นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่าทุกวันนี้การใช้ชีวิตได้ก้าวสู่ Digital Lifestyle อย่างเต็มรูปแบบ  เป้าหมายของ AIS จึงมุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเป็นรายเดียวที่มีโครงข่าย 5G ครอบคลุมแล้วถึง 87% และโครงข่ายไฟเบอร์ บรอดแบนด์ ที่เข้าถึงกว่า 8.8 ล้านครัวเรือน ทั่วไทย  เพื่อให้คนไทยได้รับความสะดวกจากการใช้ดิจิทัลอย่างไร้ข้อจำกัด รวมไปถึงให้ความสำคัญกับการส่งมอบบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ช่องทางจัดจำหน่ายในหลากหลายกลุ่ม โดยเราเป็นรายเดียวอีกเช่นกันที่ผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการให้บริการ ด้วยเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าผ่าน Customer Service Touchpoint  ที่ปัจจุบันขยายตัวต่อเนื่อง จนมีแล้วมากกว่า 23,000 แห่ง ตามหลักคิด ECOSYSTEM ECONOMY –เศรษฐกิจแบบร่วมกัน ที่มอบทั้งประโยชน์แก่ลูกค้า คนไทย และสร้างการเติบโตของพาร์ทเนอร์ไปพร้อมๆกัน

ปัจจุบัน AIS มีช่องทางการจัดจำหน่ายและบริการลูกค้า ที่ร่วมกับพาร์ทเนอร์หลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่ม ประกอบด้วย

  • ร้านค้าเทคโนโลยีชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญด้านสินค้า และบริการที่ตอบสนอง Digital Lifestyle  ประกอบด้วยJaymart, TG , iStudio by SPVi และ iStudio by Copperwired ที่จำหน่ายสินค้าเทคโนโลยี สมาร์ตโฟน และดิจิทัล แก็ดเจ็ต โดยภายในร้านจะมีบริการของ AIS ที่จะมาพร้อมสินค้าและบริการต่างๆ อาทิ โทรศัพท์มือถือ ซิมแบบรายเดือน และเครื่องในโครงการพิเศษเพื่อลูกค้าเอไอเอสเท่านั้น หลากหลายรูปแบบ  โดยร้านค้าในกลุ่มนี้ปัจจุบันมีกว่า 700 สาขาและยังคงขยายตัวต่อเนื่อง
  • ร้านเอไอเอส , ร้านเอไอเอส เทเลวิซ ,ร้านเอไอเอส บัดดี้ เอ็กซ์คลูซีฟ  ที่จำหน่ายทั้งโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์เสริมต่างๆ ซิมแบบรายเดือน และเติมเงิน พร้อมเครื่องในโครงการพิเศษเพื่อลูกค้าเอไอเอสเท่านั้น รวมไปถึงการสมัครบริการและทำธุรกรรมต่างๆ ทั้ง เน็ตบ้าน, ประกันภัย, ฯลฯ โดยร้านค้าในกลุ่มนี้ ปัจจุบันมีกว่า 800 สาขาทั่วประเทศ
  • ร้านค้าปลีกรายย่อย ที่กระจายตัวอยู่ตามชุมชน และพื้นที่ห่างไกล จำหน่ายทั้งโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์เสริม ซิมแบบรายเดือน และเติมเงิน พร้อมบริการธุรกรรมต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 21,000 ร้านทั่วประเทศ

นอกจากนี้ AIS ยังทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างต่อเนื่องในการยกระดับเทคโนโลยี รวมถึงองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่จะทำให้สามารถมอบประสบการณ์งานบริการที่ตอบโจทย์ Digital Lifestyle อยู่เสมอ พร้อมร่วมพัฒนาทักษะพนักงาน ให้มีความรู้ ความชำนาญ เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้มอบคำแนะนำและให้บริการลูกค้าได้อย่างเป็นเลิศ ภายใต้มาตรฐานเอไอเอสอีกด้วย

นายปรัธนา ย้ำว่า การมีพันธมิตรที่มีความรู้ ความชำนาญ และจุดแข็งที่แตกต่าง หลากหลาย กว่า 23,000 แห่ง เป็นหัวใจที่ทำให้เราสามารถส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ดี และแตกต่างจากการที่สามารถออกแบบบริการได้อย่างหลากหลาย รวมไปถึงลดข้อจำกัด สร้างความเท่าเทียมให้ลูกค้าและคนไทยสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการคุณภาพของเอไอเอสอย่างสะดวกสบายได้ทั่วประเทศ พร้อมร่วมสร้างการเติบโตให้แก่พาร์ทเนอร์ ที่จะเป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจดิจิทัลในภาพรวมด้วยเช่นกัน

Comments

comments