ดีแทค นำเทคโนโลยี 5G IoT เปิดตัวแก่ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรม องค์กร และโรงงาน เพื่อใช้เป็นโซลูชันสำคัญรับแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เผยไฮไลท์ 3 กลุ่ม คือ Smart Factory, Smart Logisticsและ Smart Utilities พร้อมนำ 5G Private Network ร่วมเปิดตัว โดยผู้สนใจทั้งกลุ่มอุตสาหกรรม ลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ กลุ่มโรงงาน ห้ามพลาดเข้าชมได้ในงาน Thailand 5G Summit 2022 งานสัมมนาและจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม 5G จัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ระหว่างวันที่ 16-17 มิถุนายน 2565 ที่ชั้น 22โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และ บางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์
ซาดัท ซามาน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “การลงทุน 5G เป็นคีย์หลักสำหรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม สิ่งสำคัญคือวันนี้ถึงเวลาที่เราต้องเร่งทรานฟอร์มสู่ดิจิทัล เพื่อสานต่อการพลิกฟื้นทางธุรกิจ ดีแทคเป็นผู้ริเริ่มในการผลักดันเส้นทางดิจิทัลสู่ประเทศไทยที่มีความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนำสู่การเปลี่ยนผ่านและการพัฒนาทุกภาคส่วนรวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มธุรกิจ เราเชื่อว่า 5G คือปัจจัยหลักนำไปสู่การปลดล็อกให้แก่ประเทศไทยได้ในช่วงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการเปิดประเทศ”
ตามข้อมูลรายงานจากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ระบุว่าภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเดือนเมษายน 2565 เมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ขยายตัว ร้อยละ 0.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศมีแนวโน้มคลี่คลาย ทั้งนี้ อุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลให้ MPI เดือนเมษายน 2565 ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน คือ ยานยนต์ ขยายตัวร้อยละ 12.82 ตามการขยายตัวของตลาดในประเทศ และตลาดส่งออก รวมถึงคำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมจะมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการส่งออกที่เติบโตต่อเนื่อง จากตลาดภายในประเทศฟื้นตัวหลังการเปิดประเทศอีกด้วย
ดีแทค บิสิเนสได้เปิดตัวโซลูชัน 5G IoT ใน 3 กลุ่มสำคัญ สำหรับงาน Thailand 5G Summit 2022 งานสัมมนาและจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม 5G เพื่อร่วมกระตุ้นการฟื้นตัวของประเทศ คือ
1) โซลูชัน Smart Factory พลิกโฉมโรงงานและกระบวนการผลิตจากแบบเดิม หรือแอนะล็อก ให้ก้าวสู่ดิจิทัลและรองรับยุคบิ๊กดาต้า โดยโซลูชันที่ทีมดีแทคจะวิเคราะห์และออกแบบต่อยอดให้เครื่องจักรเดิมด้วย IoT เก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และมอนิเตอร์ข้อมูลเรียลไทม์ระยะไกล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และรองรับแพลตฟอร์มดิจิทัลแห่งอนาคต
2) โซลูชัน Smart Logistics เปลี่ยนรูปแบบคลังสินค้า และการติดตามสินค้าแบบเดิมด้วย IoT และเซนเซอร์ที่รายงานข้อมูลเรียลไทม์ แม่นยำ ระบุตำแหน่ง และข้อมูลต่างๆ เช่น ค่าความชื้น อุณหภูมิ สินค้า เพื่อคุณภาพสินค้าที่ดียิ่งขึ้น ติดตามทรัพย์สินเพื่อความปลอดภัย
3) โซลูชัน Smart Utilities ระบบสาธารณูปโภคอัจฉริยะ ทั้งระบบน้ำและไฟฟ้า โดย 5G โซลูชันบริหารจัดการน้ำอัจฉริยะ (Smart Water Management) จะวัดค่า pH สารเคมีที่ตกค้างในน้ำทิ้ง พร้อมแจ้งเตือนระดับความสูงของน้ำในการกักและระบายน้ำในเขตอุตสาหกรรม และ มาตรวัดน้ำอัจฉริยะ (Smart Water Meter Reader) ช่วยให้การเก็บข้อมูลมาตรวัดเป็นไปในแบบออนไลน์ สำหรับ Smart Utilities ด้านไฟฟ้าเหมาะสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและโรงงาน หรืออาคารที่ใช้ไฟฟ้าในธุรกิจขนาดใหญ่ด้วยรูปแบบ “5G โซลูชันบริหารพลังงานระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Energy Management)” พลิกรูปแบบการใช้งานตู้สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า หรือ MDB (Main Distribution Board) ช่วยป้องกันและแก้ปัญหาหรือลดความเสียหายที่เกิดจากกระแสไฟฟ้า เช่น ไฟฟ้าตก ไฟฟ้าเกิน ไฟฟ้ากระชาก หรือไฟฟ้าดับ เป็นต้น
นอกจากนี้ ดีแทค บิสิเนส ยังได้นำ 5G Private Network เจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเครือข่ายเรื่องความปลอดภัยสูง และพลิกโฉมสู่ดิจิทัลแห่งอนาคต ร่วมเปิดตัวในงาน โดยเครือข่ายจะผสานกับการประมวลผลเอดจ์ คอมพิวติ้ง สามารถออกแบบขนาดได้ตรงการใช้งานในองค์กร ใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยี Massive IoT, Artificial Intelligence (AI), Machine Learning (ML), Augmented Reality (AR), Virtual Reality (VR), และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์
ทั้งนี้ ดีแทคมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยี 5G เพื่อพลิกฟื้นผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงความสำคัญในการทำงานในอีโคซิสเต็มส์ ร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาล ผู้ประกอบการ และคู่ค้าในอุตสาหกรรม ดีแทคนำเทคโนโลยีการสื่อสาร ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ ที่พร้อมจะนำคนไทยสู่ความยั่งยืนของยุค 5G