จากรูป (ซ้ายไปขวา): นายสุนาถ ธนสารอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แรบบิทส์ เทล จํากัด โทมัส มูริตเซน ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Accenture Song และนางสาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย
เอคเซนเชอร์ (NYSE: ACN) บรรลุข้อตกลงครั้งสำคัญในการเข้าซื้อกิจการแรบบิทส์ เทล ครีเอทีฟและ DCX (digital customer experience) เอเจนซีสัญชาติไทย เสริมขีดความสามารถด้านครีเอทีฟ แบรนด์ และดาต้าในระดับภูมิภาคของ Accenture Song ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจครีเอทีฟที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ส่งผลให้สามารถสนับสนุนลูกค้าของกลุ่มในการพัฒนาและยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลได้เต็มศักยภาพครอบคลุมตลอดทุกช่วงชีวิตของลูกค้า พร้อมผลักดันการเติบโตของธุรกิจในประเทศไทย
แรบบิทส์ เทล ถือเป็นหนึ่งในเอเจนซีโฆษณาที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงที่สุดของไทย รวมทั้งได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 เอเจนซียอดเยี่ยมประจําปี 2022 จากงาน Adman Awards จัดโดยสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย จึงมั่นใจได้ว่า  แรบบิทส์ เทล จะมาพร้อมกับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ทรงพลัง ขับเคลื่อนดิจิทัลคอนเทนต์ และใช้ข้อมูลในการสร้างประสบการณ์ (data-driven experiences) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผลงานการพัฒนาแบรนด์ดังที่ทรงอิทธิพลระดับโลกมาแล้ว ครอบคลุมกลุ่มสินค้าและบริการด้านอุปโภคบริโภค ยานยนต์ การสื่อสารและมีเดีย บริการทางการเงิน และธุรกิจดิจิทัลและเทคโนโลยี ได้แก่ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า กลุ่มซีพี อายิโนะโมะโต๊ะ ดอยคำ GQ Apparel อีเลคโทรลักซ์  นีโอ คอร์ปอเรท และ ธนาคารไทยพาณิชย์
แรบบิทส์ เทล จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านครีเอทีฟ แบรนด์ และดาต้าของ Accenture Song ในประเทศไทยและภูมิภาค
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ จะช่วยให้ธุรกิจก้าวทันไปกับการปรับเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลเพื่อสร้างความแตกต่างและโดดเด่นให้กับแบรนด์ พร้อมดึงลูกค้าให้เข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสามตลาดหลักในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เอคเซนเชอร์ให้ความสำคัญ เป็นตลาดที่มียอดค่าใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลเพิ่มขึ้น 9.12% จากปี 2564 เป็น 3,600 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2565
โทมัส มูริตเซน ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Accenture Song กล่าวว่า “ความคาดหวังของทั้งผู้บริโภคและพนักงานได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ธุรกิจต่างๆ จึงต้องแสวงหาพันธมิตรที่มีความพร้อมทั้งด้านขนาดและทักษะในการสร้างการมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์ที่แตกต่างและเต็มไปด้วยพลัง นอกจากนี้ องค์กรธุรกิจยังมองหาโซลูชันที่สร้างสรรค์และแนวทางการพลิกโฉมองค์กรเพื่อการเติบโตในอนาคต ซึ่งแรบบิทส์ เทล จะเป็นอาวุธสำคัญ ในการเสริมศักยภาพของ Accenture Song ในระดับภูมิภาค นำมาซึ่งความเป็นเลิศในตลาดและกลยุทธ์ธุรกิจ
การนำพลังของข้อมูล นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังตอกย้ำความมุ่งมั่นของเอคเซนเชอร์ในการลงทุนอย่างต่อเนื่องและพันธสัญญาที่มีต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทจึงพัฒนาบริการอยู่เสมอ ยกระดับขีดความสามารถ และขยายฐานความเชี่ยวชาญ ที่จะช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรม ตลอดการเดินทางเพื่อสร้างแบรนด์ ทำการตลาด และการปรับโฉมประสบการณ์ใหม่”
นางสาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเอคเซนเชอร์ ประเทศไทย ในการสนับสนุนธุรกิจไทยและส่งเสริมผู้เชี่ยวชาญในประเทศให้สามารถสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่มีความหมายและเฉพาะบุคคลในเชิงลึก ตอบสนองความต้องการและความชอบที่เฉพาะเจาะจงของตลาดในประเทศ เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาหลอมรวมกับความคิดสร้างสรรค์ จะเป็นพลังให้ธุรกิจมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและพนักงานได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้แบรนด์มีความแตกต่างและโดดเด่น ลูกค้ามีความพึงพอใจและภักดีกับแบรนด์มากขึ้น ซึ่งบุคลากรที่มากความสามารถและความเชี่ยวชาญของแรบบิทส์ เทล จะช่วย
เสริมแกร่งให้กับเอคเซนเชอร์ในตลาดไทย ทำให้บริษัทมีความพร้อมที่จะสนับสนุนภาคเอกชนของไทยให้เติบโต ด้วยโซลูชันพิเศษเฉพาะตัวที่สามารถรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนได้ เมื่อบุคลากรที่มากความสามารถมาผนวกกับความเชี่ยวชาญ จะเป็นแรงผลักดันให้ไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในภูมิภาคนี้ได้ในที่สุด”
แรบบิทส์ เทล ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 โดยนำเสนอโซลูชัน DCX ที่ตอบโจทย์ทุกมิติ ตั้งแต่ประสบการณ์ค้าปลีก การบริหารจัดการด้านลูกค้าสัมพันธ์ และโปรแกรมสร้างความภักดี การตลาดเชิงลึกเฉพาะบุคคล (hyper-personalized marketing) ไปจนถึงการออกแบบประสบการณ์ และการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล ทีมงานของแรบบิทส์ เทล ซึ่งประกอบด้วยพนักงานราว 120 คนในกลุ่มธุรกิจ Advertising, Data & Interactive และ Customer Experience (CX) จะเข้ามาร่วมงานกับ Accenture Song ในประเทศไทย ต่อยอดขีดความสามารถระดับโลกของเอคเซนเชอร์ในด้านกลยุทธ์ การออกแบบ ประสิทธิภาพ เทคโนโลยี และการดำเนินงานในโครงการขนาดใหญ่ ช่วยให้ลูกค้าเดินไปบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงและพลิกโฉมให้สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายสุนาถ ธนสารอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แรบบิทส์ เทล จํากัด กล่าวว่า “การนำความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่มาผนวกกับเทคโนโลยีก้าวล้ำ เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้า ถือเป็นปณิธานของเรามาโดยตลอด บริษัทจึงตื่นเต้นยินดีกับบทใหม่ในการเติบโตไปกับ Accenture Song ซึ่งถือเป็นผู้นําอุตสาหกรรมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นตัวนำ พร้อมกับการมีข้อมูลและเทคโนโลยีรองรับ และมีบทบาทในการช่วยธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ ยกระดับและวางมาตรฐานใหม่ขึ้นมา”
ฟลาวิอาโน ฟาเลย์โร ประธานกลุ่มธุรกิจ Growth Markets ของ Accenture Song กล่าวว่า “แผนการเข้าซื้อกิจการแรบบิทส์ เทล ตอบโจทย์กลยุทธ์ของเราในการสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถสร้างโรดแมปใหม่เพื่อต่อยอดการเติบโตได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์ พร้อมกับมีเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่ง 97% ของผู้บริหาร C-suite ให้ความเห็นว่า การเร่งปรับองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (digital transformation) ช่วยให้ก้าวทันยุคได้เท่านั้น แต่ไม่นำไปสู่การเติบโตขององค์กร หรือทำให้รู้ใจและใกล้ชิดกับลูกค้า (customer relevance) มากขึ้น ดังนั้น ขีดความสามารถของแรบบิทส์ เทลในด้านครีเอทีฟและ DCX (digital customer experience) จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้บริษั
สามารถพัฒนาและปรับสเกลโซลูชันด้านครีเอทีฟและ DCX ในตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงได้ และจะช่วยเสริมศักยภาพความเป็นเลิศในตลาดของ Accenture Song ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น สามารถดำเนินกลยุทธ์ที่เน้นการตอบโจทย์ชีวิต (life-centric approach) เพื่อเข้าถึงลูกค้าของบริษัทได้มากยิ่งขึ้น เท่าทันความต้องการและการจัดลำดับความสําคัญของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ต่อยอดให้เกิดการเติบโตในระยะยาว ยกระดับแบรนด์ให้โดดเด่นและรู้ใจผู้บริโภคมากขึ้น ทั้งตัวแบรนด์ ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ”
ข้อตกลงกับแรบบิทส์ เทล นับเป็นการเข้าซื้อกิจการครั้งที่สามของ Accenture Song ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่ได้เข้าซื้อ Romp และ Entropia เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการช่วยให้ลูกค้าเติบโต พัฒนานวัตกรรม และรักษาบทบาทที่สำคัญในตลาดเอาไว้ได้ สำหรับการเข้าซื้อกิจการอื่นๆ ในระดับโลก ได้แก่ ConcentricLife, Fiftyfive5 และ The Stable
หมายเหตุ: บริษัท Zero Publishing และบริษัท Rabbit’s Tale Public Relations มิได้อยู่ในธุรกรรมการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ และจะดําเนินธุรกิจโดยอิสระต่อไป โดยบริษัท Rabbit’s Tale Public Relations จะรีแบรนด์ใหม่ในชื่อบริษัท Moonshot Digital
ทั้งนี้ ยังมิได้มีการเปิดเผยข้อกำหนดต่างๆ ในธุรกรรม การเข้าซื้อกิจการจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการปิดธุรกรรมตามที่ได้ตกลงกัน

Comments

comments