ซีเมนส์ประกาศสนับสนุน Digital Transformation สำหรับภาคอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเน้นความยั่งยืน โดยในปีงบประมาณ 2565 ของบริษัทฯ ผลิตภัณฑ์และโซลูชันของซีเมนส์ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึงประมาณ 150 ล้านตัน ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจ ปัญหาการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ทำให้ภาคอุตสาหกรรมมุ่งหน้านำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงปลายทางที่เป็นผู้ประกอบการ โดยสอดรับกับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลัก “Sustainability” เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) 

ด้วยปริมาณประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเครื่องดื่มถือว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งทางด้านการผลิตและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยจากสถิติ30% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลกเกิดจากการผลิตและบรรจุอาหาร(1) และ 70% ของปริมาณน้ำจืดบนโลกถูกใช้โดยอุตสาหกรรมอาหาร(2)  สำหรับประเทศไทยอุตสาหกรรมอาหารรวมถึงเครื่องดื่มยังเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยจากข้อมูลของStatista ระบุ ณ เดือนมีนาคม 2566 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารของประเทศไทยอยู่ใน อันดับที่ 3 (119.17 จุด) รองจากกลุ่มเภสัชภัณฑ์และยาเตรียม (132.28 จุด) และอันดับ 1 คือกลุุ่มเครื่องจักรกลและอุปกรณ์อุตสาหกรรม (142 จุด)

โดยภายในงาน ProPak Asia 2023 ซีเมนส์นำนวัตกรรมและโซลูชันล้ำสมัยที่จะช่วยเร่ง Digital Transformation สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม แบบ End-to-End ช่วยให้สามารถผลิตได้มากขึ้น เร็วขึ้น มีความยืดหยุ่นพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง ในขณะที่ใช้ทรัพยากรน้อยลง และยั่งยืนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เทคโนโลยีและโซลูชันไฮไลท์ของซีเมนส์ที่จัดแสดง ในงาน ProPak Asia 2023 (ณ บูธ N21) ได้แก่  

  • โซลูชันการเกษตรแนวตั้ง (Vertical Farming) พลิกโฉมอุตสาหกรรมการผลิตอาหารสู่ความยั่งยืน ที่สามารถลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ (End-to-End) โดยประหยัดน้ำได้ถึง 95% เทียบกับการทำเกษตรทั่วไป เพิ่มผลผลิตได้มากกว่า 300 เท่าต่อตารางฟุต ลดคาร์บอนฟุตปริ้นตั้งแต่ฟาร์มจนถึงโต๊ะกินข้าวและก่อให้เกิดขยะน้อยกว่า ที่สำคัญใช้พลังงานหมุนเวียน 100% และไม่มียากำจัดศัตรูพืช
  • ซอฟต์แวร์ Opcenter APS สำหรับวางแผนและจัดตารางการผลิต เนื่องด้วยเครื่องมือที่ใช้ในการวางแผนการผลิตในปัจจุบันมีความหลากหลายซึ่งบ่อยครั้งทำให้เกิดความผิดพลาด ทั้งยังยากในการปรับเปลี่ยน ส่งกระทบต่อผลผลิต และการส่งมอบสินค้า ซอฟต์แวร์ OpCenter APSช่วยลดความซับซ้อน เพิ่มผลผลิต ลดปริมาณสินค้าคงคลังลดลง และเพิ่มความสามารถในการส่งมอบสินค้า โดย Opcenter APS สามารถเป็นนวัตกรรมเริ่มต้นสำหรับ Digital Transformation ของทุกองค์กรในภาคการผลิต
  • โซลูชัน Industrial 5G wireless networks ที่ออกแบบสำหรับอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ด้วยการเชื่อมต่อความเร็วสูงที่มีความหน่วงในการส่งข้อมูลต่ำในระดับ 1 มิลลิวินาที มีความเสถียรและปลอดภัยสูง ช่วยรองรับการใช้แอปพลิเคชันอุตสาหกรรม เช่น หุ่นยนต์เคลื่อนที่  (Mobile Robots), การขนส่งอัตโนมัติ (Autonomous Logistics) หรือรถลำเลียงสินค้าที่ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ  (Automated Guided Vehicles or AGVs) และเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ เซ็นเซอร์ และระบบการทำงานทั้ง Information Technology (IT) และ Operation Technology (OT) ให้ลื่นไหลไร้รอยต่อ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ สนับสนุน massive Machine-Type Communications (mMTC) ซึ่งทำให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์ IoT จำนวนมากได้ เพื่อการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น

ซีเมนส์ได้กําหนดเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล (ESG) ไว้ในกรอบกลยุทธ์เฟรมเวิร์ก “DEGREE” เน้นดำเนินการใน 6 ด้าน คือ D – Decarbonization การลดปริมาณคาร์บอน E – Ethics จริยธรรม G – Governance บรรษัทภิบาล R – Resource Efficiency การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ E- Equity ความเสมอภาค และ E- Employability การจ้างงาน ครอบคลุมการดำเนินงานในทุกมิติ และบริษัทฯ พร้อมร่วมผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทยให้เดินหน้าไปสู่ความยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ Thailand 4.0 ด้วยการขับเคลื่อนของเทคโนโลยีและนวัตกรรม 

(1) https://news.un.org/en/story/2021/03/1086822

(2) https://www.fao.org/3/i7959e/i7959e.pdf

 

Comments

comments