ความนิยมของไวไฟเจนใหม่ หรือ Wi-Fi 6 เริ่มกลายเป็นบรรทัดฐานหรือจุดเริ่มต้นของเหล่าบรรดาอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ smartphone laptop notebook PC กล่อง Android หรือแม้แต่ Smart TV เข้ามาแทนที่ Wi-Fi AC มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรองรับ Bandwidth หรือความกว้างของคลื่นเป็น 2 เท่าที่เรียกว่า HE160 ในคลาส AX3000 เพื่อให้เน็ตบ้านที่เร็วเกินกว่า 500 Mbps สามารถใช้งานได้จริงบนอุปกรณ์ที่รองรับ TP-Link เล็งเห็นความสำคัญของ router ในราคาเริ่มต้น จับต้องได้ง่าย แต่ใส่ฟีเจอร์ที่ไม่ประนีประนอมกับราคา เรียกได้ว่ารุ่นใหญ่ ๆ ราคาเป็นหมื่นที่ออกมาก่อนหน้านี้ยังต้อง #งง กับสเปคที่ให้มาในราคา 2490 บาท ครบครันขนาดนี้ เป็นจุดเริ่มต้นดี ๆ ให้ใครหลายคนสามารถอัพเกรด เป็นเจ้าของและใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไปอีกขั้น
แกะกล่อง
ในชุดประกอบด้วย ตัว Router สีดำ แบบ 4 เสาภายนอกชนิดถอดไม่ได้ พร้อม Adapter คู่มือ ใบรับประกัน และสายแลน cat5e ยาว 1 เมตร จำนวน 1 เส้น
สเปค TP-Link AX53
Wireless 2.4Ghz | Wireless AX up to 574Mbps (40Mhz) |
Wireless 5Ghz | Wireless AX up to 2402Mbps (160Mhz) |
WiFi Features | OFDMA, DFS, 2X2, Airtime Fairness |
CPU | Dual core Qualcomm |
RAM | 512MB |
Ports | 1x Gigabit WAN port + 4x Gigabit LAN port |
AX53 ใช้ ชิฟ Qualcomm ชนิด Dual core แรม 512MB กระจายคลื่น 2.4GHz สูงสุด 40 MHz LinkSpeed 574Mbps และคลื่น 5GHz สูงสุด 160 MHz LinkSpeed 2402Mbps มี port WAN 1 ช่อง และ LAN อีก 4 ช่อง ไม่มีช่อง USB มีปุ่มเปิด ปิดการทำงาน และ ปุ่ม WPS และปุ่ม reset
ในด้านฟีเจอร์ก็ใส่มาแบบครบถ้วนมาตรฐาน Wi-Fi 6 ทั้ง OFDMA , Airtime Fairness , Target Wake time , การตั้งค่าให้ restart อัตโนมัติ , ระบบ QOS , ระบบความปลอดภัย HomeShield , ระบบความปลอดภัยล่าสุด WPA3 ใช้งานได้ทั้งในแบบ Router Mode และ AccessPoint Mode รองรับการสั่งการและตั้งค่าแบบง่ายด้วย Application พร้อมระบบ One Mesh ที่สามารถขยายการเชื่อมต่อให้ทุกจุดในบ้านใช้งานได้ครอบคลุมมากขึ้น
การตั้งค่าเพื่อเริ่มต้นใช้งานครั้งแรก
การตั้งค่าใช้งานครั้งแรกสามารถทำได้ 2 ช่องทางคือ
-
- แบบง่ายสุดสำหรับคนทั่วไป คือการโหลด App Tether ของ TP-Link จาก Appstore หรือPlaystore แล้วเชื่อมต่อกับ SSID ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า TPLink โดยรหัสผ่านนั้นดูได้จากใต้เครื่องเป็นตัวเลขทั้งหมด จากนั้นเปิด Tether และทำตามขั้นตอนที่ขึ้นบนหน้าจอตั้งแต่การเลือกประเภทเน็ตที่ใช้ ถ้ามีรหัสผ่านจากผู้ให้บริการ ก็เลือกเชื่อมต่อแบบ PPPoE หรือจะใช้แบบ AP mode ก็เลือกเป็น Dynamic IP ไปก่อนแล้วค่อยเข้าไปเลือก AP Mode ภายหลัง จากนั้นก็ตั้งชื่อ SSID และรหัสผ่านใหม่ ยืนยันความถูกต้องจนเสร็จสิ้นแล้วสามารถเริ่มการใช้งานได้ทันที
2. การตั้งค่าแบบผู้ที่เชี่ยวชาญหรือพอมีความรู้ด้าน IT เข้าทาง Browser 192.168.0.1 ใช้ login = admin รหัสผ่าน คือ password จากนั้นก็ตั้งค่าตามต้องการได้ทุกฟังก์ชั่น
ข้อสังเกตุ หากต้องการเปิดใช้งาน HE160 หรือ Bandwidth 160 MHz ให้เข้าไปตั้งค่าทาง 192.168.0.1 เท่านั้น เพราะไม่สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าผ่านทาง App ได้ โดย HE160 จะอยู่ที่ช่อง 36-48 แนะนำให้ใช้ช่อง 36 เพื่อไม่ต้องหลบเรด้าร์ในช่อง DFS แบบช่อง 52-64 และ 100-128
และในส่วนของฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็สามารถตั้งค่าตามต้องการได้เลยตามภาพที่รวบรวมอันที่ใช้งานประจำมาฝากกัน อย่างแรกก็คือภาพรวมหรือ Dashboard ที่เราสามารถดูได้ทุกอย่างตั้งแต่คลื่นที่เปิดใช้งานอยู่ สถานะของ RAM / CPU ว่าทำงานไปมากน้อยโหลดหนักแค่ไหน รวมถึงการเปิดปิด Wi-Fi ได้อย่างง่ายในคลื่นที่ไม่ค่อยได้ใช้งานอย่าง 2.4 GHz
และหากต้องการดูว่าปัจจุบันมีอุปกรณ์ใดมาเชื่อมต่อทางไวไฟและ LinkSpeed เท่าไรบ้างก็สามารถกดดูได้ที่ Network Map ในส่วนของ Clients นี้ได้เลย
นอกจากนี้หากใครต้องการเชื่อมต่อ Mesh Wi-Fi ของ TP-Link ก็สามารถเข้ามาเปิดใช้งาน One Mesh และทำการจับคู่อุปกรณ์ได้ที่เมนู OneMesh นี้ได้เลย
สำหรับระบบความปลอดภัยที่เป็นจุดเด่นของ AX53 มีมาให้ในรูปแบบ HomeShield โดยสามารถเลือกเปิดใช้งานทั้งหมดภายใต้หัวข้อ HomeShield และสามารถอัพเกรด หรือ ซื้อเพิ่มในระดับ Professional ได้ด้วย
และถ้าเน็ตบ้านที่เราใช้งานนั้นรองรับ Public IPV6 เราสามารถเข้าไปเปิดใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้เพราะโดยปกติแล้วค่าเริ่มต้นหรือ default จะถูกปิดมา
สำหรับบ้านที่มีการใช้งาน Wi Fi หลายอุปกรณ์พร้อมกัน เป็นต้นว่า streaming อยู่ตลอดเวลา แนะนำให้เปิด Airtime Fairness เพื่อจะได้กระจายสัญญาณให้ใช้งานพร้อมกันได้สะดวกขึ้นไม่ต้องหยุดรอในทุกสภาวะการเชื่อมต่อไม่ว่าคุณภาพสัญญาณจะดีหรือแย่ก็ตาม
และที่สำคัญเพื่อป้องกันโจร ขโมยและเหล่า Hacker แนะนำให้เปิดใช้ firewall หรือกำแพงไฟ ไว้ตลอดเวลา บางอุปกรณ์ต้องการ DMZ อย่างการโหลดบิต สามารถตั้งให้ IP ที่ต้องการเปิด port DMZ ไว้ได้
หากไฟสถานะหน้าเครื่องทำให้แยงตาหรือรบกวนการนอนในเวลากลางคืน เราสามารถเข้ามาตั้งเวลาเปิด ปิด หรือจะปิดไฟสถานะอย่างถาวรไปเลยก็ได้ในหัวข้อ LED Control
สิ่งสำคัญของ Router Wi-Fi 6 ที่สเปคไม่ได้สูงมาก แนะนำให้ควรตั้งค่า restart เพื่อให้เครื่องได้เริ่มทำงานใหม่เองในทุก ๆ วัน ป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างวันและเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้พร้อมใช้งานเสมอ
การอัพเดทเฟิมแวร์ก็สำคัญ AX53 สามารถตั้งค่าให้รับ OTA PUSH หรือทำอัพเดทอัติโนมัติเองได้โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เปิด on funtions Auto Update ไว้ตลอดเวลาเท่านั้น
ทดสอบประสิทธิภาพ AX53
แน่นอนว่า AX53 มีจุดเด่นที่การส่งสัญญาณ Wi-Fi 6 ที่ Bandwidth กว้างกว่า router /AP แบบเก่าๆ ถึง 2 เท่าที่เรียกว่า HE160 เราจึงต้องนำอุปกรณ์ที่รองรับมาทดสอบว่าสามารถทำความเร็วได้ตามมาตราฐาน HE160 แบบ 2x2MIMO จาก LinkSpeed 2401-2402 Mbps ได้แค่ไหน
ในการนี้เรานำ SmartPhone ที่มี CHIPSET Snapdragon 8 Gen 1 จำนวน 3 รุ่นมาทดสอบ ได้แก่ Samsung Galaxy S22 Ultra , Motolora edge X30 และ Xiaomi 12 Pro ทุกตัวนั้นรองรับ Wi-Fi 6 HE160 ได้ โดยเราได้ Connection ที่ครบตามสเปค คือ 2401Mbps
ทดสอบด้วยเน็ตบ้าน AIS Fibre 1000/500 ใน Router Mode ของ AX53 เราได้ความเร็วสูงสุดของไวไฟทั้ง 3 เครื่องเทียบเท่าการต่อด้วยสายแลนคือ Download 943Mbps ขึ้นไป Upload เกือบแตะ 600Mbps
ในส่วนของอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ HE160 อย่าง iPad iPhone Macbook หรือ Apple Devices ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อสูงสุด HE80 ที่ LinkSpeed 1201Mbps เราได้นำ iPhone 13 Pro Max มาทดสอบ ได้ความเร็วระดับ 700-800 Mbps ซึ่งถือเป็นความเร็วเฉลี่ยค่อนไปทางสูงพอสมควร
บทสรุป
ในปี 2022 ใครจะคิดว่า Router ที่อัดฟีเจอร์แบบรุ่นท้อปเมื่อ 2-3 ปีก่อนจะทำราคาที่น่าคบหา 2490.- แบบที่ “TP-Link” เปิดราคารุ่นเล็กดี รสโต AX53 ซึ่งรองรับเน็ตบ้านระดับ Gigabit ให้ใช้งานได้เต็มแพ็กเกจกับอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ ใช้งานคู่กันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังใส่ระบบ OneMesh มาให้ขยายความครอบคลุมทั่วบ้านด้วยงบประมาณที่ใคร ๆ ก็เป็นเจ้าของได้ ก็นับเป็นนิมิตรหมายใหม่ในวงการโทรคมที่สนับสนุนให้คนไทยได้มีโอกาสเข้าถึงและจับต้องเทคโนโลยีใหม่ๆได้ง่ายขึ้นครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ https://www.tp-link.com/th/home-networking/wifi-router/archer-ax53/
สนใจสั่งซื้อทาง Shopee : https://invol.co/clah61y
สนใจสั่งซื้อทาง Lazada : https://invol.co/clah64b