Acer ประกาศเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ SpatialLabs™ เพิ่มเติมสองรายการ ได้แก่ Acer SpatialLabs View สำหรับความบันเทิงส่วนบุคคล และ Acer SpatialLabs View Pro สำหรับการใช้งานในเชิงพาณิชย์ โดยทั้งสองรุ่นเป็นจอมอนิเตอร์ 4K ขนาด 15.6” แบบสแตนด์อโลนที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับพีซีเครื่องอื่นได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง SpatialLabs แบบพกพาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างเต็มที่ซึ่งไม่ได้มีไว้สำหรับนักออกแบบมืออาชีพที่มีความชำนาญสูงเพียงเท่านั้น อุปกรณ์ในรุ่นนี้ยังนำเอาเทคโนโลยีการแสดงภาพแบบ 3D แบบไม่ต้องใช้แว่นตา มาใช้กับเกมเมอร์และผู้ที่ชื่นชอบความบันเทิงภายในบ้านอีกด้วย

นักออกแบบและเกมเมอร์จะต้องประทับใจในการออกแบบที่มีน้ำหนักเบาของซีรีส์นี้ (ด้วยน้ำหนักน้อยกว่า 1.5 กก. / 3.3 ปอนด์) ทำให้ง่ายต่อการพกพาในการนำไปต่อกับ LAN อื่นหรือใช้ในการนำไปทำการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะนักออกแบบสามารถใช้ขอบเขตของสีบน Adobe RGB ในการออกแบบครอบคลุม 100% ส่วนเกมเมอร์จะต้องชื่นชอบในความสว่าง 400 นิตของอุปกรณ์นี้เช่นกัน

While the Acer SpatialLabs View comes with an all-new stereoscopic 3D gaming platform, the Acer SpatialLabs View Pro comes with both the technology necessary to realize a user’s creations and also an intelligent industrial design that simplifies deployment — a combination that leads to more impactful storytelling opportunities.

ในขณะที่ Acer SpatialLabs View มาพร้อมกับแพลตฟอร์มเกมส์แบบ stereoscopic 3D รูปแบบใหม่ทั้งหมด ส่วน Acer SpatialLabs View Pro ก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่จำเป็นในการสร้างสรรค์ผลงานพร้อมด้วยการออกแบบทางอุตสาหกรรม อันชาญฉลาดที่ไม่มีความซับซ้อนสามารถปรับใช้งานได้อย่างง่ายดาย ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและโอกาสในอนาคต

SpatialLabs TrueGame — Stereoscopic 3D Gameplay ในคลิกเดียว

SpatialLabs TrueGame เป็นแอปพลิเคชันใหม่ที่จะนำ Stereoscopic 3D มาสู่โลกแห่งเกมมิ่ง ให้ผู้เล่นได้เพลิดเพลินกับเกมส์โปรดของพวกเขาด้วยความสนุกสนานที่แท้จริง สิ่งต่างๆเกิดขึ้นได้เนื่องจากเกมส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงรูปแบบสามมิติ: นักพัฒนาได้รวมข้อมูลเกี่ยวกับความมีมิติในแต่ละฉากและวัตถุต่างๆที่พวกเขาสร้างขึ้น SpatialLabs ใช้ประโยชน์จากข้อมูลต่างๆที่มีอยู่แล้วนี้เพื่อนำเสนอเกมส์ในรูปแบบ stereoscopic 3D โปรไฟล์ 3D ที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้าโดยเฉพาะนี้ จะพร้อมใช้งานสำหรับเกมส์ใหม่และคลาสสิกเกมส์ต่างๆมากกว่า 50 เกมส์ในการเปิดตัว เพื่อให้เกมเมอร์ได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ราบรื่นกับเกมส์โปรด พร้อมกับทำการเพิ่มโปรไฟล์ สำหรับเกมส์ใหม่ๆในอนาคตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มเติมประสบการณ์ให้ดียิ่งขึ้น

แม้ว่าโปรไฟล์เหล่านี้จะต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากและต้องใช้ความสามารถระดับสูงในการเพิ่มประสิทธิภาพของแต่ละโปรไฟล์ แต่ตัวแพลตฟอร์มเองก็เป็นมิตรกับผู้ใช้ได้อย่างมหัศจรรย์ หลังจากได้ทำการเปิดตัวแอปพลิเคชั่น TrueGame ผู้ใช้งานเพียงแค่เลือกรายชื่อที่ต้องการเล่นแล้วกด “เล่น” แอปพลิเคชันจะจัดการส่วนที่เหลือ โดยทำการเปิดไฟล์เกมส์ที่จำเป็นบนระบบของผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ และเปิดใช้งานโปรไฟล์ TrueGame 3D ที่ทำการเชื่อมโยงเพื่อเริ่มเกมส์ใน Stereoscopic 3D

และนี่เป็นวิธีการเล่นรูปแบบใหม่ที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง มอบประสบการณ์ที่แตกต่าง ที่ไม่เหมือนกับที่ผู้เล่นเคยสัมผัสมาก่อน ห้องจะดูกว้างขวางขึ้น วัตถุดูมีมิติ และการผจญภัยก็น่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น—ทุกอย่างราบรื่นในแบบเรียลไทม์โดยไม่จำเป็นต้องใช้แว่นตาพิเศษ

และเมื่อไม่ได้เล่นเกมส์ ก็ยังสามารถใช้เป็นจอภาพ 4K แบบมาตรฐานได้อีกด้วย

SpatialLabs Go — แปลงเนื้อหาแบบ 2D ให้เป็นเนื้อหาแบบ Stereoscopic 3D

โซลูชันที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Acer SpatialLabs Go นำเสนอเทคโนโลยี AI ที่ทำให้สามารถสร้างเนื้อหาแบบ stereoscopic 3D จากแทบทุกสิ่งที่สามารถแสดงผลแบบเต็มหน้าจอได้เพียงแค่การกดปุ่ม ภาพถ่ายที่โผล่ออกมาจากหน้าจอ เกมส์ธรรมดาบนเว็บไซด์จะมีความน่าตื่นเต้นขึ้นอีก และดื่มด่ำกับการรับชมวิดีโอ (ออนไลน์หรือออฟไลน์) ไปอีกระดับในแบบเรียลไทม์ และที่สำคัญที่สุดคือ คุณสามารถสร้างเนื้อหาของคุณเองได้ โดยการถ่ายภาพหรือวิดีโอด้วยอุปกรณ์ของคุณ และเมื่อนำเข้าเนื้อหาไปยังระบบแล้ว คุณจะสามารถใช้ SpatialLabs Go เพื่อสร้างภาพสามมิติแบบ stereo 3D ได้อีกด้วย

SpatialLabs Model Viewer — วิธีที่ง่ายกว่าในการสร้าง 3D

Acer SpatialLabs View Pro ทำให้การทำงานของนักออกแบบง่ายยิ่งขึ้น ด้วยแนวแนวทางการสนับสนุนแบบนอกกรอบทำให้สามารถรองรับโครงสร้างของไฟล์หลักรูปแบบต่างๆ[1] รวมถึงได้เพิ่มการสนับสนุนรูปแบบใหม่สำหรับ Datasmith ที่จะช่วยให้นักออกแบบสามารถใช้ซอฟท์แวร์ในการออกแบบสามมิติ เช่น Revit, Solidworks และ Cinema 4D ด้วยการติดตั้ง Datasmith export plugin และเมื่อโปรเจคพร้อมที่จะนำเสนอ ก็สามารถนำเข้ามายัง SpatialLabs Model Viewer ได้ทันที ในการรวมกันของ Sketchfab จะช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานโดยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเนื้อหาไลบรารีออนไลน์ขนาดใหญ่ของ 3D assets ได้เป็นพิเศษโดยไม่มีค่าใช้จ่ายช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างโปรเจคของตน และความแม่นยำของสีเป็นหัวใจสำคัญสำหรับงานออกแบบ จอแสดงผลแบบ 4K ขนาด 15.6 นิ้วของ View Pro จึงครอบคลุมขอบเขตสีของ Adobe RGB ได้ 100%

SpatialLabs View Pro ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับสร้างเนื้อหาแบบสามมิติเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับนักพัฒนาด้วยวิธีการที่หลากหลายในการแบ่งปันและแสดงผลงานการสร้างสรรค์เหล่านี้:

สามารถโหลดเนื้อหาเพื่อทำการแบ่งปันได้อย่างรวดเร็ว: ไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นต่างๆจากเพื่อนร่วมงานในสำนักงาน หรือเพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพสินค้าที่พวกเขาสนใจได้อย่างสมจริง
เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายหรือการตลาดจะต้องชอบใจกับดีไซน์ที่บางเฉียบและพกพาสะดวกของ Acer SpatialLabs View Pro: ด้วยน้ำหนักน้อยกว่า 1.5 กก. (3.3 ปอนด์) ทำให้สามารถพกพาได้สะดวก และมาพร้อมขาตั้งแบบพับได้ทำให้สามารถติดตั้งร้านค้าแบบเสมือนได้ทุกที่
ตัวยึดแบบ VESA ทำให้การติดตั้ง Acer SpatialLabs View Pro กับคีออสก์และจอแสดงผล ณ จุดขายสำหรับการติดตั้งแบบถาวร เป็นไปได้อย่างง่ายดาย และด้วยการจดจำท่าทางด้วยมือแบบ Ultraleap ช่วยให้ลูกค้าเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ในการโต้ตอบแบบอินเตอร์แอคทีฟได้มากยิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับอุปกรณ์ SpatialLabs รุ่นก่อน Acer SpatialLabs View Pro มีส่วนเสริมเพิ่มเติมที่หลากหลายเพื่อช่วยปรับปรุงขั้นตอนในการทำงานของผู้ผลิต 3D โดยสามารถผลิตได้จากซอฟแวร์ 3D ต่างๆ และเปิดใช้งานใน SpatialLabs Model Viewer ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ ผู้ใช้งาน Maya และ Blender สามารถเชื่อมต่อและแก้ไขเนื้อหาบนหน้าจอแบบ 2D ในขณะที่ระบบจะตรวจสอบ เปลี่ยนแปลงและทำการแสดงผลแบบ stereoscopic 3D บน Acer SpatialLabs View Pro ได้พร้อมกันแบบเรียลไทม์

More information about these technologies and the list of supported game titles are available here.

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านี้ พร้อมทั้งรายชื่อเกมส์ที่รองรับอยู่ในขณะนี้ ได้ ที่นี่


รายละเอียดการจัดจำหน่าย

Acer SpatialLabs View (ASV15-1B) จะวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือและ EMEA ในช่วงฤดูร้อนนี้

ข้อมูลจำเพาะ ราคา และความพร้อมในการจัดจำหน่ายสินค้าจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความพร้อมในการจำหน่ายสินค้า ข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ และราคาในการจัดจำหน่าย โปรดติดต่อสำนักงาน Acer ที่ใกล้ที่สุดผ่านทาง www.acer.com

จุดพลุสวยงามสำหรับ Acer Next May 2022 งานเปิดตัวสินค้าใหม่ช่วงไตรมาส 2 ของเอเซอร์ (Acer) รอบนี้เอเซอร์ประกาศขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษ์โลก “วีโร่” (Vero) เพื่อความยั่งยืน พร้อมกับการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและวางตักหลากรุ่นที่ทำให้เทคโนโลยีจอโอแอลอีดี (OLED) กลายเป็นเมนสตรีมเต็มตัว ทั้งในตระกูล Acer Swift 3 และจอแสดงผล OLED สำหรับไลน์ผลิตภัณฑ์ ConceptD 5 ที่น่าทึ่งที่สุดคือการเพิ่มความสามารถของจอแสดงผล 3 มิติ Stereoscopic 3D ด้วยจอแสดงภาพ SpatialLabs View Series เป็นการนำเทคโนโลยี 3D ของ SpatialLabs มาสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์เกมอย่าง Predator ได้อย่างน่าสนใจ

สินค้าใหม่ที่ถูกประกาศในงาน Acer Next ปีนี้ถูกมองว่าส่วนใหญ่เป็นการรีเฟรช เพื่อให้ผู้ใช้เห็นการอัปเดตสำหรับรุ่นที่จำหน่ายอยู่ในขณะนี้ เช่น แล็ปท็อปเกม Spin 5, Swift 3 และ Predator ซึ่งปรับให้ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ขึ้นและปรับแต่งการออกแบบบางอย่าง อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวที่โดดเด่นคือการขยายเทคโนโลยี SpatialLabs เพื่อนำภาพ 3D แบบไม่ต้องใช้แว่นตา มาประยุกต์ใช้ในวงการเกม โดยนำเสนอผ่านจอแสดงผล 4K ขนาด 15 นิ้ว ซึ่งเป็นจอภาพแบบสแตนด์อโลนและมีอยู่ในแล็ปท็อปสำหรับคอเกมอย่าง Predator Helios 300

เอเซอร์ระบุว่า SpatialLabs ไม่เพียงเหมาะกับเกมเมอร์ แต่เหมาะกับนักออกแบบ ซึ่งจะได้ประโยชน์จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ stereoscopic 3D ที่มาพร้อมกับจอแสดงผลพกพาแบบสแตนด์อโลนคู่ใหม่ โดย Acer SpatialLabs View จะช่วยลดช่องว่างแบบมืออาชีพ พร้อมนำ stereoscopic 3D ไปสู่เกมส์บน PC มีเดียคอนเทนต์ รวมถึงเนื้อหาต่างๆที่ผู้ใช้งานสร้างขึ้นเอง ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่า Acer SpatialLabs View Pro ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับทุกขั้นตอนการทำงานเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่การเริ่มสร้างสรรค์ผลงานภายในองค์กร ไปจนถึงการติดตั้งแบบถาวรเพื่อการนำเสนอผลงานในสถานที่ต่างๆ จุดนี้มีการเปิดตัว SpatialLabs TrueGame ในฐานะแอปพลิเคชันใหม่สำหรับเกมเมอร์ เพื่อรับประสบการณที่มากยิ่งขึ้นด้วยการสร้างมุมมองรูปแบบใหม่ในรูปแบบ 3 มิติ

ในงานนี้ เอเซอร์ประกาศเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ SpatialLabs เพิ่มเติม 2 รายการ ได้แก่ Acer SpatialLabs View สำหรับความบันเทิงส่วนบุคคล และ Acer SpatialLabs View Pro สำหรับการใช้งานในเชิงพาณิชย์ โดยทั้งสองรุ่นเป็นจอมอนิเตอร์ 4K ขนาด 15.6 นิ้ว แบบสแตนด์อโลนที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับพีซีเครื่องอื่นได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง SpatialLabs แบบพกพาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างเต็มที่ซึ่งไม่ได้มีไว้สำหรับนักออกแบบมืออาชีพที่มีความชำนาญสูงเพียงเท่านั้น อุปกรณ์ในรุ่นนี้ยังนำเอาเทคโนโลยีการแสดงภาพแบบ 3D แบบไม่ต้องใช้แว่นตา มาใช้กับเกมเมอร์และผู้ที่ชื่นชอบความบันเทิงภายในบ้านอีกด้วย

เอเซอร์เชื่อว่านักออกแบบและเกมเมอร์จะต้องประทับใจในการออกแบบที่มีน้ำหนักเบาของซีรีส์นี้ น้ำหนักที่น้อยกว่า 1.5 กก. / 3.3 ปอนด์ ทำให้ง่ายต่อการพกพาในการนำไปต่อกับ LAN อื่นหรือใช้ในการนำไปทำการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะนักออกแบบสามารถใช้ขอบเขตของสีบน Adobe RGB ในการออกแบบครอบคลุม 100% ส่วนเกมเมอร์จะต้องชื่นชอบในความสว่าง 400 นิตของอุปกรณ์นี้เช่นกัน

SpatialLabs เป็นสินค้าที่ถูกเปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ขณะที่แอปเสริม SpatialLabs Go จะช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถเรนเดอร์ภาพ 3 มิติจากเนื้อหาส่วนใหญ่ที่สามารถแสดงแบบเต็มหน้าจอได้ จุดนี้เอเซอร์กล่าวว่ากว่า 50 เกมจะรองรับการแสดงผลของ Acer SpatialLabs View ซึ่งจะวางจำหน่ายในกลางปีนี้โดยเริ่มที่ 1,099 ดอลลาร์ (ราว 38,058 บาท) แต่ยังไม่เหมาะกับเกมที่เคลื่อนไหวเร็ว เนื่องจากอัตราการรีเฟรช 60Hz และเวลาตอบสนอง 30ms ขณะที่รุ่น SpatialLabs View Pro เวอร์ชันเชิงพาณิชย์จะถูกปรับใช้สำหรับตู้คีออสค์ รวมถึงการใช้งานด้านการขายและการตลาดอื่นๆ

***ขยายไลน์รักษ์โลก

งานปีนี้มีการเปิดตัวสมาชิกใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของเอเซอร์อย่าง Aspire Vero โดยมีโน้ตบุ๊ก 2 รุ่นใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อความยั่งยืน มาพร้อมโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุด 12th  Gen Intel Core จอแสดงผล Full HD ขนาด 14 นิ้วและ 15 นิ้ว มีให้เลือกหลากสีสัน นอกจากนี้ยังมี Veriton Vero เดสก์ท็อปออลอินวันเพื่อธุรกิจ จอแสดงผล Full HD IPS ขนาด 24 นิ้ว พร้อมดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ ให้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 88%

ที่สำคัญคือ Vero Monitors จอมอนิเตอร์ IPS ขนาด 23.8 นิ้ว และ 27 นิ้ว บนดีไซน์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เมาส์และคีย์บอร์ด Vero พร้อมปุ่มแบบ near-silent ลดเสียงรบกวนจากการพิมพ์และการคลิกเมาส์

Vero PD2325W โปรเจคเตอร์ที่ให้ความชัดเจนและแม่นยำ อัตราส่วนคอนทราสต์ที่สูงถึง 2,000,000:1 และขอบเขตสีที่กว้างขวาง 125% Rec. 709

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดใช้พลาสติกรีไซเคิลและบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้

เอเซอร์ระบุว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ในตระกูล Vero ที่มุ่งเน้นการใส่ใจสิ่งแวดล้อมนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเอเซอร์ในการสนับสนุนการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น ด้วยการนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภค องค์กรธุรกิจ และสถาบันต่างๆ ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยโน้ตบุ๊ก Aspire Vero รุ่นใหม่ รวมไปถึงเดสก์ท็อปออลอินวัน (AIO) จอภาพ โปรเจคเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วง ใช้พลาสติกรีไซเคิลที่ผลิตจากพลาสติกที่ผ่านการใช้งานจากผู้บริโภค (Post-Consumer Recycled – PCR) รวมถึงขยะพลาสติกในทะเล (Ocean-bound Plastic – OBP) และบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิล  ในผลิตภัณฑ์พิวเตอร์สามารถถอดแยกชิ้นส่วนได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการซ่อมแซมหรืออัพเกรด และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ โดยไม่มีการลดทอนประสิทธิภาพของอุปกรณ์

ราคาและการวางจำหน่ายโน้ตบุ๊ก Acer Aspire Vero (AV14-51) จะวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน 2565 ราคาเริ่มต้น 749.99 ดอลลาร์ (ราว 25,972 บาท) ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่อื่น นอกจากโน้ตบุ๊ก ยังมีออลอินวัน Acer Veriton Vero (VVZ4694G) ที่จะวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคม ราคาเริ่มต้น 799 ดอลลาร์ (ราว 27,702 บาท) ซึ่งจะทำตลาดร่วมกับ จอมอนิเตอร์, โปรเจคเตอร์, ชุดคีย์บอร์ดและเมาส์ภายใต้แบรนด์ Acer Vero ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้เป็นต้นไป

***ได้เวลา OLED เป้นเมนสตรีมในตลาดโน้ตบุ๊ก

เอเซอร์เปิดตัว Acer Swift 3 OLED โดยบอกว่าเป็นการผนึกพลังขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel Core H-Series ขณะเดียวกันก็โชว์ตัวคอนเวอร์ทิเบิลโน้ตบุ๊ก Acer Spin 5 และ Acer Spin 3 ถือเป็นการเปิดตัวโน๊ตบุ๊กใหม่ในซีรี่ย์ยอดนิยม Swift และ Spin ที่มาคู่กับระบบปฏิบัติการ Windows 11

ในส่วน Acer Swift 3 OLED จะขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง 12th Gen Intel Core H-series และผ่านการรับรองจากแพลตฟอร์ม Intel Evo ขณะที่ Acer Spin 5 เป้นคอนเวอร์ทิเบิลโน้ตบุ๊กที่ผ่านการรับรองจาก Intel Evo หน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600)  อัตราส่วนหน้าจอ 16:10 ดีไซน์สำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์บางเบาแต่ทรงพลังสำหรับงานสร้างสรรค์ ด้าน Acer Spin 3 จะเป้นคอนเวอร์ทิเบิลโน้ตบุ๊ก โน้ตบุ๊ก 2-in-1 Full HD ที่มาพร้อมกับ Acer Active Stylus จัดเก็บได้ในตัว เพื่อการวาดเขียนได้ทุกเวลา

Acer Swift 3 OLED (SF314-71) จะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 899.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 31,166 บาท ขณะที่ Acer Spin 5 (SP514-51N) เริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในเดือนกรกฎาคม ราคาเริ่ม 1,349.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 46,750 บาท) ด้าน Acer Spin 3 (SP314-55/N) จะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในเดือนสิงหาคม ราคาเริ่มต้น 849.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 29,435 บาท)

***Acer เพิ่มประสิทธิภาพใน ConceptD โน้ตบุ๊ก และ เดสก์ท็อป

ด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุด 12th Gen Intel Core และกราฟิการ์ด NVIDIA RTX

พร้อมแนะนำจอแสดงผล OLED สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ ConceptD 5

ประเด็นนำเสนอ

Acer เพิ่มประสิทธิภาพของโน้ตบุ๊ก ConceptD 5 และ ConceptD 5 Pro ด้วยส่วนประกอบประสิทธิภาพสูงใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับจอแสดงภาพ OLED ขนาด 16 นิ้วที่สดใสราวคริสตัล พร้อมกับระบบประมวลผล 12th Gen Intel® Core™ i7 processor และ NVIDIA RTX™ A5500 GPU หรือ NVIDIA® GeForce RTX™ 3070 Ti GPU

ConceptD 500 โมเดลใหม่มาพร้อมกับระบบประมวลผล 12th Gen Intel® Core™ i9 processor และ NVIDIA RTX A4000 GPU และ GeForce RTX 3070 GPU ที่รวมเข้ากับหน่วยความจำ DDR4 3200 Mhz สูงสุดถึง 128 GB พร้อมด้วยพื้นที่จัดเก็บข้อมูล M.2 Gen 4 SSD สูงสุดถึง 4 TB อีกทั้งยังรองรับฮาร์ดดิสก์สูงสุดถึง 4 TB

ConceptD 100 เดสก์ท็อปที่มาพร้อมพลังประมวลผล 12th Gen Intel Core i5 หรือ Core i7 processor และ NVIDIA T400 GPU หรือ T1000 GPU และยังรองรับหน่วยความจำ DDR4 3200 Mhz สูงสุดถึง 128 GB พร้อมทั้งรองรับฮาร์ดดิสก์สูงสุดถึง 2 TB 7200 RPM และรองรับ M.2 PCI-e/Gen 4 SSD สูงสุดถึง 2 TB

จุดพลุสวยงามสำหรับ Acer Next May 2022 งานเปิดตัวสินค้าใหม่ช่วงไตรมาส 2 ของเอเซอร์ (Acer) รอบนี้เอเซอร์ประกาศขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษ์โลก “วีโร่” (Vero) เพื่อความยั่งยืน พร้อมกับการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและวางตักหลากรุ่นที่ทำให้เทคโนโลยีจอโอแอลอีดี (OLED) กลายเป็นเมนสตรีมเต็มตัว ทั้งในตระกูล Acer Swift 3 และจอแสดงผล OLED สำหรับไลน์ผลิตภัณฑ์ ConceptD 5 ที่น่าทึ่งที่สุดคือการเพิ่มความสามารถของจอแสดงผล 3 มิติ Stereoscopic 3D ด้วยจอแสดงภาพ SpatialLabs View Series เป็นการนำเทคโนโลยี 3D ของ SpatialLabs มาสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์เกมอย่าง Predator ได้อย่างน่าสนใจ

สินค้าใหม่ที่ถูกประกาศในงาน Acer Next ปีนี้ถูกมองว่าส่วนใหญ่เป็นการรีเฟรช เพื่อให้ผู้ใช้เห็นการอัปเดตสำหรับรุ่นที่จำหน่ายอยู่ในขณะนี้ เช่น แล็ปท็อปเกม Spin 5, Swift 3 และ Predator ซึ่งปรับให้ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ขึ้นและปรับแต่งการออกแบบบางอย่าง อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวที่โดดเด่นคือการขยายเทคโนโลยี SpatialLabs เพื่อนำภาพ 3D แบบไม่ต้องใช้แว่นตา มาประยุกต์ใช้ในวงการเกม โดยนำเสนอผ่านจอแสดงผล 4K ขนาด 15 นิ้ว ซึ่งเป็นจอภาพแบบสแตนด์อโลนและมีอยู่ในแล็ปท็อปสำหรับคอเกมอย่าง Predator Helios 300

เอเซอร์ระบุว่า SpatialLabs ไม่เพียงเหมาะกับเกมเมอร์ แต่เหมาะกับนักออกแบบ ซึ่งจะได้ประโยชน์จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ stereoscopic 3D ที่มาพร้อมกับจอแสดงผลพกพาแบบสแตนด์อโลนคู่ใหม่ โดย Acer SpatialLabs View จะช่วยลดช่องว่างแบบมืออาชีพ พร้อมนำ stereoscopic 3D ไปสู่เกมส์บน PC มีเดียคอนเทนต์ รวมถึงเนื้อหาต่างๆที่ผู้ใช้งานสร้างขึ้นเอง ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่า Acer SpatialLabs View Pro ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับทุกขั้นตอนการทำงานเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่การเริ่มสร้างสรรค์ผลงานภายในองค์กร ไปจนถึงการติดตั้งแบบถาวรเพื่อการนำเสนอผลงานในสถานที่ต่างๆ จุดนี้มีการเปิดตัว SpatialLabs TrueGame ในฐานะแอปพลิเคชันใหม่สำหรับเกมเมอร์ เพื่อรับประสบการณที่มากยิ่งขึ้นด้วยการสร้างมุมมองรูปแบบใหม่ในรูปแบบ 3 มิติ

ในงานนี้ เอเซอร์ประกาศเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ SpatialLabs เพิ่มเติม 2 รายการ ได้แก่ Acer SpatialLabs View สำหรับความบันเทิงส่วนบุคคล และ Acer SpatialLabs View Pro สำหรับการใช้งานในเชิงพาณิชย์ โดยทั้งสองรุ่นเป็นจอมอนิเตอร์ 4K ขนาด 15.6 นิ้ว แบบสแตนด์อโลนที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับพีซีเครื่องอื่นได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง SpatialLabs แบบพกพาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างเต็มที่ซึ่งไม่ได้มีไว้สำหรับนักออกแบบมืออาชีพที่มีความชำนาญสูงเพียงเท่านั้น อุปกรณ์ในรุ่นนี้ยังนำเอาเทคโนโลยีการแสดงภาพแบบ 3D แบบไม่ต้องใช้แว่นตา มาใช้กับเกมเมอร์และผู้ที่ชื่นชอบความบันเทิงภายในบ้านอีกด้วย

เอเซอร์เชื่อว่านักออกแบบและเกมเมอร์จะต้องประทับใจในการออกแบบที่มีน้ำหนักเบาของซีรีส์นี้ น้ำหนักที่น้อยกว่า 1.5 กก. / 3.3 ปอนด์ ทำให้ง่ายต่อการพกพาในการนำไปต่อกับ LAN อื่นหรือใช้ในการนำไปทำการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะนักออกแบบสามารถใช้ขอบเขตของสีบน Adobe RGB ในการออกแบบครอบคลุม 100% ส่วนเกมเมอร์จะต้องชื่นชอบในความสว่าง 400 นิตของอุปกรณ์นี้เช่นกัน

SpatialLabs เป็นสินค้าที่ถูกเปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ขณะที่แอปเสริม SpatialLabs Go จะช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถเรนเดอร์ภาพ 3 มิติจากเนื้อหาส่วนใหญ่ที่สามารถแสดงแบบเต็มหน้าจอได้ จุดนี้เอเซอร์กล่าวว่ากว่า 50 เกมจะรองรับการแสดงผลของ Acer SpatialLabs View ซึ่งจะวางจำหน่ายในกลางปีนี้โดยเริ่มที่ 1,099 ดอลลาร์ (ราว 38,058 บาท) แต่ยังไม่เหมาะกับเกมที่เคลื่อนไหวเร็ว เนื่องจากอัตราการรีเฟรช 60Hz และเวลาตอบสนอง 30ms ขณะที่รุ่น SpatialLabs View Pro เวอร์ชันเชิงพาณิชย์จะถูกปรับใช้สำหรับตู้คีออสค์ รวมถึงการใช้งานด้านการขายและการตลาดอื่นๆ

***ขยายไลน์รักษ์โลก

งานปีนี้มีการเปิดตัวสมาชิกใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของเอเซอร์อย่าง Aspire Vero โดยมีโน้ตบุ๊ก 2 รุ่นใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อความยั่งยืน มาพร้อมโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุด 12th  Gen Intel Core จอแสดงผล Full HD ขนาด 14 นิ้วและ 15 นิ้ว มีให้เลือกหลากสีสัน นอกจากนี้ยังมี Veriton Vero เดสก์ท็อปออลอินวันเพื่อธุรกิจ จอแสดงผล Full HD IPS ขนาด 24 นิ้ว พร้อมดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ ให้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 88%

ที่สำคัญคือ Vero Monitors จอมอนิเตอร์ IPS ขนาด 23.8 นิ้ว และ 27 นิ้ว บนดีไซน์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เมาส์และคีย์บอร์ด Vero พร้อมปุ่มแบบ near-silent ลดเสียงรบกวนจากการพิมพ์และการคลิกเมาส์

Vero PD2325W โปรเจคเตอร์ที่ให้ความชัดเจนและแม่นยำ อัตราส่วนคอนทราสต์ที่สูงถึง 2,000,000:1 และขอบเขตสีที่กว้างขวาง 125% Rec. 709

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดใช้พลาสติกรีไซเคิลและบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้

เอเซอร์ระบุว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ในตระกูล Vero ที่มุ่งเน้นการใส่ใจสิ่งแวดล้อมนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเอเซอร์ในการสนับสนุนการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น ด้วยการนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภค องค์กรธุรกิจ และสถาบันต่างๆ ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยโน้ตบุ๊ก Aspire Vero รุ่นใหม่ รวมไปถึงเดสก์ท็อปออลอินวัน (AIO) จอภาพ โปรเจคเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วง ใช้พลาสติกรีไซเคิลที่ผลิตจากพลาสติกที่ผ่านการใช้งานจากผู้บริโภค (Post-Consumer Recycled – PCR) รวมถึงขยะพลาสติกในทะเล (Ocean-bound Plastic – OBP) และบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิล  ในผลิตภัณฑ์พิวเตอร์สามารถถอดแยกชิ้นส่วนได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการซ่อมแซมหรืออัพเกรด และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ โดยไม่มีการลดทอนประสิทธิภาพของอุปกรณ์

ราคาและการวางจำหน่ายโน้ตบุ๊ก Acer Aspire Vero (AV14-51) จะวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน 2565 ราคาเริ่มต้น 749.99 ดอลลาร์ (ราว 25,972 บาท) ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่อื่น นอกจากโน้ตบุ๊ก ยังมีออลอินวัน Acer Veriton Vero (VVZ4694G) ที่จะวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคม ราคาเริ่มต้น 799 ดอลลาร์ (ราว 27,702 บาท) ซึ่งจะทำตลาดร่วมกับ จอมอนิเตอร์, โปรเจคเตอร์, ชุดคีย์บอร์ดและเมาส์ภายใต้แบรนด์ Acer Vero ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้เป็นต้นไป

***ได้เวลา OLED เป้นเมนสตรีมในตลาดโน้ตบุ๊ก

เอเซอร์เปิดตัว Acer Swift 3 OLED โดยบอกว่าเป็นการผนึกพลังขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel Core H-Series ขณะเดียวกันก็โชว์ตัวคอนเวอร์ทิเบิลโน้ตบุ๊ก Acer Spin 5 และ Acer Spin 3 ถือเป็นการเปิดตัวโน๊ตบุ๊กใหม่ในซีรี่ย์ยอดนิยม Swift และ Spin ที่มาคู่กับระบบปฏิบัติการ Windows 11

ในส่วน Acer Swift 3 OLED จะขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง 12th Gen Intel Core H-series และผ่านการรับรองจากแพลตฟอร์ม Intel Evo ขณะที่ Acer Spin 5 เป้นคอนเวอร์ทิเบิลโน้ตบุ๊กที่ผ่านการรับรองจาก Intel Evo หน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600)  อัตราส่วนหน้าจอ 16:10 ดีไซน์สำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์บางเบาแต่ทรงพลังสำหรับงานสร้างสรรค์ ด้าน Acer Spin 3 จะเป้นคอนเวอร์ทิเบิลโน้ตบุ๊ก โน้ตบุ๊ก 2-in-1 Full HD ที่มาพร้อมกับ Acer Active Stylus จัดเก็บได้ในตัว เพื่อการวาดเขียนได้ทุกเวลา

Acer Swift 3 OLED (SF314-71) จะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 899.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 31,166 บาท ขณะที่ Acer Spin 5 (SP514-51N) เริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในเดือนกรกฎาคม ราคาเริ่ม 1,349.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 46,750 บาท) ด้าน Acer Spin 3 (SP314-55/N) จะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในเดือนสิงหาคม ราคาเริ่มต้น 849.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 29,435 บาท)

***จอ OLED จับคู่ ConceptD 5

งานนี้เอเซอร์ไม่เพียงประกาศเพิ่มประสิทธิภาพใน ConceptD โน้ตบุ๊ก และเดสก์ท็อป ด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุด 12th Gen Intel Core และกราฟิการ์ด NVIDIA RTX

แต่ยังมีการแนะนำจอแสดงผล OLED สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ ConceptD 5 ด้วย

เอเซอร์ระบุว่าการเพิ่มประสิทธิภาพของโน้ตบุ๊ก ConceptD 5 และ ConceptD 5 Pro ด้วยส่วนประกอบประสิทธิภาพสูงใหม่ล่าสุดอย่างจอแสดงภาพ OLED ขนาด 16 นิ้ว นั้นทำให้ได้เห็นภาพสดใสราวคริสตัล โดยมาพร้อมกับระบบประมวลผล 12th Gen Intel Core i7 processor และ NVIDIA RTX A5500 GPU หรือ NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti GPU ขณะที่ ConceptD 500 โมเดลใหม่นั้นใช้ระบบประมวลผล 12th Gen Intel Core i9 processor และ NVIDIA RTX A4000 GPU และ GeForce RTX 3070 GPU คู่กับหน่วยความจำ DDR4 3200 Mhz สูงสุด 128 GB พร้อมด้วยพื้นที่จัดเก็บข้อมูล M.2 Gen 4 SSD สูงสุด 4 TB บนฮาร์ดดิสก์สูงสุด 4 TB

ขณะที่ ConceptD 100 เป็นเดสก์ท็อปที่มาพร้อมพลังประมวลผล 12th Gen Intel Core i5 หรือ Core i7 processor และ NVIDIA T400 GPU หรือ T1000 GPU และยังรองรับหน่วยความจำ DDR4 3200 Mhz สูงสุด 128 GB พร้อมทั้งรองรับฮาร์ดดิสก์สูงสุด 2 TB 7200 RPM และรองรับ M.2 PCI-e/Gen 4 SSD สูงสุด 2 TB

ConceptD 5 (CN516-73G) เริ่มวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือในเดือนสิงหาคม เริ่มต้นที่ 2,499.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 86,574 บาท) ขณะที่ ConceptD 5 Pro (CN516-73P) เริ่มวางจำหน่ายในตะวันออกกลาง EMEA ในเดือนกันยายน เริ่มต้นที่ 2,599 ยูโร

ConceptD 500 เริ่มวางจำหน่ายก่อนที่ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ในเดือนกันยายน เริ่มต้นที่ 1,199 ยูโร ด้าน ConceptD 100 เริ่มวางจำหน่ายใน EMEA ในเดือนกันยายน เริ่มต้นที่ 999 ยูโร หรือราว 43,620 บาท และ 36,350 บาทตามลำดับ

Comments

comments