เชียงใหม่ ดินแดนปราบเซียนที่ใครหลายคนต่างก็เคยได้ยินเสียงร่ำลือในกิตติศัพท์นี้ เพราะร้านค้าเปิดใหม่จะขายดีในช่วงแรก แต่ถ้าธุรกิจไม่รู้จักปรับตัว หลายปีผ่านไปรับรองว่าต้องม้วนเสื่อกลับบ้านกันอย่างแน่นอน แล้วเพราะอะไรถึงทำให้ ขนมจีนเส้นสดน้ำยาปู เดินทางมาเข้าสู่ปีที่ห้าได้อย่างภาคภูมิ ขยาย 4 สาขาในเชียงใหม่ จากร้านขนมจีนธรรมดาๆ จนจัดตั้งเป็นบริษัท ขนมจีนน้ำยาปู เชียงใหม่ จำกัด และเตรียมเปิดสาขาอีกหนึ่งแห่งเร็วๆ นี้ ไปฟังเคล็ดลับความสำเร็จกัน

คุณแม็กผันตัวจากงานประจำ มาเป็นพ่อค้าขนมจีนน้ำยา เพราะเห็นช่องทางการ “สร้างความต่างและจุดขายเส้นสดแบบพรีเมียม” นำสูตรขนมจีนจากคุณป้ามาปรับการตลาดใหม่ให้ดูพรีเมียมขึ้น ด้วยการทำเส้นสดด้วยสีจากสมุนไพรและตกแต่งให้ดูเก๋ด้วยการม้วนเส้นเป็นก้อนกลมแบบพอคำ นอกจากนี้ยังซุ่มทำโรงงานผลิตเส้นขนมจีน และขยายพัฒนาผลิตภัณฑ์ “ขนมจีนกึ่งสำเร็จรูป” จนสามารถฝ่าฟันวิกฤติโควิดได้กลายมาเป็นร้านขนมจีนอันดับหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ และด้วยประสบการณ์ทำงานด้านการวิจัยตลาดที่เคยทำงานกับองค์กรระดับประเทศ ทำให้เขามีความสนใจเรื่อง “ข้อมูลและวิจัยตลาด” มีการประชุมวิเคราะห์ Five force model, Canvas model, SWOT  (Strength Weakness Opportunity Threat)  ศึกษาความต้องการของลูกค้า พฤติกรรมการสั่งอาหาร ความถี่ในการสั่งแล้วนำไปต่อยอดทั้งการออกเมนูใหม่ และการเลือกทำเลเปิดสาขาใหม่ที่อยู่ในระยะส่งที่เหมาะสม

วิจัยข้อมูลหัวใจการทำธุรกิจ

คุณแม็กเล่าว่า ร้านขายขนมจีนก่อนโควิดนั้น  ลูกค้าหลักกว่า 80% เป็นคนท้องถิ่น และที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยว เมื่อเกิดโควิด นักท่องเที่ยวหายไปทั้งหมด ทำให้กระทบกับธุรกิจที่ทำอยู่แต่ก็ไม่มากเนื่องจากไม่พึ่งลูกค้ากลุ่มเดียว แต่ต้องหันมาเน้นขยายฐานลูกค้าในพื้นที่  ปรับช่องทางการสื่อสาร ทั้งออนไลน์และโทรศัพท์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้มากที่สุด เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงตลอด  จากเดิมก่อนโควิด นั่งทานในร้าน 70%  หลังโควิดการสั่งกลับบ้านและนั่งทานในร้านในสัดส่วนเท่ากันแล้ว   และโชดดีที่ขนมจีนเป็นอาหารที่สะดวกทานง่ายเหมาะการสั่งกลับบ้านได้

นอกจากนี้คุณแม็กยังได้วิเคราะห์มาร์เก็ตเทรนด์ของเชียงใหม่ว่าจะมีแนวโน้มแบบไหนในแต่ละช่วงเวลา ช่วงนี้คนไม่ออกจากบ้าน เพราะเชียงใหม่โควิดระบาดเยอะ จึงเริ่มมอนิเตอร์สถานการณ์ทุกวัน ถ้าวันไหนตัวเลขผู้ติดเชื้อสูง แสดงว่าวันนั้นจะขายดี คนเชียงใหม่ค่อนข้าง traditional รักความเรียบง่าย เค้าจึงชอบโทรสั่งทีเดียว มากกว่าการติดต่อผ่านแชท เพื่อรอพนักงานตอบหรือสั่งผ่านแอพซึ่งมันดูยุ่งยาก

เอาใจลูกค้า มาใส่ใจเรา

ร้านอาหาร นอกจากจะต้องมีเมนูเด็ดที่มัดใจลูกค้าแล้ว การบริการที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน “ผมจะดูโปรไฟล์ลูกค้าเลยว่าคนไหนชอบเมนูอะไร สั่งบ่อยแค่ไหน หนึ่งอาทิตย์สั่งกี่ครั้ง มีบางคนเค้าโทรสั่งกินทุกวัน ก็ถามลูกค้าถึงเหตุผลว่าทำไมถึงสั่งทุกวัน ส่วนใหญ่ก็จะติดใจในรสชาติและความหลากหลายของเมนู เพราะนอกจากขนมจีนน้ำยาปูแล้ว ก็ยังมีน้ำยาป่า น้ำยากะทิ แกงเขียวหวานไก่ น้ำเงี้ยว รวมถึงส้มตำ และของหวานด้วย สุดท้ายดูเหมือนว่าสถานการณ์น่าจะไปได้ดี แต่ก็กลับมาตกม้าตายเพราะปัญหาเรื่องลูกค้าโทรมาสั่งแล้วพนักงานรับสายไม่ทัน หรือสายไม่ว่างเพราะคิวแน่นมาก ทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปสั่งเจ้าอื่นแทน จึงคิดว่า ถ้ามีโซลูชันที่มีระบบตอบรับอัตโนมัติได้เวลาลูกค้าโทรมาสั่งอาหารได้ น่าจะเป็นอะไรที่รับมือได้ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ในช่วงนี้รวมถึงการใช้เบอร์กลางที่จำง่าย เบอร์เดียว ได้ทุกสาขา แลดูเป็นมืออาชีพ และการใช้ โทรศัพท์ประจำที่ พนักงานต้องอยู่ประจำที่ ไม่ยืดหยุ่น และเสียลูกค้าหากคู่สายเต็ม เมื่อปรับมาใช้ dtac OneCall เราโปรโมทร้านที่มีหลายๆสาขาผ่านเบอร์เดียว จดจำง่าย และมีเมนูโอนสายไปมือถือของพนักงานที่ยังว่างได้  และฝากข้อความ ทั้งยังต่อยอดการใช้งาน ทำระบบCRM : customer royalty management จดจำลูกค้าโทรเข้า และส่งข้อความโปรโมชั่นออกไปสื่อสารกับลูกค้า” คุณแม็กกล่าว

เปิดใจเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ช่วยสร้างความเป็นมืออาชีพให้รับสายลูกค้าได้รวดเร็ว

ผสานวัฒนธรรมเก่ากับเทคโนโลยีใหม่อย่างลงตัว ด้วยบริการ dtac OneCall จากดีแทค บิสิเนส ซึ่งเข้ามาตอบโจทย์ในข้อนี้ให้กับเอสเอ็มอีทั้งหลายที่ประสบปัญหา เมื่อคนไม่อยากออกนอกบ้านเพราะสถานการณ์โควิด และวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ของคนเชียงใหม่ที่ไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยาก จึงไม่ค่อยถูกจริตกับการสั่งอาหารแบบอินบ็อกซ์ แต่ยังคงนิยมออเดอร์เมนูแบบการโทรศัพท์ ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบคุยผ่านมือถือ dtac OneCall ช่วยจัดระเบียบเรื่องวุ่นวายให้ง่ายแบบพลิกฝ่ามือ ด้วยการดูแลลูกค้าที่มีธุรกิจขนาดเล็กอย่างมืออาชีพ ด้วยโซลูชันที่นำเอาเทคโนโลยีมาช่วยการบริหารจัดการสายของลูกค้าที่โทรเข้าเบอร์กลาง ให้รับได้อย่างรวดเร็วผ่านมือถือ ซึ่งช่วยให้คล่องตัวในการทำงาน มีระบบตอบรับอัตโนมัติเพิ่มความเป็นมืออาชีพ และประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องลงทุนตู้สาขา PBX ซึ่งเป็นการทำงานในยุควิถีใหม่

เพราะดีแทค บิสิเนส ต้องการเข้าใจและเข้าถึงลูกค้าแต่ละรายแบบใกล้ชิดและลึกซึ้ง ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาแบบไหน หรืออยากจะเรียกดูข้อมูลการใช้งาน เพิ่ม เปลี่ยนแพ็กเกจหรืออยากจะชำระค่าบริการต่างๆ ด้วยตนเองก็สามารถทำได้ตามต้องการ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดด้วยบริการหลังการขาย ด้วยการสอบถามความต้องการ และปัญหาของลูกค้าเพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาระบบให้ดีพร้อมและถูกใจยิ่งๆ ขึ้นไป

เรียนรู้ พัฒนา และเติบโตไปกับเรา ดูข้อมูลและสมัครบริการ dtac OneCall ได้ที่ dtac business call center 1431 หรือ

คลิก : https://business.dtac.co.th/th/products/onecall

Comments

comments