อัพเดท AIS ยกระดับเครือข่าย AIS 5G SA-Stand Alone ไปอีกขั้น ให้เชื่อมต่อประสบการณ์คุณภาพมาถึงการใช้งาน บน iPhone 14 ทุกรุ่น ที่ update software version เป็น 16.4 แล้ววันนี้ หลังจากขยายเครือข่ายและเปิดให้บริการ SA เป็นรายแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563
ในปัจจุบัน AIS มีปริมาณคลื่นความถี่ 1,460 MHz (รวมการทำงานกับพันธมิตรแล้ว) และมีการทดลองทดสอบ พร้อมนำนวัตกรรมต่างๆมาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 5G NSA/ SA, VoNR, 5G CA หรือ NRDC
ล่าสุดได้ยกระดับส่งต่อคุณภาพจากเทคโนโลยี 5G SA – Stand Alone ไปอีกขั้น เพื่อให้ลูกค้าที่ใช้ iPhone 14 ทุกรุ่น ที่ Update ซอฟต์แวร์ เป็น iOS เวอร์ชั่น 16.4 สามารถใช้ 5G Stand Alone สื่อสารได้อย่างรวดเร็วขึ้น ประกอบด้วย Ultra Low Latency ด้วยค่าความหน่วงต่ำที่สุด ทำให้สามารถตอบสนองได้เร็วยิ่งกว่า พร้อมการสั่งงานและควบคุมสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วยความเสถียรสูงสุด และ Battery Saving ประหยัดพลังงานการใช้แบตเตอรี่มากยิ่งขึ้น”
เปิด TIMELINE AIS แสดงถึงการพัฒนาเครือข่ายให้พร้อมรองรับเทคโนโลยี 5G Stand Alone ได้อย่างต่อเนื่อง ดังนี้
สิงหาคม 2563 , รายแรกและรายเดียวในไทยที่เปิดบริการ 5G SA (Stand Alone) ครบแล้ว 77 จังหวัด
ตุลาคม 2563, รายแรกในโลกที่ร่วมกับ Huawei เปิดให้ Smart Phone Huawei P40, p40+ ใช้ 5G SA
มิถุนายน 2564 , รายแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เปิดให้ Smart Phone Samsung Galaxy S21 Series 5G พร้อมใช้ SA
ตุลาคม 2564, รายแรกในไทย เปิดบริการ VoNR การสื่อสารด้วยเสียงคุณภาพสูงระดับ ผ่านเครือข่าย AIS 5G SA ให้ผู้ใช้งาน Galaxy S21 Series
พฤศจิกายน 2564, รายแรกในโลกที่ร่วมกับ Xiaomi ส่งเทคโนโลยีสุดล้ำ “5G CA” บนความถี่ 700, 2600 ผ่านเครือข่าย AIS 5G SA ครั้งแรกของโลกบน Xiaomi 11T
ธันวาคม 2565, รายแรกและรายเดียวในไทย ที่จับมือกับ ZTE ทดลอง ทดสอบ URLLC – Ultra-Reliable and Low Latency Communications ที่ทำให้ เครือข่าย AIS 5G SA สามารถมีความหน่วงเวลาในการส่งข้อมูลอยู่ที่ระดับ 1 มิลลิวินาที เหมาะกับการรับ-ส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น เสถียรมากขึ้น โดยเฉพาะในรูปแบบการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำสูง (Critical application)
กุมภาพันธ์ 2566, รายแรกในไทยที่จับมือกับ Sunrise และ Deutsche Telekom Global Carrier ประสบความสำเร็จ ในการทดสอบ 5G SA Roaming ข้ามทวีประหว่างยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมยกระดับการใช้งานดาต้าสำหรับนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ในภาคอุตสาหกรรม 5G SA จะสนับสนุนการทำ Network Slicing ที่ช่วยปรับแต่งคุณสมบัติเครือข่ายและจัดสรรทรัพยากรความถี่ อย่างสอดคล้องและยืดหยุ่นกับลักษณะการใช้งานแต่ละรูปแบบ ในแต่ละพื้นที่ของภาคธุรกิจได้อย่างคล่องตัว ทำให้สามารถรับประกันคุณภาพของการเชื่อมต่อและความเร็วได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี 5G Multi – access Edge Computing (MEC) ที่สามารถนำ Application Server ให้เข้าใกล้ผู้ใช้งานมากที่สุด ช่วยให้สามารถใช้งานเครือข่ายด้วยการเข้าถึงแบบไร้สาย เพื่อให้บริการประมวลผลในปริมาณมากและมีความปลอดภัยสูงสุดเช่นกัน”
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมการเปิดใช้ iPhone 14 บนเครือข่าย AIS 5G SA ดูได้ที่ https://www.ais.th/5g/connectivity.html#connectivity_5gsa