อย่างราบรื่นในยุคดิจิทัล
จากโจทย์ความจำเป็นของธนาคาร ที่ต้องการระบบไฟฟ้าให้มีความเสถียรภาพ พลังงานไฟฟ้าของธนาคารมีความสำคัญในระดับ Mission Critical ที่ต้องให้บริการในภาวะวิกฤตตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ในสภาวะแวดล้อมการทำงานแบบ Nonstop ต้องเห็นภาพรวมระบบการมอนิเตอร์การใช้พลังงานไฟฟ้าในทุกส่วนของอาคาร และระบบการเก็บฐานข้อมูลที่ส่งต่อข้อมูลด้วยความสำคัญในระดับวินาที เพื่อส่งมอบบริการด้านธุรกรรมการเงินได้อย่างราบรื่นไม่หยุดชะงัก
นางสาวศิริพร เลิศอภิรังษี เจ้าหน้าที่บริหาร ทรัพยากรอาคารและบริการส่วนกลาง ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด มหาชน หรือ ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า “ทีเอ็มบีธนชาตตระหนักและให้ความสำคัญด้านระบบพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้ระบบปฏิบัติการหลัก Digital Core Banking ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าให้เกิดการพัฒนาและการเติบโตอย่างมีคุณภาพ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ทางการเงินที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน เราจึงแสวงหาเทคโนโลยี นวัตกรรมมาพัฒนาบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ โดยทีเอ็มบีธนชาตได้เลือกใช้เทคโนโลยีระบบ Smart Monitoring สำหรับดูแลพลังงาน และการจ่ายกระแสไฟฟ้า ช่วยให้ธนาคารติดตามข้อมูลการใช้ไฟฟ้าได้แบบเรียลไทม์ สามารถมอนิเตอร์ผ่านแอปพลิเคชั่นทางมือถือ พร้อมทั้งแจ้งเตือนเหตุการณ์สภาวะแวดล้อมที่ผิดปกติ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน ช่วยลดอุบัติเหตุในการทำงาน ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หากระบบไฟฟ้าไม่เสถียรภาพ นอกจากจะทำให้การทำงานหลังบ้านเกิดปัญหาแล้ว ยังจะส่งผลกระทบถึงข้อมูลและการทำธุรกรรมของลูกค้าด้วย”
โซลูชันการบริหารพลังงานระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ MDB Care นี้ ทำงานด้วยองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ ระบบเซ็นเซอร์ ของอาซีฟาที่ติดตั้งเข้ากับตู้ MDB จะตรวจจับอุณหภูมิ ความร้อน ความชื้น ตรวจจับควัน และ ตรวจจับความเคลื่อนไหว หรือแม้แต่กรณีไฟกระชาก ทำให้เมื่อเกิดความผิดปกติ ช่างผู้ดูแลสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ช่วยลดความเสียหายต่อระบบ และทรัพย์สินต่างๆได้
ระบบประมวลผล ซึ่งใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งโดยดีแทค เป็นส่วนสำคัญในการเก็บข้อมูลและประมวลผล ทำให้สามารถคาดการณ์ปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้า ตลอดจนสถิติต่างๆ ที่ส่งผลต่อการทำงานของตู้สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า MDB และระบบแสดงผล ทำให้ผู้เกี่ยวข้องแม้จะไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญก็สามารถอ่านค่าได้ ลดข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูล ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจยุคดิจิทัล
รวมถึงเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) ในการติดตั้งเซ็นเซอร์ระบบติดตามอุปกรณ์ไฟฟ้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอนุรักษ์พลังงานของทีเอ็มบี ผ่านการควบคุมและจัดการระบบการทำงานของอุปกรณ์ที่ได้ทำการเชื่อมต่อกับระบบ IoT ไว้ การที่ธนาคารนำเทคโนโลยี IoT มาใช้ จะช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ที่ทีเอ็มบีธนชาตจะได้รับจากโซลูชัน
ธนาคารสามารถมอนิเตอร์ข้อมูลการใช้ไฟฟ้าได้ สะดวกและง่ายดายผ่านมือถือ จากแอปพลิเคชั่น MDB Care (ทั้งระบบ IOS และ Android) ซึ่งถูกออกแบบมาให้ตรวจวัดค่าการใช้พลังงานไฟฟ้าได้เรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถระบุได้ว่าพื้นที่ส่วนไหนใช้พลังงานไฟฟ้าเท่าไร ช่วยให้ธนาคารควบคุมการใช้ไฟฟ้า อีกทั้งโซลูชั่นนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ เช่น ตรวจจับอุณหภูมิ ความร้อน ความชื้น และตรวจจับความเคลื่อนไหว จากการแจ้งเตือนเหตุที่เกิดขึ้นจากตู้สวิตช์บอร์ด MDB ที่ใช้เป็นตัวส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังส่วนต่างๆ ของธนาคาร หากอุปกรณ์บางชิ้นส่วน เริ่มเกิดการทำงานผิดปกติ เสื่อมสภาพ ระบบจะมีการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้งานอย่างท่วงที เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับระบบจัดเก็บข้อมูล และทรัพย์สินต่างๆ ธนาคารและยังรวมถึงการลด ความเสี่ยงจากการผิดพลาดของ Human Error ในการบันทึกข้อมูลพลังงาน ลดต้นทุนการใช้บุคลากร และเพิ่มความปลอดภัยให้กับธนาคารไปอีกขั้น
นายราจีฟ บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจองค์กรและธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ดีแทค บิสิเนสมีภารกิจหลัก ช่วยให้องค์กรธุรกิจในไทย นำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างราบรื่น เราจึงผสานความร่วมมือ โดยนำความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี IoT มาเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบติดตามอุปกรณ์ไฟฟ้าสามารถ เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นด้วยโซลูชัน การบริหารจัดการพลังงานระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ MDB Care โซลูชันนี้มีระบบประมวลผล ซึ่งใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งโดยดีแทค ในการเก็บข้อมูล ทำให้สามารถคาดการณ์ปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้า ตลอดจนสถิติต่างๆ โดยระบบแสดงผลดูได้ง่าย ช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูล ที่เป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจยุคดิจิทัล
อีกทั้ง ดีแทค ยังตระหนักถึงภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน เราจึงมีความมุ่งมั่นในภาระกิจที่สำคัญนี้ ในการเป็นตัวช่วยส่งเสริมให้หน่วยงานและองค์กรต่างๆ ได้ดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดภาวะโลกร้อน ส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการ ให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ทุกองค์กรในไทยเติบโตไปพร้อมกับการช่วยดูแลโลก ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ทุกบริษัทในโลกนี้ ต้องดำเนินธุรกิจที่ร่วมดูแลรับผิดชอบต่อสังคมด้วยความยั่งยืน การเป็นองค์กรที่การกำกับดูแลกิจการที่ดีมีรับผิดชอบต่อสังคม (Good Corporate Governance) ยังช่วยขยายฐานลูกค้าจากการผลิตสินค้าหรือให้บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อจูงใจกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อธุรกิจอีกด้วย”
นายวิชัย สุนทรวุฒิกุล ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสสำนักบริหาร บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โปรแกรม MDB Care สามารถแสดงปริมาณการใช้พลังงานตามช่วงเวลาเรียลไทม์ ติดตามแจ้งเตือนความผิดปกติภายในตู้สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า(MDB) และ ดูแลสวิตช์บอร์ดสำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้า โซลูชั่นนี้จะเป็นส่วนสำคัญ ในการลดการเกิดการขัดข้องของระบบ ช่วยให้ทีเอ็มบีธนชาตจัดสร้างระบบบริหารจัดการพลังงานเพื่อส่งมอบบริการให้ลูกค้าของธนาคารได้อย่างสะดวกราบรื่น และใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง”