ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศชั้นนำของโลก ร่วมกับดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ขยายช่องทางการให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศในประเทศไทย ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มอี สามารถเข้าถึงบริการจัดส่งในประเทศและต่างประเทศไปพร้อมๆ กันได้อย่างราบรื่น ขณะที่ลูกค้ารายย่อยก็มีทางเลือกในการขนส่งมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส และ ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ เป็นหน่วยธุรกิจที่อยู่ภายใต้การดูแลของดีเอชแอล กรุ๊ป โดยดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส (DHL Express) คือผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศชั้นนำของโลกที่เชี่ยวชาญด้านการขนส่งระหว่างประเทศแบบ door-to-door มากกว่า 220 ประเทศทั่วโลก ส่วนดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ (DHL eCommerce) คือผู้นำระดับโลกด้านการให้บริการขนส่งพัสดุภายในประเทศ ครอบคลุมทั้งโซลูชันการรับ จัดส่ง และส่งคืนพัสดุที่ได้มาตรฐานสำหรับลูกค้าธุรกิจและลูกค้ารายย่อยภายในประเทศ บทบาทของทั้งสองบริษัทคือช่วยให้ธุรกิจเติบโตทั้งในและนอกประเทศ
ความร่วมมือกับดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซครั้งนี้ทำให้ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส สามารถใช้เครือข่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศของดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ พร้อมความรู้ความเชี่ยวชาญของพนักงาน เพื่อให้ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส สามารถเพิ่มจุดบริการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศและยกระดับประสบการณ์ลูกค้าที่ราบรื่นมากขึ้น โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป จะเริ่มให้บริการที่จุดบริการดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ 5 สาขาในระยะแรก และภายในสิ้นปีนี้ ลูกค้าดีเอชแอลจะสามารถเข้าถึงบริการส่งด่วนระหว่างประเทศที่จุดบริการดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซได้เพิ่มเป็น 20 สาขา ทำให้ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสมีจุดบริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 55 สาขาในประเทศไทย
จุดบริการดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ที่ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ 5 สาขาแรก ตั้งอยู่ที่ ถนนประชาชื่น กรุงเทพมหานคร, บางใหญ่ นนทบุรี, ติวานนท์ นนทบุรี, เทพารักษ์ สมุทรปราการ, และกระทุ่มแบน สมุทรสาคร โดยจะเปิดให้บริการทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ และมีเวลาเปิดทำการต่างกันไปแต่ละสาขา
ท่ามกลางความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของการขนส่งข้ามพรมแดน มีการคาดว่าธุรกิจไลฟ์สดและการค้าขายระหว่างประเทศจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในไทยได้ถึง 13% ในปี 2566[1] และคาดว่าอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2573[2] การคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสสำคัญสำหรับเอสเอ็มอีไทยในการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดโลกมากขึ้น
ความร่วมมือระหว่างดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส และดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจเอสเอ็มอี การขยายการเข้าถึงบริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศจะช่วยให้เอสเอ็มอีในประเทศไทยคว้าโอกาสเติบโตจากการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ลูกค้าดีเอชแอลยังจะได้รับสิทธิพิเศษในการใช้บริการจัดส่งแบบ On-Demand Delivery (ODD) ของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ODD เป็นพอร์ทัลออนไลน์ที่ผู้ส่งของไปต่างประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงตารางการขนส่งให้เหมาะกับความต้องการของผู้รับได้ เช่น ผู้รับสามารถขอให้จัดส่งไปยังที่อยู่อื่นในวันที่กำหนด หรือเปลี่ยนวันและเวลาจัดส่งสินค้าได้
เฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยและหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “ความร่วมมือกับหน่วยธุรกิจพี่น้องอย่างดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ เพื่อการขยายช่องทางสำหรับการจัดส่งสินค้า (First-mile delivery) ในประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญในการช่วยให้ลูกค้าที่ต้องการส่งของไปต่างประเทศเข้าถึงบริการของเราได้ง่ายยิ่งขึ้น เราเชื่อว่าวิธีการนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้เอสเอ็มอีในไทยได้ขยายธุรกิจและเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ ทั่วโลก ความร่วมมือในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพระดับโลกให้แก่ลูกค้าของเรา”
เกียรติชัย พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้ร่วมมือกับดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เพื่อสนับสนุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศของไทยที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการผสานรวมความมุ่งมั่นของเราในการให้บริการจัดส่งในประเทศเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ระดับโลกของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เราสามารถช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มอีในไทยจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าทั่วโลกได้อย่างไร้อุปสรรคและมีประสิทธิภาพ เราพร้อมที่จะทำงานร่วมกับดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีและบุคคลทั่วไปสามารถเริ่มต้นเส้นทางการจัดส่งสินค้าที่ราบรื่น และขยายธุรกิจไปสู่ตลาดระดับโลก”
เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย นอกจากการเพิ่มจำนวนจุดบริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ บริษัทแจกส่วนลดพิเศษมากถึง 60%* สำหรับการส่งของไปต่างประเทศผ่านระบบออนไลน์ เพียงใส่โค้ด “DHL50TH20” เมื่อทำรายการในเว็บไซต์ MyDHL+ หรือคลิกลิงก์ https://bit.ly/DHL50thPR ภายใน 31 สิงหาคม 2566 นี้เท่านั้น