ใครๆ ก็คงอยากเก็บช่วงเวลาสำคัญให้ได้ดีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ‘เสียวหมี่’ หนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมสำหรับกล้องถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟน สร้างสรรค์สมาร์ทโฟน Xiaomi 12T Series ที่มีเลนส์ความละเอียดสูงสุด 200 ล้านพิกเซล เพื่อเป็นตัวช่วยให้คุณเก็บทุกรายละเอียดในช่วงเวลาสุดพิเศษให้ชัดยิ่งขึ้น ภายใต้คอนเซปต์Make Moments Mega’

แต่จุดเด่นของ Xiaomi 12T Series ไม่ได้อยู่แค่ความละเอียดของกล้องที่ 200 ล้านพิกเซล หรือ 108 ล้านพิกเซลที่ช่วยให้เวลาครอบหรือซูมภาพแล้วไม่ทำให้เสียรายละเอียดเท่านั้น แต่ยังมีการนำซอฟต์แวร์และอัลกอริทึมมาช่วยประมวลผลในลักษณะของ Computational Photography เพื่อเสริมให้ภาพที่ได้มีคุณภาพสูงที่สุดอีกด้วย

โดยใน Xiaomi 12T Pro ที่มากับกล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ในการถ่ายภาพปกติจะใช้การรวมเม็ดพิกเซล (Pixel Binning) จากเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 1/1.22 นิ้ว ในสัดส่วน 16 ต่อ 1 ซึ่งทำให้ได้ภาพที่มีความละเอียด 12.5 ล้านพิกเซลที่มีขนาดเม็ดพิกเซลใหญ่ถึง 2.56 μm ประโยชน์ที่ได้นอกจากรายละเอียดของภาพที่คมชัดขึ้นแล้ว คือการเก็บแสงที่ดีขึ้น ช่วยให้สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้สามารถบันทึกช่วงเวลาพิเศษได้ทั้งภาพนิ่งและภาพวิดีโอความละเอียดสูงในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ทำให้การบันทึกความทรงจำที่มีค่ายิ่งใหญ่นั้นชัดขึ้นกว่าเดิม

ส่วนถ้าต้องการภาพความละเอียดสูงระดับ 200 ล้านพิกเซล จะต้องถ่ายภาพในโหมด Ultra HD ซึ่งขนาดไฟล์ภาพจะใหญ่ขึ้นและมีรายละเอียดที่มากกว่า ช่วยให้ซูมภาพได้ละเอียดมากยิ่งขึ้นด้วย เมื่อทำงานร่วมกับ Xiaomi ProCut จะเปลี่ยนภาพถ่ายขนาด 200 ล้านพิกเซลให้กลายเป็นภาพต่างๆ ได้ถึง 5 ภาพที่มีองค์ประกอบแบบที่ต้องการโดยไม่ลดทอนความคมชัดลง

นอกจากนี้ ยังมากับความสามารถเพิ่มเติมอย่างการใส่ระบบกันสั่น OIS เพิ่มเติมด้วย Xiaomi ProFocus ระบบโฟกัสอัตโนมัติในภาพเคลื่อนไหว และดวงตา รองรับการถ่ายภาพวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 8K ที่สามารถบันทึกได้แบบ HDR10+ รวมถึงการซูมภาพแบบ 2 เท่า โดยไม่เสียรายละเอียดสำหรับการถ่ายภาพ Portrait ด้วย และการรันถ่ายภาพขั้นสูงสุดที่ 30 ภาพต่อวินาที

ในขณะที่ Xiaomi 12T ซึ่งมากับกล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ก็มาพร้อมความสามารถในการรวมเม็ดพิกเซลเช่นเดียวกันในสัดส่วน 9 ต่อ 1 ทำให้ได้ภาพที่มีเม็ดพิกเซลถึง 1.92 μm รวมถึงความสามารถในการโฟกัสอัตโนมัติ ระบบกันสั่น OIS พร้อมทำงานร่วมกับเลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล และเลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล

ทั้งนี้ Xiaomi 12T Pro และ Xiaomi 12T มากับจอแสดงผลแบบ 120Hz CrystalResAMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ที่รองรับ 120W HyperCharge ให้พร้อมใช้งานใน 19 นาที โดย Xiaomi 12T Pro ทำงานบนชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 ในขณะที่ Xiaomi 12T ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8100-Ultra

Xiaomi 12T Series มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Silver และ Blue โดยจะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

Xiaomi 12T Pro รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 25,990 บาท
Xiaomi 12T รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 17,990 บาท

เกี่ยวกับเสียวหมี่

เสียวหมี่ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2018 (1810.HK) เสียวหมี่เป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อด้วยแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เป็นแกนหลัก

ด้วยวิสัยทัศน์ของการเป็น “มิตรของผู้ใช้งานและบริษัทที่ทันสมัยที่สุดในใจผู้ใช้งานทุกคน” เสียวหมี่จึงมีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะพัฒนานวัตกรรม ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยม ตลอดจนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะไม่ลดละการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในราคาที่เป็นมิตร เพื่อให้ทุกคนบนโลกนี้สามารถเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้

ตามรายงานจาก Canalys ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทในการจัดส่งสมาร์ทโฟนนั้นอยู่ในอันดับที่ 3 ของโลกในไตรมาสที่สองของปี 2565 นอกจากนี้เสียวหมี่ยังเป็นผู้นำด้านการก่อตั้งแพลทฟอร์ม AIoT (AI+IoT) ของโลกโดยมีสินค้าอัจฉริยะเชื่อมต่อกับแพลทฟอร์มกว่า 526.9 ล้านเครื่อง ณวันที่ 30 มิถุนายน 2565 โดยยังไม่รวมสมาร์ทโฟน แล็ปท็อปและแท็บเล็ตผลิตภัณฑ์ของเสียวหมี่มีวางจำหน่ายกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก และในเดือนสิงหาคม 2022 เสียวหมี่ยังติดอันดับที่ 266 บน Fortune Global 500 นับเป็นการติดอันดับครั้งที่สี่ติดต่อกัน และไต่อันดับขึ้นมาถึง 72 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2564

เสียวหมี่เป็นส่วนหนึ่งของ Hang Seng Index, Hang Seng China Enterprises Index และ Hang Seng TECH Index

Comments

comments