สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เกิดขึ้นมาร่วมสองปีกว่า และยังคงส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อการฟื้นตัวของธุรกิจทุกแขนง ข้อมูลจาก ธปท. เผยภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่มีความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่กลายเป็นความเสี่ยงสำคัญในปีนี้ ล่าสุดปรับลดจีดีพีมาเหลือ 3.4% แม้ปัจจุบันแนวโน้มความเชื่อมั่นด้านการลงทุนและการเติบโตของเศรษฐกิจภาพรวมกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นจากการคลายล็อคมาตรการต่าง ๆ รวมถึงอัตราการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมมากขึ้น แต่ความกังวลอาจฉุดรั้งให้การฟื้นตัวเป็นไปได้อย่างเชื่องช้า
ประเทศไทยควรจะเดินหน้าไปในทิศทางไหน? คำตอบอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด หากย้อนกลับมาพิจารณา 3 อุตสาหกรรมหลัก ๆ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ได้แก่ ภาคการท่องเที่ยว (Tourism) ภาคเกษตรกรรม (Agriculture) และ ภาคอุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing) ที่เป็นจุดแข็งของประเทศเรา ซึ่งเราจะสามารถช่วยฟื้นฟูและสร้างการเติบโตรวดเร็วกว่าเดิมในสถานการณ์ที่โควิดไม่มีวันสิ้นสุดได้อย่างไร?
นาย ศุภรัฒศ์ ศิวะเพ็ชรานาถ สิงหรา ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) แชร์วิสัยทัศน์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจปี 65 โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเสริมแกร่งกับ 3 อุตสาหกรรมที่เป็นจุดแข็งของประเทศ ดังนี้
เมื่อมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นพฤติกรรมผู้ใช้งานข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลตามไปด้วย ทำให้ผู้ให้บริการจำเป็นต้องมีการจัดเก็บข้อมูลที่เกิดขึ้นในปริมาณมาก และเครือข่าย 5G เทคโนโลยี Blockchain หรือ Cryptocurrency สามารถนำมาปรับใช้เพื่อสร้างโมเดลธุรกิจท่องเที่ยวใหม่ ๆ ซึ่งต้องวางกรอบการกำกับดูแลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์
สามอุตสาหกรรมหลักข้างต้นเป็นเสาหลักให้กับการเติบโตของประเทศ ที่หลายภาคส่วนมีการวางแผนและ เร่งปรับตัวเพื่อรองรับกระแส Digital Transformation ความผันผวนของเศรษฐกิจทั้งในประเทศและทั่วโลก แรงกระเพื่อมมหาศาลจากโควิด ไปจนถึงการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน หากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังและต่อเนื่องทั้งในด้านการลงทุน การพัฒนาศักยภาพบุคลากร การสร้างความยั่งยืนให้กับระบบนิเวศ จะทำให้เกิดแรงผลักดันที่ส่งผลต่อเนื่องไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่มีบทบาทสนับสนุนการเติบโตและการแข่งขันของประเทศในวงกว้าง
“เทคโนโลยีดิจิทัล” มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพลิกฟื้นธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น Blockchain, Cloud, Big Data และ Cryptocurrency โดยมี Data Center เป็นศูนย์กลางรองรับข้อมูลมหาศาล STT GDC Thailand ในฐานะผู้ให้บริการไฮเปอร์สเกลดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลก และมีบทบาทสำคัญใน Digital Ecosystem มุ่งมั่นสร้างรากฐานดิจิทัลครอบคลุมใน 3 ด้านหลัก ๆ ประกอบด้วย 1) เร่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อเป็นรากฐานการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ 2) กระตุ้นเม็ดเงินการลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนด้วยการนำเสนอโซลูชั่นและปรับใช้เทคโนโลยีดาต้าเซนเตอร์อย่างเหมาะสม 3) พัฒนาเทคโนโลยีไฮเปอร์สเกลดาต้าเซ็นเตอร์ที่สามารถปรับใช้กับทุก ๆ ธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตให้กับประเทศ และ สอดรับกับเทรนด์การใช้งานดิจิทัลของคนไทยที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด