นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกับ ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดีอี นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการสายงานกิจการโทรคมนาคม คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และนายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ประธานผู้บริหาร Legal , Compliance & Finance crime ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย ร่วมแถลงข่าวมาตรการตรวจสอบซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือที่ผูกกับบัญชีธนาคาร หรือ “โมบายแบงก์กิ้ง”
นายประเสริฐฯ กล่าวว่า จากกรณีที่ประชาชนมีความกังวล และเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องมาตรการตรวจสอบซิมการ์ดที่ผูกกับโมบายแบงก์กิ้งนั้น เพื่อป้องกันความสับสนและมีความเข้าใจในมาตรการดังกล่าว กระทรวงดีอีและหน่วยงานพันธมิตรขอชี้แจงว่า การดำเนินการตรวจสอบโมบายแบงก์กิ้งนั้น เป็นไปตามมาตรการกวาดล้างซิมม้า และบัญชีม้า เพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยจะมีการดำเนินการดังต่อไปนี้
1.ดำเนินการกวาดล้างซิมม้าต้องสงสัย ที่มีการแจ้งความผ่าน AOC 1441 แล้ว โดยการปิดกั้นซิมโทรศัพท์มือถือที่เข้าข่ายการกระทำความผิด เดือนละ 15,000 ซิม หรือสัปดาห์ละ 4,000 ซิม
2. การตรวจสอบรายชื่อลงทะเบียนใช้งานหมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกกับบัญชีธนาคาร Mobile Banking จำนวน 106 ล้านหมายเลข โดยเริ่มกระบวนการตรวจสอบ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 และจะใช้เวลาตรวจสอบ 120 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ตุลาคม 2567 ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบรายชื่อลงทะเบียนซิมว่าตรงกับโมบายแบงก์กิ้งของตัวเอง ผ่าน *179*กดเลขบัตรประจำตัวบัตรประชาชน 13 หลัก กด # กดโทรออก โดยหากพบว่ารายชื่อไม่ตรงกับโมบายแบงก์กิ้ง สามารถแสดงหลักฐานเพื่อยืนยันตัวตนผ่านศูนย์บริการของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่
ทั้งนี้ยกเว้นกลุ่มประชาชน ใน 4 กลุ่มได้แก่ (1) บุคคลในครอบครัว (2) ผู้อนุบาลตามคำสั่งศาล (3) นิติบุคคล (4) และอื่นๆ ที่ธนาคารเห็นว่ามีเหตุอันควรในการใช้ชื่อไม่ตรงกันกับบัญชี ซึ่งกลุ่มนี้ธนาคารจะมีการแจ้งเตือนการยืนยันตัวตนผ่านระบบโมบายแบงก์กิ้งของแต่ละบัญชีเท่านั้น โดยไม่มีการแจ้งเตือนผ่านการส่งข้อความ SMS ปกติ
3. การกำหนดมาตรการและเงื่อนไขการเปิดบัญชีใหม่ เพื่อป้องกันการนำไปกระทำความผิดโดยเพิ่มกระบวนการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง Customer Due Diligence หรือ CDD โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยง ธนาคารต้องตรวจสอบให้เคร่งครัดมากขึ้นก่อนอนุมัติเปิดบัญชี โดยทาง ธปท.จะมีการออกประกาศภายในเดือนมิถุนายน 2567 ซึ่งปัจจุบันบางธนาคารได้มีการดำเนินการแล้ว
“ขอให้ประชาชนอย่ากังวล หรือตื่นตระหนกต่อกรณีดังกล่าว โดย กระทรวงดีอี , ปปง. , กสทช., สมาคมธนาคารและผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีความจริงจังต่อการดำเนินการตามมาตรการนี้ ซึ่งเป็นการตัดตอนวงจรการกระทำความผิดของมิจฉาชีพ โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชน และขอยืนยันว่ามาตรการนี้จะไม่มีผลกระทบต่อประชาชนอย่างแน่นอน” นายประเสริฐฯ กล่าว