รายงาน “The State of Responsible Technology” ของ MIT Technology Review Insights ซึ่งสนับสนุนโดยThoughtworks สรุปความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงจากภูมิภาคต่างๆ 9 ประเทศ
Thoughtworks (NASDAQ: TWKS) บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่ผสานกลยุทธ์การออกแบบและวิศวกรรมเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัล ได้ร่วมกับ MIT Technology Review Insights ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้นำธุรกิจเรื่องการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ รวมทั้งแรงจูงใจ และประโยชน์ที่จะเอื้อต่อธุรกิจได้
รายงาน “The State of Responsible Technology” ได้รวบรวมข้อมูลจากผู้บริหารระดับสูงกว่า 550 คนใน 9ประเทศในภูมิภาคต่างๆ คือ สหรัฐอเมริกา (12%) แคนาดา (10%) บราซิล (10%) สหราชอาณาจักร (12%) เยอรมนี (12%) อินเดีย (12%) ออสเตรเลีย (11%) สิงคโปร์ (10%) และจีน (12%) นอกจากนี้ ยังมีบทสัมภาษณ์เชิงลึกของผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจากองค์กรชั้นนำอย่าง H&M Group, MOIA และ California Polytechnic State Universityอีกด้วย
สาระสำคัญของผลสำรวจดังกล่าว ได้แก่:
- เกือบ 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยว่า ท้ายสุดแล้ว การตัดสินใจใช้เทคโนโลยีของบริษัทจะให้ความสำคัญกับ ‘การใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบ’ มากพอกับเรื่องผลลัพธ์ทางธุรกิจ
- เมื่อถามถึงประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมของการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบนั้น คำตอบที่ได้ส่วนใหญ่คือ:
o ดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมได้ดียิ่งขึ้น (47%)
o การรับรู้แบรนด์ดีขึ้น (46%)
o ป้องกันการเกิดผลกระทบเชิงลบ (44%)
o ดึงดูดและรักษาคนเก่งให้อยู่กับบริษัทไว้ได้ (43%)
o พัฒนาเรื่องความยั่งยืน (43%)
- องค์กรที่ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ทำงานอยู่ มีนโยบายริเริ่มใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบแล้ว
- 67% กล่าวว่าองค์กรมีแนวทางหรือกรอบการทำงานสำหรับการใช้เทคโนโลยีที่มีความรับผิดชอบบางประเภท
- คำตอบดังกล่าว พบได้ทั่วไปในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่ทำงานภาครัฐ มากกว่าผู้ที่ทำงานในบริษัทให้บริการด้านการเงิน
- อุปสรรคสำคัญในการผนวกการใช้เทคโนโลยีที่มีความรับผิดชอบเข้าในขั้นตอนการทำงาน คือ
- ผู้บริการระดับสูงขาดความเข้าใจ (52%)
- องค์กรยังไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง (46%)
- ลำดับความสำคัญของเรื่องต่างๆ ในองค์กร (46%)
ดร. รีเบคกา พาร์สันส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี ของ Thoughtworks กล่าวว่า “การใช้เทคโนโลยีได้ขยายไปสู่พื้นที่อ่อนไหวและซับซ้อนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจด้านสินเชื่อ การวินิจฉัยทางการแพทย์ ตลอดจนการพิจารณาคดีทางอาญา ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อทั้งตัวเรา เพื่อนและครอบครัว รวมไปถึงพนักงาน ลูกค้า และพลเมือง จึงไม่น่าแปลกใจหากหลายบริษัทจะให้ความสำคัญกับการสร้างเทคโนโลยีที่มีความรับผิดชอบมากขึ้นแทนที่จะสนใจเรื่องความสะดวกหรือต้นทุนเพียงอย่างเดียว Thoughtworks ได้ให้คำแนะนำแก่องค์กรต่างๆ เกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมดิจิทัล และประโยชน์ของเทคโนโลยีที่มีความรับผิดชอบ ที่ช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจของลูกค้า ลดความเสี่ยงและดึงดูดคนเก่งให้มาร่วมงานกับองค์กร รวมทั้งเพิ่มคุณค่าและจัดการกับผลกระทบที่ไม่คาดคิดจากผลิตภัณฑ์ดิจิทัลได้”
ลอเรล รูมา ผู้อำนวยการกองบรรณาธิการของ MIT Technology Review Insights กล่าวว่า “จากการที่เทคโนโลยีได้กลายเป็นพื้นฐานของทุกธุรกิจ และเมื่อเราเห็นผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีในทางที่ไม่ถูกต้องแล้วนั้น การใช้เทคโนโลยีที่มีความรับผิดชอบจึงกลายเป็นความคาดหวังสำคัญทางธุรกิจ และหลายบริษัทก็กำลังหันมามุ่งเน้นในเรื่องนี้มากขึ้น ไม่ว่าการดำเนินงานจะสอดคล้องกับความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม”
“แนวคิดหลักของเทคโนโลยีที่ต้องมีความรับผิดชอบ คือการทำให้เกิดความมั่นใจว่าทุกคนได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยี และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ผลของรายงานนี้ ได้ชี้ให้เห็นว่า ผู้นำธุรกิจในปัจจุบันได้ศึกษาทำความเข้าใจเรื่องการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบที่มีความเร่งด่วน และตระหนักถึงประโยชน์ที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจได้อีกด้วย” ดร. พาร์สันส์ กล่าวเสริม
สามารถดาวน์โหลด ‘The State of Responsible Technology’ ได้ที่นี่
รายงานฉบับนี้ซึ่งเป็นความร่วมมือกันของ Thoughtworks และ MIT Technology Review Insights ได้มีการเผยแพร่ต่อจากคู่มือการใช้เทคโนโลยีที่มีความรับผิดชอบของ Thoughtworks ซึ่งได้แนะนำเครื่องมือและเทคนิคทางเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะช่วยกำหนดกลยุทธ์ให้มีความครอบคลุม รับรู้ถึงอคติ โปร่งใส และตรวจสอบได้ ทั้งยังจะช่วยลดผลกระทบด้านลบที่ไม่ตั้งใจให้เกิดขึ้น แนวทางเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ที่ทำงานด้านเทคโนโลยีสามารถตรวจสอบการตัดสินใจเรื่องผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีจากหลายๆ มุมมอง และช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นพบผลกระทบเชิงลบที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- อ่านข้อมูลเพิ่มเติม Thoughtworks’ perspective on responsible tech and innovation
- ติดตามข้อมูลข่าวสารของ Thoughtworks ได้ทาง website Twitter, LinkedIn และ YouTube.