แดสสอลท์ ซิสเต็มส์ (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) เดินหน้าร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ยุคใหม่ที่ยั่งยืนมากขึ้น ด้วยการนำศักยภาพของประสบการณ์ Virtual Twin มาใช้วางแผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะและโซลูชันการเดินทางในอนาคต
การพัฒนารูปแบบการเดินทางไปสู่ความยั่งยืนเปิดโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและยังช่วยสร้างทักษะแรงงานรวมถึงอาชีพใหม่ ๆ เพื่อรองรับการขยายตัวอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย
พลังงานหมุนเวียน ระบบขนส่งอัจฉริยะและรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีบทบาทสำคัญต่อเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของประเทศไทยและเป็นไปตามวัตถุประสงค์เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 นอกจากนี้ประเทศไทยยังเตรียมขับเคลื่อนเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศถึง 30% ภายในปี ค.ศ. 2030 ภายใต้นโยบาย ‘30@30’
อย่างไรก็ตามการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเมืองเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญของการจัดการระบบขนส่ง โดยในปี ค.ศ. 2050 ประชากรไทยจะเพิ่มขึ้นอีก 11 ล้านคน และ 73% จะอยู่อาศัยในเขตเมือง ซึ่งการขยายตัวของเมืองจะมีอย่างต่อเนื่องตามเทรนด์โลกและก่อให้เกิดความท้าทาย 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ ความพร้อมและความสามารถของโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรับมือสังคมเมืองที่ขยายใหญ่ขึ้น ปัญหาการจราจรที่หนักหน่วงขึ้น และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมหรือมลภาวะที่เพิ่มขึ้น
การจราจรหนาแน่นจากยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ที่เป็นตัวการสำคัญของการปล่อยคาร์บอนและทำให้คุณภาพอากาศในเมืองแย่ลง ทำให้เมืองต่าง ๆ กำลังผลักดันให้เปลี่ยนมาใช้ EV เพื่อลดมลพิษทางอากาศ เนื่องจากการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นอนาคตของการเดินทาง การผลักดัน EV ขับเคลื่อนผู้ผลิตยานยนต์ให้ออกแบบ พัฒนาด้านวิศวกรรมและผลิต EV ให้มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และยั่งยืน
นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทยในการปรับขนาดการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ช่วยเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ พร้อมยังสามารถแข่งขันและดึงดูดผู้ผลิตให้เข้ามาเปิดสายการผลิตในโรงงานในประเทศไทย โดยแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE และประสบการณ์ Virtual Twin ของแดสสอลท์ ซิสเต็มส์ จะช่วยวางแผนด้านโครงสร้างพื้นฐานการเดินทางในเมืองต่าง ๆ ทำให้เมืองน่าอยู่และมีความอัจฉริยะยิ่งขึ้น
นาย อึง อิค ฮอค ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจบริการสาธารณะและเมือง ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใต้ แดสสอลท์ ซิสเต็มส์ กล่าวว่า “ปัจจุบันมีการนำแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE ของแดสสอลท์ ซิสเต็มส์ ไปใช้พัฒนายานพาหนะไฟฟ้าสูงถึง 85% ของโลก โดยผู้ผลิตสามารถเร่งกระบวนการพัฒนาและลดต้นทุนการผลิตในด้านต่าง ๆ ด้วยการสร้างแบบจำลองคู่แฝดเสมือนของรถยนต์และนำไปใช้จำลองการทดสอบสมรรถนะรถยนต์เสมือนจริง นอกจากนี้ผู้ผลิตยังได้รับข้อมูลและความรู้เชิงลึกสำหรับการสร้างที่ยั่งยืนตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ เช่นเดียวกับการทำงานร่วมกันบนแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE ที่ช่วยให้ นักผังเมือง ผู้ให้บริการด้านพลังงานและผู้ผลิตยานยนต์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานของสถานีชาร์จ EV เพื่อตอบสนองความต้องการของเมืองตามปัจจัยสำคัญ อาทิ ระยะทาง จำนวนประชากรและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ โดยเทคโนโลยี Virtual Twins สามารถช่วยวางแผนและประเมินการเข้าถึงสถานีชาร์จ EV ที่ติดตั้งแล้วได้ และเราพร้อมสนับสนุนประเทศไทยบรรลุเป้าหมายอันสูงสุดเพื่อพัฒนาการเดินทางในอนาคตให้เกิดขึ้นจริง”
เขายังอธิบายเพิ่มเติมว่า Virtual Twins สามารถใช้เพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบายผ่านการสร้างโมเดลและการจำลองเสมือนจริง โดยให้ข้อมูลเชิงลึกด้านผลกระทบต่อคุณภาพอากาศจากการเปลี่ยนยานพาหนะ ICE ไปเป็น EV มากขึ้น ขณะที่กำลังมองไปถึงอนาคตการเดินทาง แต่การปรับปรุงและพัฒนาการเดินทาง ณ ปัจจุบันควรดำเนินต่อไป ซึ่งการวางแผนสร้างทางหลวง ถนนหรือเส้นทางจักรยานใหม่ ตลอดจนปรับปรุงความสะดวกสบายของการสัญจรในเมือง รวมถึงการเดินบนทางเท้าแบบไร้สิ่งกีดขวางสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย Virtual Twins”
ล่าสุดบริษัทฯ ยังได้ร่วมนำเสนอเทคโนโลยีและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ในงาน Future Mobility Asia ที่จัดขึ้นระหว่าง 17-19 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://events.3ds.com/future-mobility-asia-2023