เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทผู้ให้บบริการแพลตฟอร์มการสื่อสารระดับสากล อย่าง Infobip ได้จัดงานประชุมสัมมนาออนไลน์ ที่มุ่งเน้นไปที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อเป็นการเปิดตัวโครงการ Infobip Startup Tribe ที่ได้รับความสนใจจากบริษัทสตาร์ทอัพ และเหล่าผู้ประกอบการการสร้างระบบธุรกิจสตาร์ทอัพเป็นจำนวนมาก ครอบคุลมทั่วทั้งภูมิภาค
งานประชุมสัมมนาออนไลน์ ภายใต้ชื่อ ‘Bringing Next-Gen Customer Engagement to Startups’ ประกอบด้วยแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมพูดคุยมากมาย อาทิ วิชาล ฮาร์นาล หุ้นส่วนผู้จัดการของกองทุน 500 Southeast Asia หนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจร่วมลงทุนระยะยาว และ คุณไมเคิล คิม หัวหน้าใหญ่บริษัทกูเกิล ฝ่ายธุรกิจสตาร์ทอัพในเอเชียแปซิฟิค โดยมีคุณ นิโคลัส พาเวสซิก กรรมการฝ่ายระบบธุรกิจสตาร์ทอัพ บริษัทอินโฟบิป เป็นผู้ดำเนินงานประชุมในครั้งนี้
ในระหว่างช่วงการอภิปรายหมู่ แขกผู้มีเกียรติทุกท่านกล่าวถึงโอกาสของการใช้โซลูชันที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมถึงความท้าทายและโอกาสที่ธุรกิจอาจต้องเผชิญในปัจจุบัน นอกจากนี้ แขกผู้มีเกียรติยังร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการเติบโตและก้าวไปข้างหน้าในยุค New Normal นี้ ที่ต้องเผชิญกับโรคระบาดที่อาจกระทบต่อการขยายธุรกิจไปทั่วโลก
สรุปประเด็นสำคัญจากการสัมมนาออนไลน์ ดังต่อไปนี้:
- ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โมเดลธุรกิจแบบท้องถิ่นและเฉพาะเจาะจง กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีระบบธุรกิจแบบเฉพาะและการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบดิจิตอลในชนบทเป็นเป้าหมายหลัก
- การมีส่วนร่วมกับลูกค้าเปลี่ยนแปลงควบคู่ไปกับความรวดเร็วของการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิตอล เนื่องจากปัจจุบัน ผู้บริโภคคาดหวังที่จะมีส่วนร่วมกับธุรกิจทุกที่ทุกเวลา ดังนั้นธุรกิจสตาร์ทอัพจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้ตลอดเวลากับระบบที่พร้อมเสมอ
- จากการก้าวล้ำของอินเตอร์เน็ตและการบริการแบบดิจิตอลอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แนวทางการเข้าถึง และการมีส่วนร่วมกับลูกค้าแบบ omnichannel ที่อาศัยการสื่อสารแบบสตรีมไลน์ครอบคลุมการสนทนาผ่านหลากหลายช่วงทาง จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ธุรกิจขาดไม่ได้
คุณวิชาล ฮาร์นาล หุ้นส่วนผู้จัดการของกองทุน 500 Southeast Asia เสวนาเกี่ยวกับความก้าวหน้าของระบบธุรกิจสตาร์ทอัพในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา และเหตุผลของโอกาสในอนาคตที่เชื่อมโยงกับความสามารถในการมีส่วนร่วมกับลูกค้า โดยเน้นย้ำว่าปัจจุบัน มีธุรกิจสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นมากกว่า 30 แห่งในภูมิภาคนี้ อาทิ Bukalapak, Carsome, และ Grab ซึ่งทั้งหมดมีหัวใจหลักอยู่ที่การให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้ คุณวิชาลยังกล่าวว่าระบบสนับสนุนการสื่อสารที่แข็งแรงเป็นสิ่งจำเป็นหากธุรกิจต้องการโดดเด่นในสนามแข่งขัน โดยเฉพาะในยุคที่ต้องสื่อสารแบบ ‘พร้อมทุกเมื่อ’ ตลอด 24-ชั่วโมงอย่างในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงการนำเสนอประสบการณ์ที่ลูกค้าจะพึงพอใจ และการปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อประสิทธิภาพด้านต้นทุนให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด
คุณ นิโคลัส พาเวสซิก กรรมการฝ่ายระบบธุรกิจสตาร์ทอัพ บริษัทอินโฟบิป ผู้ริเริ่มโครงการนี้ กล่าวเสริมว่า “หลังจากที่ได้เป็นผู้นำในโครงการริเริ่มมากมาย และเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมนี้มาหลายปี ผมมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจสตาร์ทอัพ และช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งงานเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกในการชื่อมโยงธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีชื่อเสียงและใฝ่ฝันที่จะสร้างสรรค์แรงบันดาลใจ พร้อมมุ่งสู่การเติบโตของระบบธุรกิจสตาร์ทอัพในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อไป ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้นำ Infobip Startup Tribe มาสู่เอเชียแปซิฟิก และผมหวังว่าจะได้เห็นการเติบโตของธุรกิจ หลังจากที่ได้เพิ่มขีดความสามารถร่วมกับโครงการสนับสนุนของเรา รวมถึงเหล่าผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ และทรัพยากรตัวช่วยทางธุรกิจมากมายที่มีเครือข่ายธุรกิจอยู่ทั่วโลก”
นอกจากการร่วมเสวนาเกี่ยวกับการเติบโดของระบบธุรกิจสตาร์ทอัพในเอเชียแปซิฟิกแล้ว ผู้ร่วมอภิปรายยังกล่าวถึงความท้าทายที่ธุรกิจสตาร์ทอัพในภูมิภาคต่างได้เผชิญ คุณคิมกล่าวว่า “ปัจจุบัน ธุรกิจสตาร์ทอัพจำนวนมากไม่สามารถพบกับคู่ค้าแบบเห็นหน้ากันได้ตามปกติ ซึ่งถือเป็นความท้าทายของพวกเขาในการค้นหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อก้าวสู่ระดับโลก และสร้างการเติบโตให้ธุรกิจในต่างประเทศ ในตลาดธุรกิจอย่าง โซล และ โตเกียว เราเห็นผู้ก่อตั้งธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งภายในประเทศ และกระตือรือร้นที่จะนำพาธุรกิจของตนออกสู่ตลาดสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสู่ตลาดเอชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ เรากำลังทำงานร่วมกับธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อปรับปรุงระบบการสนทนาและการมีส่วนร่วมทางออนไลน์ รวมถึงเสริมเทคนิคการขายผ่านออนไลน์ให้แก่พวกเขา ผ่านโครงการต่าง ๆ สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพของกูเกิล”
“นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทยที่จะเติบโตและขยายธุรกิจได้ไกลกว่าวิธีการแบบเดิม ๆ โดย Infobip ร่วมกับพาร์ทเนอร์ด้านการสนับสนุนสตาร์ทอัพ และนักลงทุนทางธุรกิจมากมาย ทำให้เราเป็นตัวเลือกพันธมิตรในอุดมคติของธุรกิจสตาร์ทอัพได้ โดยเฉพาะธุรกิจสตาร์ทอัพที่ต้องการสร้างโครงสร้างการสนทนาที่แข็งแกร่ง และเสริมการให้บริการ และการมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการสื่อสารและปรับตัวเข้ากับระบบการตลาดแบบแนวดิ่งได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งโซลูชันที่ออกแบบมาโดยเฉพาะของเราจะช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สื่อสารกับลูกค้าได้หลากหลายช่องทางอย่างไร้รอยต่อ กับการดำเนินการแบบ omnichannel ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน แม้ในช่วงเวลาที่ต้องทำงานจากระยะไกล” คุณเอกรัฐ งานดี ผู้จัดการบริษัทอินโฟบิป ประจำประเทศไทย กล่าว
ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างมากจากการประสบความสำเร็จของ บริษัท แฟลช ที่ถือเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นแห่งแรกในไทย โดยในปี 2563 การลงทุนสตาร์ทอัพในไทยทำลายสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 12.38 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 330% จากปี 2562 ที่ 3.66 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นโอกาสทองสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพในอนาคต ที่พร้อมรับความท้าทายและพิสูจน์ความสามารถในการทำกำไรและเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่นักลงทุน
ธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทยที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถสมัครเพื่อเข้าร่วมโครงการ Infobip Startup Tribe ได้ที่ https://startups.infobip.com/.