LINE ประเทศไทย ประกาศผู้ใช้งานครบ 50 ล้านราย ครองอันดับหนึ่งแอปพลิเคชันที่คนไทยไว้วางใจใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในช่วงโควิด–19 ที่ผ่านมา ตอกย้ำการเป็นโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการใช้ชีวิตรอบด้านในยุคดิจิทัล พร้อมเผยการเติบโตรอบด้าน ทั้งด้านฟีเจอร์การสื่อสาร บริการเพื่อไลฟ์สไตล์และธุรกิจต่างๆ ที่ต่างเป็นเครื่องพิสูจน์ถึง การเปลี่ยนผ่านเป็น “พลเมืองดิจิทัล” (Digital Citizens) ของคนไทยที่สามารถใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลช่วยยกระดับการใช้ชีวิตรอบด้านตามแนวคิด Life on LINE ได้อย่างเป็นรูปธรรม
พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย “การที่ LINE ประเทศไทย มีผู้ใช้งานครบ 50 ล้านรายนั้น เป็นการเติบโตที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จที่ LINE ได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคมของเมืองไทย กล่าวคือคนไทยสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของ LINE เพื่อช่วยในการใช้ชีวิต ติดต่อสื่อสารและทำธุรกิจบนโลกดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย เห็นได้จากการเติบโตรอบด้านของ LINE ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด Life on LINE ที่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลนี้ ให้สามารถรองรับทุกความต้องการ โดยเฉพาะช่วงเวลาล็อกดาวน์ตลอด 1 ปีกว่าที่ผ่านมา LINE เป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งที่คนไทยใช้มากที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว (จากผลสำรวจโดย MarketBuzzz) ทำให้คนไทยได้ใกล้กันมากขึ้นจากด้วยบริการต่างๆ ของ LINE แม้ต้องรักษาระยะห่างกันก็ตาม ซึ่งตรงกับพันธกิจ Closing The Distance ของแบรนด์เรา สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของแพลตฟอร์ม ทั้งยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการเปลี่ยนผ่านเป็น ‘พลเมืองดิจิทัล’ ของคนไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม”
ผู้ใช้ครบ 50 ล้านรายของ LINE ประเทศไทยนั้นประกอบไปด้วยการเติบโตของบริการต่างๆ ที่เป็นตัวบ่งชี้การเป็น “พลเมืองดิจิทัล” ของคนไทย ที่ LINE ช่วยให้ชีวิตบนโลกออนไลน์เป็นเรื่องง่าย
• LINE OpenChat “สังคมการพูดคุย” ที่ทำให้ผู้คนเชื่อมต่อกับกลุ่มคนที่ชื่นชอบในเรื่องเดียวกันมากขึ้น โดยช่วงปีที่ผ่านมา มีผู้ร่วมคอมมูนิตี้แห่งนี้เพิ่มขึ้นมากถึง 38% และ กรุ๊ปต่างๆ เพิ่มขึ้นถึง 92% (ระหว่างเดือน ก.ค. 63 กับ ก.ค. 64) ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ของกรุ๊ปที่เปิดใหม่ถูกตั้งขึ้นเพื่ออัปเดตสถานการณ์เกี่ยวกับโควิด-19 และเพื่อใช้ติดตามอาการหลังฉีดวัคซีนโดยโรงพยาบาล รวมถึงใช้เพื่อติดต่อสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนในช่วงเรียนออนไลน์
• บัญชีทางการ LINE Official Account ที่เปิดใหม่ โดยในจำนวนบัญชีใหม่นั้น มากกว่า 50% เป็นกลุ่มธุรกิจ SMEs รวมถึงแบรนด์แฟชั่นลักชัวรีระดับโลกมากมายที่เข้ามาเปิดใช้งาน ขณะที่ภาครัฐและเอกชนต่างๆ ก็ใช้บัญชีทางการเพื่อเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและอำนวย ความสะดวกให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับโควิด-19 รวมถึงเพื่อให้บริการ ‘Telemedicine’ ในหลายโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน
• ร้านค้าบน LINE SHOPPING ที่มี Active Social Seller มากกว่า 200,000 ร้านค้าในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่เป็นร้านค้าธุรกิจขนาดเล็ก ตอกย้ำจุดยืนในการส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันของธุรกิจประเภทนี้ด้วยโซลูชัน MyShop ที่ทรงประสิทธิภาพ
• LINE MAN ที่มีผู้ใช้เพิ่มเป็น 5.9 ล้านราย ให้บริการใน 67 จังหวัด โดยตั้งเป้าขยายครบ 77 จังหวัดภายในสิ้นปีนี้
• LINE BK ยอดผู้ใช้บริการทะลุ 2 ล้านคนภายใน 4 เดือนหลังจากการเปิดให้บริการ เพิ่มโอกาส ให้คนไทยเข้าแหล่งเงินทุนผ่านวงเงินให้ยืมนาโน (Nano Credit Line) หรือ สินเชื่อรายย่อย เพื่อการประกอบอาชีพได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ LINE ประเทศไทยยังเดินหน้าผลักดันและสนับสนุนคนไทยให้สามารถสร้างโอกาสและอนาคตท่ามกลางวิกฤตการณ์โควิด -19 ผ่านแคมเปญ ‘WE LOVE YOU’ ที่รวบรวมหลากหลายบริการ ฟีเจอร์ ฟังก์ชันต่างๆ ใน LINE Ecosystem ช่วยคนไทยฝ่าวิกฤติ ทั้งในแง่ของการใช้ชีวิตประจำวัน การประกอบธุรกิจต่าง ๆ การศึกษาและบริการทางการแพทย์
“ทั้งหมดนี้ ล้วนตอกย้ำเจตนารมณ์ในการเป็น Life Infrastructure เพื่อการใช้ชีวิตของคนไทยในยุคนี้ ได้เป็นอย่างดี โดย LINE จะยังมุ่งเน้นพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของคนไทยในหลากหลายมิติและสร้างการเติบโตไปพร้อมๆ กันกับเหล่าพันธมิตรทางธุรกิจได้ในอนาคต” พิเชษฐ กล่าว