arip หรือ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจสื่อและคอนเทนต์ การจัดและบริหารงานอีเว้นท์ และธุรกิจ Digital Platform & Service เผยผลดำเนินธุรกิจปี 65 มีรายได้รวม 226.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 34% มีกำไรรวม 12.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132.68% หรือ 6.9 ล้านบาท โดยมาจากการขยายฐานลูกค้าส่วนงาน Media Agency และอานิสงค์จากการปลดล็อคดาวน์ทำให้บริษัทสามารถจัดงานอีเว้นท์และกิจกรรมทางการตลาดได้ตามปกติ พร้อมตั้งเป้าปี 2566 โต 30% จากแบ็กล็อกอีเวนต์ที่มีอยู่กว่า 20 โครงการรวมมูลค่ากว่า 180 ล้านบาท

นายบุญเลิศ นราไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานในปี 65 เป็นไปตามเป้าตั้งที่ไว้เติบโตจากปีก่อน 30% ซึ่งมาจากการปลดล็อคดาวน์ ทำให้บริษัทสามารถจัดงานอีเว้นท์และกิจกรรมทางการตลาดได้ตามปกติ และสามารถส่งมอบงานต่าง ๆ ได้ตามเป้าหมาย ในปี 2566 นี้ arip ตั้งเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจภาพรวมให้มีรายได้เติบโต 30% จากปีก่อน โดยแบ่งสัดส่วนรายได้มาจาก 3 ส่วน คือ

1.Organic Business ประกอบด้วยธุรกิจสื่อ, ธุรกิจ Digital และ PR สัดส่วนประมาณ 35 % ซึ่งปัจจุบันยังเป็นไปตามเป้าหมาย

  1. Own Event ประกอบด้วยงานคอมมาร์ต และงานมอบรางวัลต่าง ๆ สัดส่วนประมาณ 30 % ซึ่งเชื่อว่าสามารถจัดได้ครบทุกงาน ทั้งการจัดงานคอมมาร์ต 3 ครั้งต่อปี และ งานมอบรางวัลต่าง ๆ ที่จัดร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน

ซึ่งเราจะพัฒนาการจัดอีเว้นท์มากยิ่งขึ้น มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาผสมผสานเข้ากับการจัดงาน ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น การพัฒนางานอีเว้นท์ On Ground ให้เป็น  Interactive มากขึ้น มีการนำเทคโนโลยี Human sensor ใช้ในการบอกข้อมูล สร้างเป็น Interactive Wall  มีการนำเทคโนโลยี  AR ที่จะเข้ามาช่วยให้แสดงผลข้อมูลมองเห็นเป็นมิติมากขึ้น ช่วยลดต้นทุนให้กับทั้งบริษัทฯและลูกค้า และได้ข้อมูลคอนเทนต์ที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น ด้าน Online Event ปีนี้มีการพัฒนาเรื่อง Metaverse ร่วมกับบริษัทหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยี Interactive จากประเทศสิงค์โปร์คาดว่าจะเปิดตัวได้ในไตรมาส 3

  1. โปรเจกต์ของลูกค้า สัดส่วนประมาณ 35% ได้แก่งานที่เซ็นสัญญาแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการ อาทิ งานพัฒนาแพลตฟอร์ม e-commerce ของงานออกร้านคณะภริยาทูตครั้งที่ 56 ที่เราพัฒนาให้กับสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3, งานแสดงสินค้าชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง 2566 หรือ TAPA2023 ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์,โครงการ From Gen Z to be CEO ของกระทรวงพาณิชย์ จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2, งาน 4D Tourism Operators Day พัฒนา Courseware ให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), งานพัฒนาระบบบริหารจัดการคลังข้อมูลการเรียนรู้ ของ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นต้น

โดยแบล็คล็อคที่อยู่ในมือ ทั้งโปรเจกต์ที่บริษัทฯจัดเอง และโปรเจกต์ของลูกค้า รวมประมาณ 17 โครงการ มูลค่า 124 ล้านบาท  และโปรเจกต์ที่คาดว่าเราจะได้อีกประมาณ 64 ล้าน ซึ่งโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่เข้ามาแล้วอยู่ในระหว่างดำเนินการและส่งมอบลูกค้าต่อไป

นายบุญเลิศ ให้ความเห็นถึงภาพรวมของสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีผลต่อบริษัทว่า “การกลับมาของการท่องเที่ยว มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี มีการจัดงานมากยิ่งขึ้น ทิศทางการจัดงานอีเว้นท์กลับสู่ภาวะปกติ ผู้คนกลับมาให้ความสนใจที่อยากเข้าร่วมงานอีเว้นท์เป็นจำนวนมาก ในส่วนการจัดงานแบบออนไลน์ก็ยังสามารถทำให้ช่วยเสริมให้เป็นกิมมิค ช่วยให้งานมีสีสันมากขึ้น แต่ในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ  เป็นตัวที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว โดยในส่วนตลาดไอที มีการชะลอตัวมาตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว และคิดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวัลใจ แต่พอผ่านไตรมาส 2  ไปคาดว่าจะกลับมาดีขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลกำไรได้มากขึ้นกว่าปีก่อน และสามารถปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นได้เช่นเดียวกับปี 2565”

 

Comments

comments