นายณพัชร อัมพุช กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์ เอชเอ็ม จำกัด กล่าวว่า ในปี 2565 ในไตรมาสแรกที่ผ่านมามีผลการดำเนินการเติบโต 100 เปอร์เซนต์ตามเป้าหมาย เน้นการทำตลาดในทุกอุตสาหกรรม เนื่องจากองค์กรรัฐ และเอกชนได้ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงให้เท่าทันต่อเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น และได้ปรับตัวใช้คลาวด์ เพื่อให้เกิดมูลค่าสูงสุดกับองค์กร
โดยล่าสุด คลาวด์ เอชเอ็ม ผู้นำให้บริการคลาวด์ในไทย จากกลุ่มเบญจจินดา ร่วมมือกับ วีเอ็มแวร์ ผู้นำเทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชั่นระดับสากล ให้บริการคลาวด์ เนทีฟ VMware Tanzu ในรูปแบบ “Tanzu as a Service” โดยเป็นซอฟต์แวร์ที่จะทำงานบนแพลตฟอร์ม ของคลาวด์ เอชเอ็ม เพื่อให้บริการองค์กรในรูปแบบ โลคัล คลาวด์ ตามความต้องการใช้งาน รองรับการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในปัจจุบันไปสู่อนาคต
“คลาวด์ เอชเอ็ม จะเป็นผู้ให้บริการและแนะนำลูกค้าองค์กร ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงไปสู่เทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยไม่เกิดความยุ่งยาก หรือสะดุดระหว่างที่มีการเปลี่ยนแปลงยกระดับระบบของลูกค้า ซึ่งคลาวด์เนทีฟ เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การบริหารและใช้งานทรัพยากรทางด้าน IT ให้เหมาะสมกับธุรกิจและระบบขององค์กรได้เป็นอย่างดี”
สำหรับสถานการณ์ในช่วงการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีการพัฒนาแอปพลิเคชัน จำเป็นต้องมีความปลอดภัย, ยืดยุ่น และง่ายต่อการปรับแต่งมากยิ่งขึ้น บางองค์กรจึงเลือกที่จะย้ายขึ้นมาใช้งานบนคลาวด์แทนระบบเดิม (Lift and Shift) หรือบางองค์กรเลือกที่จะใช้งาน Software as a Service แทน (Replatforming) แต่หากกลุ่มองค์กรหลายแห่งที่มีแอปพลิเคชันเป็นโครงสร้างแบบเดิม (Monolithic Architecture) ต้องการปรับเปลี่ยนให้เป็นแอปพลิเคชันที่มีโครงสร้างสมัยใหม่ (MicroserviceArchitecture) จำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างทั้งระบบ (Refactoring) และได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในตลาดคลาวด์
ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงของโลคัล คลาวด์ สอดคล้องกับการ์ทเนอร์ที่ได้เผยถึงเทรนด์เทคโนโลยีมาแรงแห่งปี 2565 ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีความสำคัญแห่งโลกอนาคตคือ “คลาวด์ เนทีฟ” (Cloud-Native) โดยการ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าภายในปี 2568 คลาวด์ เนทีฟจะเป็นเทคโนโลยีหลักที่เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างนวัตกรรม, เครื่องมือดิจิทัล และแอปพลิเคชั่นสมัยใหม่ มากถึง 95% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่น้อยกว่า 40% ในปี 2564
นายเอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท วีเอ็มแวร์ ไทยแลนด์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริการเกี่ยวกับคลาวด์หรือการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่บนคลาวด์กลายเป็นส่วนสำคัญของทุกภาคธุรกิจ ไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชนก็ต่างนำข้อดีของบริการที่มีอยู่บนคลาวด์ อย่าง SaaS, PaaS และ IaaS เข้ามาใช้งานใน Workflow ขององค์กร ยกตัวเช่นในกรณีที่ต้องการพัฒนาระบบขึ้นมาใหม่เองก็สามารถใช้บริการ Container as a Service (Tanzu as a Service) ของ VMware ซึ่งอยู่ในรูปแบบ IaaS ที่ Cloud HMพร้อมให้บริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ
บริการ Tanzu as a Service รองรับแอปพลิเคชันรูปแบบคลาวด์ เนทีฟอย่างแท้จริง โดยคลาวด์ เอชเอ็ม มีจุดแข็งที่สำคัญ คือเป็นผู้เชี่ยวชาญระบบวีเอ็มแวร์มาอย่างยาวนานและเข้าใจถึงความต้องการหลังการขายของลูกค้าระดับองค์กรมาตลอด ทั้งนี้เมื่อองค์กรมีความต้องการใช้งาน Kubernetes (K8S) หรือ Container Orchestration ซึ่งช่วยให้เราสามารถติดตั้ง จัดสรรทรัพยากร หรือ เพิ่มลดทรัพยากรแบบอัตโนมัติ และช่วยให้ แอปพลิเคชัน ที่ทำงานอยู่บนคอนเทนเนอร์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบที่พร้อมใช้งานตลอดเวลาสามารถนำบริการตัวนี้เข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและสามารถให้บริการทั้งก่อนการขายและหลังการขายโดยคนไทยช่วยตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรไทยได้เป็นอย่างดี