NT และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จับมือเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมการวิเคราะห์ข้อมูลด้านเศรษฐกิจและสังคม
ดร. วงกต วิจักขณ์สังสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานดิจิทัล บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และ ศาสตราจารย์ ดร. วิเลิศ ภูริวัชร คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมลงนามความร่วมมือทางวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างนวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ณ อาคารอนุสรณ์ 50 ปี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566
ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว ทั้งสองหน่วยงานจะได้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ข้อมูลวิชาการ ตลอดจนการจัดอบรมสัมมนาเพื่อพัฒนาต่อยอดความรู้ทางวิชาการให้กับบุคลากรของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนางานวิจัย องค์ความรู้ และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
ดร. วงกต วิจักขณ์สังสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานดิจิทัล บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่าปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์จากข้อมูลในการพัฒนาขีดความสามารถในการดำเนินงานขององค์กร NT จึงได้ขยายบริการด้านการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน NT ให้บริการด้าน Big Data อย่างครบวงจร ทั้งบริการให้คำปรึกษาและออกแบบระบบ Big Data, บริการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล, บริการ Big Data Platform รวมถึงบริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่ง NT เชื่อมั่นว่าความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการให้บริการ Big Data ของ NT จะสามารถผสานต่อยอดกับองค์ความรู้ด้านวิชาการและงานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะข้อมูลด้านเศรษฐกิจและสังคมที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากจะทำให้ทั้งสองหน่วยงานได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อการสร้างนวัตกรรมและการให้บริการกับภาคส่วนต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้นแล้ว ยังสามารถพัฒนาไปสู่ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน Data Analytics ในอนาคตต่อไปได้
ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ Chulalongkorn Business School (CBS) กล่าวว่า ในปัจจุบันการพัฒนาข้อมูลให้เป็นกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนความสำเร็จ มีความสำคัญต่อองค์กรทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ การเรียนรู้และประยุกต์เทคนิค
วิทยาการข้อมูลให้เหมาะสมกับข้อมูลต่าง ๆ นั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อนำผลที่ได้ไปใช้ในการตัดสินใจและสร้าง
มูลค่าให้กับองค์กร CBS ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของศาสตร์ทางด้านวิทยาการข้อมูลในการวิเคราะห์ข้อมูลภายใต้ข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งหนึ่งในรากฐานที่สำคัญสำหรับศาสตร์นี้คือการพัฒนาแพลตฟอร์มที่จะช่วยรองรับการบริหารจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูล โดยแพลตฟอร์มที่ได้ร่วมพัฒนากับ NT นี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนของนิสิต อีกทั้งยังเป็นนวัตกรรมที่สนับสนุนองค์กรต่าง ๆ ในการนำข้อมูลมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน หนึ่งในแผนระยะยาวของความร่วมมือระหว่าง CBS และ NT คือการก่อตั้งศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน Data Analytics ซึ่งเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้ทางด้านวิทยาการข้อมูลที่จะคอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลือด้านการบริหารจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่องค์กรตั้งไว้ได้อย่างเหมาะสม