SiteMinder ผู้นำแพลตฟอร์มระดับโลกด้านโฮเทลคอมเมิร์ซแบบ Open Platform เผยอันดับแพลตฟอร์มจองโรงแรมในประเทศไทยที่ทำรายได้จากการจองห้องพักให้กับโรงแรมสูงสุดในปีที่ผ่านมา รวมถึงอีกกว่า 20 จุดหมายปลายทางทั่วโลก ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว
การจัดอันดับของประเทศไทย เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเทรนด์โลก ซึ่งเผยว่าโรงแรมต่างๆมีการใช้กลยุทธ์ธุรกิจออนไลน์ ที่เป็นองค์รวมมากยิ่งขึ้น โดยผสมผสานวิธีการใหม่ร่วมกับวิธีการที่ใช้อยู่แล้วในกลุ่มของผู้ประกอบการโรงแรม ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ และสร้างรายได้ให้กับโรงแรม ซึ่งกลยุทธ์ธุรกิจแบบองค์รวมนี้ จะเป็นการเน้นสร้างความสมดุลที่มากยิ่งขึ้นระหว่างช่องทางรายได้ทางตรงและทางอ้อม โดยการจองตรงกับทางโรงแรมยังคงครองอันดับสามในประเทศไทยติดต่อกันเป็นปีที่สอง ซึ่งเป็นผลมาจาก การเพิ่มการลงทุนในด้านเครื่องมือจัดการการจอง การจัดการเว็บไซด์ของโรงแรม เครื่องมือค้นหาบนอินเทอร์เน็ต (Metasearch) การชำระเงินที่สะดวกสบาย การสนับสนุนจากที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบแอปพลิเคชันสำหรับโรงแรมในการช่วยสร้างยอดขาย ปัจจุบันการจองตรงกับโรงแรม ได้รับจัดอันดับเป็นหนึ่งในสองช่องทางสร้างรายได้สูงสุดของโรงแรม ในกว่า 12 ประเทศ หรือมากกว่าครึ่งของประเทศที่มีการจัดอันดับทั้งหมด
การจัดอันดับประจำปีนี้ มีรายชื่อแพลตฟอร์มจองโรงแรมใหม่เพิ่มขึ้นอีก 29 แห่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของโรงแรมในปัจจุบัน ในการเปิดรับแหล่งที่มาของรายได้แหล่งใหม่ ในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ โดยในประเทศไทย Sunhotels by WebBeds และ DidaTravel ได้ขึ้นมาอยู่ใน 12 อันดับเป็นครั้งแรก
ข้อมูลที่น่าสนใจอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวใช้กลยุทธ์ธุรกิจของโรงแรมแบบองค์รวมมากขึ้น ได้แก่:
“เรากำลังอยู่ในยุคที่แขกผู้เข้าพักมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยมีแนวคิดของการเป็นนักเดินทางที่มีความกระตือรือร้น ซึ่งมาพร้อมกับพฤติกรรมและความชอบที่เปลี่ยนแปลงไป จากข้อมูลของเรา แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการโรงแรม ยินดีที่จะปรับใช้วิธีการทั้งใหม่ ร่วมกับแนวทางที่มีอยู่เดิม เพื่อดึงดูดลูกค้าเหล่านี้ ตามกลยุทธ์ที่ปรับตัวให้มีความรอบด้านมากยิ่งขึ้นในการจัดจำหน่าย การจัดการการตลาด และการพัฒนาธุรกิจให้เติบโต” กล่าวโดย คุณเจมส์ บิชอป ผู้อำนวยการอาวุโสด้านระบบนิเวศธุรกิจระดับโลก SiteMinder
คุณ แบรดลีย์ ไฮนส์ รองประธานกรรมการบริษัท SiteMinder ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค กล่าวเสริมว่า “ในขณะที่สภาพแวดล้อมทางธุรกิจสำหรับโรงแรม ยังคงถูกพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง นี่จึงเป็นสิ่งที่น่ายินดี ที่ได้เห็นผู้ประกอบการโรงแรมทั่วทั้งประเทศไทย เปิดรับช่องทางที่หลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อดึงดูดแขกผู้เข้าพักใหม่ๆ
“ปีที่ผ่านมา นอกจากเราจะได้เห็นการประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของรูปแบบการจองโดยตรงกับทางโรงแรม ช่องทางการจองระดับภูมิภาคและแหล่งรวบรวมห้องพักระดับธุรกิจ-ถึง-ธุรกิจแล้ว เรายังได้เห็นความแข็งแกร่งของ Mr& Mrs Smith ที่ก้าวขึ้นมาจากอันดับ12 ในฐานะแพลตฟอร์มการจองที่พักใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในปี 2563 ขึ้นมาสู่อันดับที่ 9 ในปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของธุรกิจในท้องถิ่น ที่ต้องการจะดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง และสามารถเข้าพักระยะเวลายาวนานขึ้นได้ และเนื่องจากตลาดมีสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้ประกอบการโรงแรมต้องวิเคราะห์และประเมินกลยุทธ์ธุรกิจออนไลน์อย่างต่อเนื่อง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขามีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับช่องทางการจองที่พักที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงสุด ในการสร้างความสามารถในการจองห้องพักและสร้างรายได้สำหรับธุรกิจในประเทศ”
12 อันดับแพลตฟอร์มจองโรงแรมในประเทศไทย ประจำปีพ.ศ.2564 ซึ่งประเมินจากรายได้รวมที่สร้างให้กับลูกค้าธุรกิจโรงแรมของ SiteMinder ได้แก่:
1. Booking.com
2. Agoda
3. เว็บไซต์โรงแรม (การจองโดยตรง)
4. Expedia Group
5. Hotelbeds
6. Traveloka
7. Trip.com
8. Global Distribution Systems
9. Mr & Mrs Smith
10. WebBeds – Destinations of the World
11. WebBeds – Sunhotels
12. DidaTravel.
สามารถดู 12 อันดับแพลตฟอร์มจองโรงแรมที่ทำรายได้จากการจองห้องพักให้กับโรงแรมสูงสุดจากทั่วโลก และข้อมูลเชิงลึกของนักท่องเที่ยวในปี 2565 จากผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจองโรงแรมยอดนิยมได้ ที่นี่