ซัมซุงยังคงสร้างนิยามใหม่ของความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในกลุ่มทีวีได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยทีวียุคใหม่ “Samsung AI TV” พาอุตสาหกรรมทีวีของโลกก้าวเข้าสู่ยุคแห่ง AI สร้างปรากฏการณ์ว้าวได้อีกด้วยกองทัพ AI TV ที่จะเปิดตัวในประเทศไทยปีนี้กว่า 6 ไลน์อัป ย้ำตำแหน่งผู้นำเครื่องใช้ไฟฟ้า AI ตัวจริงครบทุกหมวด

เซยุน คิม ประธานบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าว ซัมซุงเป็นผู้นำอันดับ 1ตลาดทีวีทั่วโลกมากว่า 18 ปี ด้วยการ      ไม่หยุดยั้งในการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่ผสานรวมฟีเจอร์อัจฉริยะเข้ากับทีวี ด้วยความเป็นผู้นำที่ไม่มีใครเทียบได้ในอุตสาหกรรมทีวีนี้ ซัมซุงจะพาทุกท่านเปิดประตูสู่มิติใหม่แห่งภาพและเสียง โดยปลดล็อคประสบการณ์ความบันเทิงภายในบ้านไปอีกขั้น ด้วยการนำ AI TV มาปฏิวัติการรับชมทีวีแบบเดิมๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่มอบประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคด้วย”

“ในปี 2566 ซัมซุงครองส่วนแบ่งตลาด 30.1% ของตลาดทีวีทั่วโลก ซึ่งเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมนี้มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2549 ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลมาจากกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นทีวีในกลุ่มพรีเมียมและจอขนาดใหญ่ โดยขับเคลื่อนด้วย QLED TV และ OLED TV สุดล้ำ” นายชวพจน์ เทียนทอง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจภาพและเสียงกล่าว “ซึ่งหากนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2560 ไลน์อัป QLED TV ของซัมซุง รวมถึง Neo QLED รุ่นล่าสุด มียอดขายสะสมทั่วโลกกว่า 40 ล้านเครื่อง โดยเฉพาะในปี 2566 เพียงปีเดียว ทีวีในไลน์อัป QLED มียอดขายอยู่ที่ 8.31 ล้านเครื่อง ซึ่งจากความสำเร็จในตลาดทีวีจอใหญ่พิเศษและทีวีระดับไฮเอนด์นี้ ซัมซุงได้สร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญในกลุ่ม OLED โดยไลน์อัป OLED มียอดขาย 1.01 ล้านเครื่อง ในปี 2566 สำหรับในประเทศไทย ปีที่ผ่านมา    ซัมซุงมียอดขายทีวีเติบโตกว่าตลาดรวมถึง 8% โดยมีทีวีจอใหญ่ขนาด 75 นิ้วขึ้นไปและทีวีพรีเมียมเป็นตัวผลักดัน ความสำเร็จเหล่านี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของซัมซุง ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีสุดล้ำเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลายและครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน และในปีนี้ซัมซุงจะฉายภาพความเป็นผู้นำอีกครั้งด้วยการพาทุกคนเข้าสู่ยุคใหม่ของ Samsung AI TV

สำหรับไลน์อัป Samsung AI TV ที่ซัมซุงได้เปิดตัวแบบจัดเต็มในปีนี้ ได้แก่ Neo QLED 8K, Neo QLED 4K, Samsung OLED, Micro LED, Lifestyle TV และ Sound Device เพื่อมอบทางเลือกที่มากขึ้นให้กับผู้บริโภคให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความต้องการที่หลากหลาย ไลน์อัปที่ครอบคลุมนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของซัมซุงในด้านนวัตกรรมและแนวทางที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

Neo QLED 8K ถือเป็นแฟลกชิพของของซัมซุง มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ NQ8 AI Gen3 ที่ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญของ AI TV เพราะโปรเซสเซอร์นี้มีหน่วยประมวลผลที่รวดเร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่า ด้วยระบบประมวลผลที่เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 8 เท่า จาก 64 เป็น 512 ส่งผลให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ภาพที่ยอดเยี่ยม เต็มเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดที่คมชัดสมจริงไม่ว่าจะรับชมคอนเทนต์ใดก็ตาม เพราะนอกจากนั้นยังมีสุดยอดเทคโนโลยี AI Upscaling ที่จะอัปเกรดคอนเทนต์ให้คมชัดใกล้เคียง 8K มากที่สุด AI Motion Enhancer ช่วยจับภาพที่เคลื่อนไหวเร็วไม่ให้แตกหรือขาดหาย และยังมี Real Depth Enhancer ที่สามารถเพิ่มเลเยอร์ความลึกให้เหมือนจริง แยกฉากหน้าและฉากหลังให้ภาพมีมิติมากขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์ด้านเสียงที่แม่นยำแบบไร้ที่ติด้วย AI Active Voice Amplifier ที่มีความเป็นเลิศในการแยกเสียงบทสนทนาออกจากเสียงรบกวนรอบข้าง โดยมี Object Tracking Sound ช่วยซิงค์เสียงกับคอนเทนต์บนหน้าจอเพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมที่เต็มไปด้วยพลังและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น และมี Adaptive Sound ช่วยปรับปรุงเสียงให้ดียิ่งขึ้นโดยการปรับเสียงให้เข้ากับคอนเทนต์และเสียงภายในห้องอย่างชาญฉลาด เพื่อให้ได้เสียงที่เต็มอิ่มและสมจริง พร้อมจำหน่ายตั้งแต่สัดส่วนหน้าจอขนาด 65, 75 และ 85 นิ้ว ไลน์อัป Neo QLED 8K ยืนยันในการมอบประสบการณ์การรับชมที่เหนือชั้น พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ในกลุ่มทีวีสัดส่วนหน้าจอขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม

ซัมซุงยังมีไลน์อัป Neo QLED 4K ปี 2024 ยกระดับประสบการณ์การรับชมด้วยฟีเจอร์สุดล้ำที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ NQ4 AI Gen2 ชิปตัวนี้จะถ่ายทอดความมีชีวิตชีวาให้ทุกคอนเทนต์ ด้วยความละเอียด 4K ที่น่าทึ่ง และยังมีการเสริมประสิทธิภาพด้วย Real Depth Enhancer และ Quantum Matrix Technology หน้าจอจึงมีความ              คอนทราสต์ที่สมบูรณ์แบบแม้ในฉากที่ซับซ้อน เพราะหน้าจอได้รับการตรวจสอบความถูกต้องของสีระดับPantone Validated เป็นรายแรกของโลก และมี Dolby Atmos เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์เสียงสุดดื่มด่ำ Neo QLED 4K ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับประสบการณ์ 4K ขั้นสูงสุด พร้อมจำหน่ายในขนาดตั้งแต่ 43 ถึง 98 นิ้ว เพื่อรองรับสภาพแวดล้อมการรับชมที่หลากหลาย

นอกจากนั้น ซัมซุงยังได้เปิดตัว OLED Glare-Free เป็นรายแรกของโลกที่มีการลดการสะท้อนแสงออก พร้อมรักษาความดำเข้มเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดแม้จะอยู่ภายใต้สภาพแสงใดก็ตาม OLED TV ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ NQ4 AI Gen2 ที่ทรงพลัง มาพร้อมกับฟีเจอร์อย่าง Real Depth Enhancer และ OLED HDR Pro ยกระดับคุณภาพของภาพไปอีกขั้นและยังเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมด้วยฟีเจอร์ Motion Xcelerator 144Hz ที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวไหลลื่นและมีอัตราการตอบสนองที่รวดเร็ว เสริมด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ช่วยยกระดับพื้นที่รับชมให้เหนือระดับยิ่งขึ้น มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 48 ถึง 83 นิ้ว ลงตัวสำหรับทุกห้อง

Q-Series Soundbar รุ่นล่าสุด มีระบบการติดตั้งแบบ 11.1.4-channel พร้อม Wireless Dolby Atmos มาพร้อมกับฟีเจอร์มากมายที่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่องของซัมซุงในฐานะแบรนด์ซาวด์บาร์ที่ขายดีที่สุดในโลกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดดเด่นด้วยนวัตกรรมอย่าง Sound Grouping ที่ช่วยมอบเสียงที่กระหึ่มไปทั่วห้อง และมีตัวเลือกสำหรับการฟังแบบส่วนตัวที่ช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับคอนเทนต์ได้ด้วยลำโพงด้านหลังแบบที่ไม่รบกวนผู้อื่น

ในขณะเดียวกัน ซาวด์บาร์ S800D และ S700D มาด้วยดีไซน์บางเฉียบที่มอบคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมได้อย่างเหลือเชื่อ ช่วยประหยัดพื้นที่ได้แบบดีเยี่ยม ซาวด์บาร์ของซัมซุงทุกรุ่นยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีเสียงขั้นสูงอย่าง Q-Symphony ซึ่งรวมทีวีและซาวด์บาร์เข้าด้วยกันอย่างราบรื่นเพื่อประสบการณ์เสียงที่ประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ

และซัมซุงยังได้เปิดตัว Music Frame ใหม่ล่าสุด ผสมผสานเสียงระดับพรีเมียมเข้ากับดีไซน์เชิงศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก  The Frame ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงภาพงานศิลปะในขณะที่เพลิดเพลินกับเสียงเพลงไร้สายจากฟีเจอร์อัจฉริยะ ไม่ว่าจะใช้เป็นอุปกรณ์แบบสแตนด์อโลนหรือจับคู่กับทีวีและซาวด์บาร์ Music Frame ก็จะยกระดับประสบการณ์เสียงให้เข้ากับทุกพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

ไลน์อัปผลิตภัณฑ์ปี 2567 พร้อมยกระดับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เพียงแค่นำสมาร์ทโฟนไปวางใกล้ๆ ทีวีเพื่อเปิดใช้ Smart Mobile Connect ฟีเจอร์นี้จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นรีโมตคอนโทรลสุดล้ำในการควบคุมทีวีและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถใช้สมาร์ทโฟนเป็นจอยควบคุมเกมได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับอินเทอร์เฟซที่ปรับแต่งได้ และระบบตอบสนองแบบสัมผัสที่จะมอบความสะดวกสบายและยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมเพียงปลายนิ้ว

นอกจากนี้ซัมซุงยังมีนวัตกรรมที่สามารถเชื่อมต่อภายในอีโคซิสเต็มอัจฉริยะได้อย่างไร้รอยต่อผ่าน SmartThings ระบบจะจดจำและเชื่อมต่อกับเครือข่ายและอุปกรณ์ที่มีอยู่โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อื่นๆ ของซัมซุง เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์อื่นหรืออุปกรณ์ IoT พร้อมแจ้งเตือนผ่านสมาร์ทโฟน และยังมีฟีเจอร์สุดล้ำที่สามารถปรับแต่งได้อย่างตรงใจ สามารถเปลี่ยนหน้าจอให้กลายเป็นศูนย์กลางสำหรับทุกความต้องการ โดยควบคุมทุกอย่างได้โดยตรงจากหน้าจอ ตั้งแต่ระบบไฟไปจนถึงเซ็นเซอร์รักษาความปลอดภัยของบ้าน

เพื่อเป็นการเน้นย้ำในเรื่องของความยั่งยืน ซัมซุงยังมี AI Energy Mode ที่สามารถเซฟค่าไฟได้มากขึ้นถึง 30% แบบที่ไม่กระทบต่อคุณภาพของภาพ พร้อมรีโมตโซลาร์เซลล์ และมี AI ที่สามารถเรียนรู้และปรับตามความต้องการของผู้ใช้ได้ อาทิ AI Auto Game Mode ที่จะเริ่มทำงานระหว่างเล่นเกม ช่วยปรับภาพและเสียงให้เหมาะสมเพื่อการเล่นเกมที่ดื่มด่ำมากยิ่งขึ้นAI Customization Mode จะปรับภาพแต่ละฉากตามความต้องการของผู้ใช้ สุดท้ายคือเรื่องของความปลอดภัยเพราะทีวีถือเป็นเซ็นเตอร์ของบ้านในการเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดของบ้าน เพราะฉะนั้น ทุกๆ พาสเวิร์ดจะได้รับการปกป้องไม่ให้โดนแฮคได้ง่ายจากระบบการรักษาความปลอดภัยอย่าง Knox Security ที่ทำให้ซัมซุงต่างจากคู่แข่งโดยสิ้นเชิง เพราะความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญของซัมซุง เส้นทางการพัฒนาของทีวีซัมซุงนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในทุกด้านของผู้บริโภคอย่างครอบคลุมและยังทำให้ซัมซุงคงตำแหน่งผู้นำอันดับ1 ในอุตสาหกรรมนี้มาอย่างยาวนาน

สัมผัสสุดยอดนวัตกรรม Samsung AI TV ได้ที่งาน Unbox & Discovery 2024 ณ เซ็นทรัลเวิร์ล ชั้น 1 eden zOne ตั้งแต่วันที่ 19 – 21 เมษายน 2567 พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษเมื่อสั่งพรีออเดอร์ภายใน 19 เมษายน – 4 พฤษภาคม รับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ ต่อที่ 1 ลดทันที2,000 บาท เฉพาะผู้ลงทะเบียน และสั่งซื้อล่วงหน้า ต่อที่ 2 ลุ้นชิงตั๋วเครื่องบินไปเบอร์ลินและปารีส รวมมูลค่าของรางวัลกว่า 1,000,000 บาท ต่อที่ 3 ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน

Comments

comments