โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ได้รับการจัดอันดับเป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในประเทศไทย (World’s Best Hospitals 2022 – Thailand) ด้วยคะแนน 94.79% ซึ่งนับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน รวมถึงยังได้รับการจัดอันดับว่าเป็นโรงพยาบาลเพียงแห่งเดียวในไทยที่ติดอันดับ 146 จาก 150 ของโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลกปี 2565 (World’s Best Hospitals 2022) จากผลการสำรวจของ Newsweek ร่วมกับ Statista โดยพิจารณาจัดอันดับจากเกณฑ์ที่สำคัญ 3 ด้าน คือ 1) การสำรวจออนไลน์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์, ผู้บริหารโรงพยาบาล, บุคลากรทางการแพทย์ กว่า 80,000 ราย จากโรงพยาบาล 2,200 แห่ง ใน 27 ประเทศ 2) ข้อมูลจากประสบการณ์ผู้ป่วย และ 3) KPI ทางการแพทย์ในโรงพยาบาล เช่น ข้อมูลคุณภาพการรักษา ความปลอดภัยของผู้ป่วย มาตรการด้านสุขอนามัย และจำนวนแพทย์หรือพยาบาลต่อผู้ป่วย เป็นต้น
เภสัชกรหญิงอาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวในฐานะตัวแทนผู้บริหาร, แพทย์ และบุคลากรของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับการจัดอันดับที่ยิ่งใหญ่ในระดับโลกครั้งนี้ นับว่าเป็นจังหวะและโอกาสอันดีในการตอกย้ำความเชื่อมั่นในเรื่องคุณภาพมาตรฐานด้านการแพทย์ของไทยให้กับผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้ามารับบริการดูแลสุขภาพหรือรักษาพยาบาล โดยเฉพาะในปี 2565 ที่ประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลกมีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ดีขึ้น และมีมาตรการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะได้รับความสนใจให้เป็นจุดหมายปลายทางในด้าน Medical & Wellness Destination ของภูมิภาคที่มีศักยภาพและไม่แพ้ชาติใดในโลก อีกทั้งยังเป็นจุดแข็งที่สำคัญของประเทศที่ควรให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงของการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังโควิด-19
ที่สำคัญ บำรุงราษฎร์จะไม่สามารถก้าวมาถึงความสำเร็จในจุดนี้ได้ หากขาดความเป็นมืออาชีพและการทำงานที่เป็นทีมเวิร์กของทุกคน ต้องขอแสดงคำกล่าวชื่นชมแพทย์ ทันตแพทย์ ผู้บริหารและบุคลากรของโรงพยาบาลฯ ทุกคน ที่ทุ่มเท เสียสละ และทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพเพื่อบริบาลผู้ป่วยเป็นอย่างดีที่สุด รวมถึงต้องขอขอบคุณผู้ป่วยทุกท่านทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มอบความไว้วางใจให้บำรุงราษฎร์ได้ดูแลสุขภาพตลอดมา ซึ่งนับตั้งแต่ก่อตั้งโรงพยาบาลมากว่า 42 ปี บำรุงราษฎร์ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาศักยภาพในทุกมิติเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและครอบคลุมการรักษาให้มากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นหัวใจสำคัญ