ท่ามกลางโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและหมุนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดสิ่งใหม่ๆ มากมาย เด็กไทยยุคดิจิทัล จำเป็นต้องเสริมแกร่งทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้ก้าวทันทุกการเปลี่ยนแปลง การเกิดขึ้นของศูนย์การเรียนรู้ชุมชน หรือ “Learning Center” จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างระบบนิเวศและเสริมกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ริเริ่มขึ้นครั้งแรกจากภาคเอกชน ทรู คอร์ปอเรชั่น ในโครงการคอนเน็กซ์อีดี ตั้งแต่ปี 2560 โดยปัจจุบัน มีศูนย์ Learning Center ทั้งสิ้น 16 แห่ง

สร้างสรรค์ระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเรียนรู้

การส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็น Lifelong Learner ต้องเริ่มจากการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ จุดประกายให้ผู้เรียนเต็มเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ ซึ่งที่ Learning Center นี้ ทรู ได้ออกแบบพื้นที่และตกแต่งห้องเรียนในบรรยากาศที่เอื้อต่อการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ นำเทคโนโลยีไอซีทีและสื่อดิจิทัลมาบูรณาการการเรียนการสอน เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งบทบาทของครู จะกลายเป็น Facilitator ออกแบบการสอนให้ผู้เรียนได้เพิ่มพูนประสบการณ์และสนุกไปกับการเรียนการสอนที่ให้เด็กเป็นศูนย์กลาง ผ่าน 5 กระบวนการที่ให้ผู้เรียนได้ 1. ตั้งคำถาม จากสิ่งที่สนใจ หรือปัญหาที่สร้างผลกระทบต่อสังคม 2. ค้นหาคำตอบ สืบค้นข้อมูลจากหลากหลายช่องทาง ทั้งออนไลน์ หรือลงพื้นที่หาคำตอบและแนวทางแก้ไขปัญหา 3. ลงมือทำร่วมกัน วางแผน ทดลอง และลงมือปฏิบัติจริง พร้อมวิเคราะห์และสรุปผลร่วมกัน 4. อภิปรายด้วยเหตุผล นำเสนอความคิดเห็น และถาม-ตอบข้อสงสัย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยเหตุและผล และ 5. ปรับปรุงพัฒนาต่อเนื่อง จากการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานจริง นอกจากนี้ ยังส่งเสริมกิจกรรมนอกหลักสูตรตามความสนใจ เช่น English Genius Robotics Genius (วิทยาการหุ่นยนต์) และโครงการชวนดูหนัง ฟังภาษา หาแรงบันดาลใจ และสามารถต่อยอดความสนใจนั้นๆ ของเด็ก ไปสู่การปฏิบัติจริง จนเกิดเป็นความมั่นใจในการเรียนรู้อย่างยั่งยืน

เดินหน้าขยายผลต้นแบบโมเดล Learning Center ของทรู

โมเดลแรกที่สร้างขึ้นมา เกิดจากแนวคิดนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ / ประธานกรรมการ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่เห็นความสำคัญการศึกษาเด็กไทย โดยสร้างพื้นที่ให้เหมาะกับการเรียนรู้ วางระบบอินเทอร์เน็ต นำสื่อดิจิทัล และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก พร้อมติดตั้งซอฟต์แวร์คัดกรองและปิดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมต่อเด็กและเยาวชน มอบให้แก่โรงเรียนที่ร่วมโครงการ ซึ่งปัจจุบัน มีศูนย์การเรียนรู้ชุมชนทั่วประเทศจากทรูรวมแล้ว 16 แห่ง สร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่โรงเรียนและชุมชน อีกทั้งยังกลายเป็นต้นแบบโมเดลองค์ความรู้ให้มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี ได้นำไปขยายผลต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบัน มีองค์กรเอกชนและภาครัฐ ร่วมสนับสนุนให้เกิด Learning Center กระจายในโรงเรียนทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้นแล้วกว่า 27 แห่ง ส่งผลให้ผู้เรียนได้คิดค้นหลากหลายโครงการเพื่อพัฒนาโรงเรียนและชุมชน และเปิดโอกาสให้นักเรียนกว่า 5,700 คน ได้รับการพัฒนาให้มีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต

เสียงสะท้อนของการเรียนรู้จาก Learning Center

โรงเรียนบ้านหนองเงือก จ.ลำพูน เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่มีศูนย์ Learning Center ต้นแบบและประสบความสำเร็จจากการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาบูรณาการเข้าในทุกวิชา ในทุกชั้นเรียน ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้แบบเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ทำให้สามารถดึงศักยภาพของนักเรียน จนวันนี้ ทุกคนสามารถทอผ้าฝ้ายและมีทักษะการออกแบบงานประดิษฐ์อย่างโดดเด่น พร้อมยังดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ยิ่งไปกว่านั้น โรงเรียนแห่งนี้ ยังมุ่งส่งเสริมด้านภาษาอังกฤษและโรโบติกส์ (วิทยาการหุ่นยนต์) เพื่อให้นักเรียนนำทักษะไปต่อยอดกับสิ่งที่เรียนรู้อีกด้วย

“Learning Center ทำให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชนอย่างแท้จริง มีเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาซึ่งเหมาะกับการเรียนรู้ที่หลากหลายของนักเรียนตามกระบวนการ Active Learning ทำให้เด็กมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน โดยเฉพาะด้านอาชีพและการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การทอผ้าฝ้ายที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการสร้างหลักสูตรบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนในวิชาต่างๆ เพื่อพัฒนาทั้งผู้เรียนและคนในชุมชนอย่างยั่งยืน” นายเกษม ใจกระเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองเงือก จ.ลำพูน

“ดีใจที่โรงเรียนมีแหล่งเรียนรู้ทันสมัย ได้ทำกิจกรรมต่างๆ และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ฝึกคิดวิเคราะห์และกล้าแสดงออกมากขึ้น ได้เรียนรู้กระบวนการทอผ้าฝ้ายจากผู้รู้ในชุมชน และยังได้ต่อยอดผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าด้วยการนำความรู้ทางเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาสินค้าชุมชน”  ด.ญ.ฐิตาภัสร์ ชุมภูชนะภัย นักเรียนโรงเรียนบ้านหนองเงือก จ.ลำพูน

ทั้งนี้ ทรู ยังคงเดินหน้ายกระดับศูนย์การเรียนรู้ชุมชน พัฒนาให้ Learning Center เป็นพื้นที่การเรียนรู้แบบครบวงจรที่พรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีและสื่อดิจิทัลอันทันสมัย และที่สำคัญเป็นแหล่งแสวงหาความรู้อย่างไร้ขีดจำกัด เพื่อให้ผู้เรียนได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริง อันนำไปสู่การเรียนรู้อย่างมีความสุขและยั่งยืน…ไม่มีที่สิ้นสุด

Comments

comments