วันนี้ Ericsson ประเทศไทยจัดแถลงข่าวรายงานเชิงลึก Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด ผ่านไป 2 ปีสำหรับ 5G ตัวเลขออกมาน่าสนใจ โดยเครือข่ายที่เปิดใช้งาน 5G แล้วมากกว่าครึ่งเป็นของ Ericsson ในกว่า 46 ประเทศ เป็น SA 12 เครือข่ายและมีการส่งออกอุปกรณ์ 5G ไปแล้วมากกว่า 7 ล้านชิ้น ในรายงานระบุจะมีผู้ใช้ 5G 4.4 พันล้านคนในปี 2027 ซึ่งเกินครึ่งเชื่อมต่อผ่านมือถือ คาดปีนี้จะมีผู้ใช้ 660 ล้านคนทั่วโลก ตัวผลักดันให้เกิดการใช้งานมากขึ้นคืออุปกรณ์ 5G มีราคาที่ต่ำลง
ปัจจุบันมีมือถือรองรับ 5G กว่า 400 รุ่น ซึ่งปรากฎการณ์ถัดไปมุ่งไปที่ SA ที่จะทำให้ 5G ecosystem เติบโตได้เร็ว นอกจากนี้ยังพบว่า data traffic เพิ่มขึ้นถึง 42% ภายในปีเดียว (2020-2021) แต่ละเดือนมียอดใช้ถึง 78EB โดยคาดว่าภายในปี 2027 ปริมาณ data กว่า 62% ในโลกนี้จะวิ่งบน 5G โดยมี VDO เป็นปัจจัยหลัก
ในช่วงถามตอบ Q&A ทาง Ericsson บอกกับ TelecomLover ว่า จากข่าวการรวมบริษัท จะทำให้บริษัทมีโอกาสและความท้าทายเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะต้องเน้นในคุณภาพและบริการที่ส่งมอบให้ลูกค้าใช้ได้อย่างไร้รอยต่อและไม่สะดุดในช่วงเปลี่ยนผ่าน
รายงานเชิงลึกระดับโลกของอีริคสัน (NASDAQ: ERIC) เปิดเผยว่าตั้งแต่อีริคสันจัดทำและเผยแพร่รายงาน Ericsson Mobility Report เป็นครั้งแรกในปี 2554 จนถึงปัจจุบันมีปริมาณการใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือเพิ่มขึ้นเกือบ 300 เท่า โดยในรายงานฉบับครบรอบสิบปีนี้ยังได้รวบรวมข้อมูลและสถิติต่าง ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเครือข่ายมือถือทั้งในอดีตและปัจจุบัน ให้เราได้ย้อนกลับไปดูเทรนด์ต่าง ๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในรอบทศวรรษที่ผ่านมา รวมถึงการคาดการณ์ไปจนถึงปี 2570
จากการคาดการณ์ที่ระบุว่ายอดผู้ใช้บริการ 5G จะสูงแตะ 660 ล้านบัญชีภายในสิ้นปีนี้เป็นการตอกย้ำสมมติฐานที่ว่า 5G เป็นเจนเนอเรชั่นเครือข่ายไร้สายที่มีการนำมาใช้งานรวดเร็วที่สุด โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีนและอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาอุปกรณ์ 5G ที่ลดลง อีริคสันยังพบว่าในไตรมาส 3 ที่ผ่านมานี้ทั่วโลกมียอดผู้ใช้ 5G มีจำนวนเพิ่มขึ้นสุทธิที่ 98 ล้านบัญชี เทียบกับผู้สมัครใช้ 4G รายใหม่ที่ 48 ล้านบัญชี และคาดว่าเครือข่าย 5G จะครอบคลุมผู้ใช้งานกว่า 2 พันล้านคนภายในสิ้นปี 2564
สอดคล้องกับการคาดการณ์ล่าสุดที่ระบุว่าภายในปี 2570 เครือข่าย 5G จะกลายเป็นเครือข่ายหลักของโลกเพื่อใช้เข้าถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่ง ณ เวลานี้ผู้ใช้ 5G มีสัดส่วนประมาณ 50% ของจำนวนผู้ใช้มือถือทั้งหมดทั่วโลก โดยครอบคลุมประชากรโลกถึง 75% และคิดเป็น 62% ของปริมาณการใช้อินเตอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนทั่วโลก
มร. อิกอร์ มอเรล ประธานบริษัทอีริคสัน ประเทศไทยกล่าวว่า “การสื่อสารบนมือถือก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเหลือเชื่อต่อสังคมและธุรกิจตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อเรามองไปข้างหน้าในปี 2570 เครือข่ายมือถือจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นทั้งในแง่ของการมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน รวมถึงการใช้ชีวิตและการทำงาน ในรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุดของเรา ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเร่งความเร็วขึ้นอีกระดับ และเทคโนโลยีมีบทบาทอย่างยิ่งยวด”
คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ยอดผู้ใช้มือถือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะเพิ่มเป็น 1.1 พันล้านราย โดยมียอดผู้สมัครใช้บริการ 5G สูงแตะ 15 ล้านราย และจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงสองสามปีนี้ โดยคาดว่าในปี 2570 จะมียอดผู้ใช้ 5G ถึง 560 ล้านราย นอกจากนี้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะมีปริมาณการใช้อินเตอร์เน็ตต่อสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในโลก แตะ 46 กิกกะไบท์ (GB) ต่อเดือน ในปี 2570 หรือเติบโตเฉลี่ย 34% ต่อปี สอดคล้องกับปริมาณการใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือทั้งหมดที่เติบโตต่อปีที่ 39% ส่งผลให้มียอดการใช้เน็ตต่อเดือนสูงถึง 46 เอกซะไบท์ (EB) เป็นผลมาจากจำนวนผู้สมัครใช้บริการ 4G และ 5G ที่เพิ่มขึ้นในตลาดที่เปิดให้บริการ 5G
มร. อิกอร์ กล่าวเสริมว่า “ประเทศไทย คือ หนึ่งในประเทศที่มีประชากรใช้อินเทอร์เน็ตสูงที่สุดในโลก เมื่อกล่าวถึงภาคอุตสาหกรรมและองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ประเทศไทยคือหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญของภาคอุตสาหกรรมในระดับภูมิภาค โดยมีธุรกิจที่มีศักยภาพจำนวนมากที่นำเทคโนโลยี 5G มาปรับปรุงการดำเนินงานให้มีความทันสมัย ผมมองว่าประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างเครือข่าย 5G ที่สามารถตั้งโปรแกรม มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ”
ตั้งแต่ปี 2554 การนำเครือข่าย 4G LTE มาใช้งานได้ถือเป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญที่เพิ่มยอดผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วโลกพุ่งเป็น 5.5 พันล้านคน และเกิดอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อ 4G ขึ้นในตลาดมากกว่า 20,000 รุ่น ในรายงานยังชี้ให้เห็นว่าวงจรเทคโนโลยีของอุปกรณ์ 5G นั้นเปลี่ยนแปลงไปได้รวดเร็วกว่า ในปัจจุบันมีโทรศัพท์มือถือ 5G คิดเป็นสัดส่วน 23% ของมือถือทั้งหมดทั่วโลก เทียบกับโทรศัพท์มือถือ 4G ที่มีเพียง 8% ณ จุดเดียวกัน
สิ่งนี้กระตุ้นให้การใช้ปริมาณอินเตอร์เน็ตบนมือถือเติบโตอย่างก้าวกระโดด หากพิจารณาการเติบโตแบบปีต่อปี จะพบว่าปริมาณการใช้เน็ตมือถือ ณ ไตรมาส 3 ปี 64 เติบโตที่ 42% หรือประมาณ 78 เอกซะไบต์ (EB) ซึ่งนับรวมปริมาณอินเตอร์เน็ตจากบริการบรอดแบรนด์อินเตอร์เน็ตไร้สาย (Fixed Wireless Network) นอกจากนี้ ยังพบว่ายอดการใช้เน็ตมือถือในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีปริมาณเทียบเท่าปริมาณเน็ตที่เคยมีมาทั้งหมดจนถึงปี 2559 ซึ่งจากการคาดการณ์ล่าสุดยังเผยว่าในปี 2570 จะมีการใช้เน็ตมือถือเพิ่มขึ้นสูงถึง 370 เอกซะไบต์ (EB)
นอกจากนี้ ในรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับครบรอบ 10 ปี ยังมีบทความประกอบอีก 4 หัวข้อ ดังนี้
- การสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับอนาคตดิจิทัล โดยร่วมกับ Far EasTone
- การสร้างเครือข่ายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัล โดยร่วมกับ stc
- Time-to-content: กำหนดเกณฑ์มาตรฐานสำหรับประสิทธิภาพเครือข่าย
- การสร้างเครือข่ายต่าง ๆ ที่ยั่งยืน
Explore the Ericsson Mobility Report November 2021 edition and the Ericsson Mobility Report Journey.
RELATED LINKS:
Behind the scenes of the Ericsson Mobility Report: 10 years of industry leading insights
Ericsson’s publicly announced 5G contracts
Ericsson 5G
Find out more about Ericsson’s 4G and 5G Fixed Wireless Access
เส้นทางสู่การสร้างนวัตกรรม 5G ของอีริคสัน (ปี 2554 – 2564)
ในช่วงเวลากว่า 3 ทศวรรษอีริคสันลงทุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสร้างเทคโนโลยีที่เป็นมาตรฐานระดับโลกตั้งแต่ 2G, 3G, 4G และ 5G
อีริคสันเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักในการพัฒนามาตรฐานเครือข่าย 5G มาโดยตลอดและประสบความสำเร็จมากมายตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน และยังเป็นพลังสนับสนุนการเปิดบริการของ 5G เชิงพาณิชย์ทั่วทั้ง 5 ทวีป
ศักยภาพของเครือข่าย 5G ถัดจากนี้จะช่วยทำให้ธุรกิจทุกประเภทได้รับประโยชน์หลากหลาย อาทิ ในด้านความคล่องตัว ความยืดหยุ่น ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม ในขณะที่อีริคสันได้เริ่มต้นวิจัย 6G ไปแล้วและวางเป้าหมายว่า 6G ควรสร้างประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อคนและสร้างความยั่งยืนมากขึ้นผ่านการสื่อสารอัจฉริยะ
(2554) เริ่มต้นเส้นทางพัฒนา 5G
การที่อีริคสันให้ลูกค้ามีส่วนร่วมตั้งแต่แรกเริ่มนั้นสำคัญมาก ๆ เพื่อทำความเข้าใจถึงแนวทางการพัฒนาและความท้าทายที่จะเกิดขึ้นเฉพาะ |
|
(2555 – 2558) ระยะเริ่มต้น
โดยมีกิจกรรมหลัก ๆ ประกอบด้วย การทดสอบ 5G radio testbed และวางคอนเซ็ปต์ในเรื่องเทคโนโลยี อาทิ 5G-LTE dual connectivity และ 5G data rates ในระดับความเร็วที่ 5Gbps
|
|
(2558 – 2559) รางวัล 5G อันแรก
|
|
(2559 – 2560) ช่วงทดสอบและทดลอง
ความก้าวหน้าของ 5G การจดสิทธิบัตร 5G ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่สุดในโลกของนักประดิษฐ์ในอุตสาหกรรมเครือข่ายเซลลูล่าร์ (ที่มา: Derwent Innovation)
|
|
(2561) เปิดตัว 5G
โดยอีริคสันด้ำการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G กับสมาร์ทโฟนต้นแบบร่วมกับ Swisscom และ Qualcomm และร่วมมือกับ Telstra และ Intel ดำเนินการส่งผ่านข้อมูลเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ในแบบ end-to-end เป็นครั้งแรกผ่านคลื่นความถี่ 3.5GHz ที่ได้รับใบอนุญาต นอกจากนั้น อีริคสันยังเป็นรายแรกที่ประสบความสำเร็จในการทดสอบการทำงานร่วมกันกับชิปเซ็ตกับอุปกรณ์ของผู้ผลิตอื่นในย่านความถี่ต่ำ กลาง และสูง |
|
(2562) 5G ก้าวล้ำยิ่งขึ้น
|
|
(2563) สถิติมีไว้เพื่อทำลาย
|
|
(2564) เวลาของ 5G
ด้วยความร่วมมือระหว่าง Telstra, Ericsson และ Qualcomm ร่วมสร้างสถิติโลกความเร็วดาวน์โหลด 5G ถึง 5Gbps บนเครือข่าย 5G ที่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ โดย Ericsson และ MetaTek dual-connectivity ยังได้ร่วมกันพัฒนาและทำให้การเชื่อมต่อแบบ Standalone ง่ายยิ่งขึ้น |
|
มุ่งไปข้างหน้า
5G อยู่ในมือของทุก ๆ คน: ด้วยศักยภาพของเครือข่าย 5G ถัดจากนี้จะช่วยทำให้ธุรกิจทุกประเภทได้รับประโยชน์หลากหลาย อาทิ ในด้านความคล่องตัว ความยืดหยุ่น ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม โดยภายในสิ้นปี 2027 เราคาดว่าจะมีผู้สมัครใช้บริการ 5G ทั่วโลก ประมาณ 4.4 พันล้านบัญชี และ 62% ของการรับ-ส่งข้อมูลทั่วโลกจะมาจาก 5G ย้ำให้เห็นว่า 5G เป็นเจอเนอเรชั่นไร้สายที่มีการนำมาใช้งานรวดเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา นอกจากนี้จะมีการสมัครใช้ 5G แตะ 1 พันล้านบัญชีเร็วว่า 4G ถึง 2 ปี |
ที่มา: Building 5G and beyond – Ericsson