Igloo อินชัวร์เทคระดับภูมิภาค ประกาศแต่งตั้งนายราวนัค เมธา ขึ้นดำรงตำแหน่งซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้ง จากเดิมที่เป็นซีเอ็มโอ โดยจะทำงานร่วมกับนายเหว่ย ซู ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริหาร
นายราวนัค มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซ และเทคโนโลยีอวกาศ รวมทั้งการทำงานในฐานะผู้นำแบรนด์อีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย นั่นคือ Flipkart และ Zalora นายราวนัคเข้าร่วมงานกับ Igloo ในปี 2561 เป็นผู้บุกเบิกตลาดในประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ประกอบด้วย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไทย ออสเตรเลีย และมาเลเซีย รวมถึงสร้างพันธมิตรรายสำคัญในอุตสาหกรรม เช่น ลาซาด้า, ช้อปปี้, บูกัลลปัก, เอไอเอส, เรดดออร์, ฟู้ดแพนด้า, ล็อตเต้ ไฟแนนซ์ และ อฮามูฟ
Igloo เติบโตสวนกระแสกับสภาพเศรษฐกิจ โดยมียอดเบี้ยประกันภัยสุทธิพุ่งสูงขึ้นเกือบ 3 เท่าในปี 2564 ที่ผ่านมา มีพันธมิตรมากกว่า 30 ราย และให้บริการครอบคลุมพื้นที่ให้บริการได้มากที่สุดนับตั้งแต่เปิดให้บริการมาในภูมิภาค ที่สำคัญยัง สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ด้วยยอดเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์จากเป้าหมาย 5 ปีของตลาดภูมิภาค นอกจากนี้ในปี 2564 ที่ผ่านมาเพียงปีเดียว Igloo ช่วยผู้ทำประกันได้มากกว่า 75 ล้านกรมธรรม์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับในประเทศไทย Igloo มีพันธมิตรธุรกิจหลากหลายกลุ่ม เช่น มีความร่วมมือกับฟู้ดแพนด้าในการให้บริการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลกับไรเดอร์ของฟู้ดแพนด้า ร่วมมือกับเอไอเอส ในการให้บริการประกันคุ้มครองมือถือ (Mobile Phone 360) และบริการประกันหน้าจอมือถือ (Phone Screen Protection) แล่ะก่อนหน้านี้ Igloo มีความร่วมมือกับ HD ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพราคาประหยัด (ไมโครอินชัวรันส์) ผ่านแพลตฟอร์ม HDMall มาร์เก็ตเพลซด้านเฮลท์แคร์ โดยมีเมืองไทยประกันภัย (MTI) หนึ่งในบริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำของประเทศไทย เป็นผู้รับประกันสุขภาพ เช่น โรคมะเร็ง โรคอันเนื่องจากอาการติดมือถือ เป็นต้น นับเป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งแรกของ Igloo กับแบรนด์ด้านสุขภาพบนดิจิทัล
นายเหว่ย ซู ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริการบริษัท กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่ได้เห็นบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว และยังคงได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนักลงทุนอย่างเข้มแข็ง” พร้อมกล่าวเสริมว่า “ด้วยความรู้ความสามารถของราวนัคที่มาจากอุตสาหกรรมหลากหลาย และประสบการณ์ในการนำทีม ราวนัคจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับ Igloo ผมเชื่อมั่นว่าเราอยู่ในจุดยืนที่แข็งแกร่งในการเป็นผู้นำด้านอินชัวเทคในภูมิภาคภายใต้การนำของราวนัค ผมในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตและพัฒนาการให้กับ Igloo”
Igloo อยู่ในตำแหน่งการตลาดที่ดีในการคว้าโอกาสเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 360 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 10.8 ล้านล้านบาท ในปี 2568 จากรายงานการวิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลของ Bain, Google and Temasek’s e-conomy report การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเป็นปัจจัยเร่งให้ผลิตภัณฑ์ประกันภัยดิจิทัลเป็นที่ต้องการในตลาด ตัวอย่างเช่น ประกันภัยความปลอดภัยไซเบอร์ และประกันภัยกระเป๋าตังอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงถึง 10 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 300,000 ล้านบาท นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการดิจิทัล และประกันภัยในภูมิภาคนี้
นายราวนัค เมธา ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ กล่าวว่า “Igloo เห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่ง Igloo บุกตลาดหนักมากในกลุ่มประกันภัยในราคาที่จับต้องได้ จากโครงสร้างพื้นฐานของเรา ที่พร้อมทั้งคนและเทคโนโลยี Igloo ในฐานะอินชัวเทคในภูมิภาคเพียงหนึ่งเดียวที่มีผลิตภัณฑ์และพันธมิตรธุรกิจที่หลากหลาย จะยังคงบุกตลาดอย่างหนักในปีนี้เพื่อสร้างการเติบโต ทั้งในส่วนของออร์แกนิคและ อินออร์แกนิค เพื่อผลักดันวิสัยทัศน์ การประกันภัยสำหรับทุกคน “
โซลูชั่น Ignite by Igloo ขับเคลื่อนด้วย AI
เมื่อเร็วๆ นี้ Igloo เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ Ignite by Igloo เพื่อช่วยเหลืองานขายประกันให้กับตัวแทนประกัน และนายหน้าขายตรง แอปพลิชั่นใหม่ Ignite by Igloo ขับเคลื่อนด้วย AI ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยผู้ขายประกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ขั้นตอนการขายดำเนินไปได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แพลตฟอร์ม Ignite เป็นโซลูชั่นที่ใช้งานได้ผ่านออนไลน์ นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลากหลายประเภทบนแพลตฟอร์มเดียว และสนับสนุนตัวแทนประกันในการยกระดับบริการการมีส่วนร่วมของลูกค้า และการจัดการผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น นายหน้าขายตรงประกันในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการนำเสนอการประกันความคุ้มครองให้กับลูกค้าก็ได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้เช่นเดียวกัน
Igloo คว้าเงินลงทุน 19 ล้านเหรียญสหรัฐในรอบ Series B
พร้อมกันนี้ Igloo ประกาศการระดมทุน 19 ล้านเหรียญสหรัฐในรอบ Series B โดยมี คาเธย์ อินโนเวชั่น นักลงทุนระดับโลกเป็นผู้ลงทุนหลัก ร่วมด้วยนักลงทุนรายอื่น คือ เอซีเอ (ACA) และนักลงทุนรายเดิม คือ โอเพ่นสเปซการระดมรอบนี้ทำให้ Igloo ระดมทุนได้ทั้งหมดมากกว่า 36 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 1,080 ล้านบาท
นายเอียน ศิโกรา ผู้อำนวยการ และกรรมการบริหาร โอเพ่นสเปซ กล่าวว่า “สถานการณ์โควิด นับเป็นจุดพลิกผันของอุตสาหกรรมอินชัวเทคทั้งหมด เพราะการแพร่ระบาดทำให้คนต้องการการประกันภัยในวงกว้างมากขึ้น ทั้งนี้ ภายใต้การนำของราวนัค ทำให้ Igloo สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างสร้างสรรและรวดเร็ว และปัจจุบันสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดอินชัวเทคได้มากที่สุดในภูมิภาค เราเป็นพันธมิตรกับ Igloo ตั้งแต่ปี 2561 และมีส่วนร่วมในการเห็นทีมงานทำงานร่วมกัน โดยสามารถหาโอกาสทางธุรกิจได้แม้ในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติจากโควิด “
นายราจีฟ เคชอัพ ผู้อำนวยการ และกรรมการบริหาร คาเธ่ย์ อินโนเวชั่น ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “คาเธ่ย์ มีปรัชญาความเชื่อมั่นในการให้บริการการเงินที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ Igloo มีพันธกิจที่สอดคล้องกับเราในหลากหลายระดับชั้น เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างธุรกิจร่วมกัน เราเชื่อมั่นว่าราวนัค และทีมงานสร้างความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในการขยายตลาดในภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วท่ามกลางสถานการณ์โควิด พวกเราตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ Igloo ในก้าวย่างต่อไป”
สำหรับการระดมทุนในรอบ Series B ทาง Igloo วางแผนสำหรับการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำอินชัวเทคในภูมิภาค Igloo ยังคงดำเนินแผนลงทุนในการพัฒนาขีดความสามารถสายผลิตภัณฑ์ทั้งหมด นำเสนอนวัตกรรมการประเมินความเสี่ยงแบบไดนามิก และเครื่องมือเรียกร้องค่าสินไหมที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยนวัตกรรมทั้งหมด สอดคล้องกับปรัชญา “ประกันภัยสำหรับทุกคน” การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการจัดจำหน่าย มุ่งเน้นที่กลุ่มเป้าหมายประชากรที่มีรายได้น้อย–ปานกลาง ที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงการประกันภัยในระบบ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แพลตฟอร์มได้รับการพัฒนาให้สามารถรองรับต่อการขยายการเติบโต และเทคโนโลยีที่ต่อเชื่อมกับระบบอื่นๆ ได้ เพื่อประสานการทำงานกับพันธมิตรของ Igloo บนแพลตฟอร์มระบบเปิด นอกเหนือจากนวัตกรรมเทคโนโลยี การใช้เงินลงทุนจะมุ่งเน้นไปที่การจัดหาทรัพย์สินประเภทที่มีความคล่องปานกลาง ที่สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจของ Igloo