LVMH Group ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงระดับโลก และ AlibabaGroup บริษัทด้านเทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซชั้นนำของประเทศจีน ประกาศขยายความร่วมมือเพื่อมอบประสบการณ์ความหรูหราให้ลูกค้าในประเทศจีนอย่างไร้ขีดจำกัด โดยใช้เทคโนโลยีของ Alibaba Cloud ผ่านพลังจากนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI กับการค้าปลีกและการขายออนไลน์บน Tmall
ความร่วมมือที่แนบแน่นครั้งนี้นับเป็นความมุ่งมั่นแรงกล้าของสองบริษัทในการบุกเบิกนวัตกรรมด้านค้าปลีกและมอบประสบการณ์แห่งความหรูหราสุดพิเศษที่มีเทคโนโลยีขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลังให้ลูกค้า ทั้งยังช่วยให้ LVMHเพิ่มช่องทางการขายแบบ omnichannel มีข้อมูลผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และเป็นผู้นำในวงการนี้ในประเทศจีน
Stephane Bianchi กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท LVMH กล่าวว่า “Alibaba เป็นพันธมิตรสำคัญของ Maisons และกลุ่มบริษัทของเราอยู่แล้ว การกระชับความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้การทำธุรกิจผ่านช่องทางomni-channel ของเราเติบโตเร็วขึ้น และให้เราได้ใช้ความสามารถของคลาวด์และ AI ที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงความเชี่ยวชาญระดับโลกด้านอีคอมเมิร์ซของ Alibaba ความร่วมมือนี้มองไปถึงการมอบประสบการณ์เหนือขีดจำกัดให้กับลูกค้าของเราตลอด เส้นทางการช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์”
Eddie Wu ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Alibaba Group กล่าวว่า “Alibaba ยินดีที่ได้ร่วมกับผู้นำด้านค้าปลีก LVMH สร้างการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การจับจ่ายซื้อของระดับไฮเอนด์ ด้วยเทคโนโลยี คลาวด์คอมพิวติ้งและ AI ประสิทธิภาพระดับโลกของบริษัทฯ ความร่วมมือนี้ยกระดับประสบการณ์ด้านค้าปลีกให้กับลูกค้าของ LVMH ทั่วโลก รวมถึงผู้บริโภคที่อยู่ในประเทศจีนที่ซื้อหาสินค้าบน Tmall เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้สร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งและเดินร่วมกับ LVMH บนเส้นทางแห่งนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง”
LVMH แสวงหานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องและได้เริ่มนำความสามารถด้าน generative AI ของ Alibaba Cloudซึ่งรวมถึง Qwen โมเดลด้านภาษาขนาดใหญ่ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Alibaba และ Model Studio (Bailian) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการสร้างโมเดล AI ที่ครบวงจรมาใช้ การผสานพลังครั้งนี้เป็นการวางแนวทางสู่การสร้างสรรค์แอปพลิเคชันและบริการใหม่ ๆ ที่โดดเด่น ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์หรู Maison ที่ต้องการคงความเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อยกระดับการนำเสนอสินค้าแบรนด์หรูให้กับลูกค้าทั่วโลก และส่งเสริมการเติบโตที่ใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนให้กับธุรกิจค้าปลีกของบริษัทฯ ทั่วโลก
ในประเทศจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมถึง Sephora APAC และ DFS) มี Maisons และแผนกต่าง ๆ มากกว่า 30 แห่ง การขยายความร่วมมือเพิ่มขึ้นอีกห้าปีนี้ สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นที่แรงกล้าร่วมกันในการสำรวจตลาด ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะทำให้จากนี้ไป LVMH จะเข้าถึงเทคโนโลยีชั้นนำและผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วของ Alibaba Cloud ได้มากขึ้น เพื่อนำไปเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจ มีข้อมูลเชิงลึกของลูกค้ามากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพให้กระบวนการจัดการด้านซ้พพลายเชนให้ตอบโจทย์ตลาดจีน
ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมสองประเภทนี้เริ่มขึ้นในปี 2562 นับจากนั้นมา LVMH ใช้ Dataphin ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการดาต้าของ Alibaba Cloud เพื่อขับเคลื่อน “LVMH ATOM” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ LVMH ออกแบบเองอย่างเจาะจงให้เหมาะกับความต้องการของฐานลูกค้าชาวจีนที่กำลังขยายตัว นอกจากนี้ LVMH ยังใช้ PAI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแมชชีนเลิร์นนิ่งของ Alibaba Cloud เพื่อพัฒนาบริการต่าง ๆ ที่สามารถปรับแต่งให้ตอบสนองรสนิยมที่แตกต่างกันของผู้บริโภคชาวจีน และใช้ได้กับทุกแบรนด์ของกลุ่มบริษัท
การประกาศขยายความร่วมมือระดับโลกในครั้งนี้ เกิดหลังจากการเปิดตัวการค้าปลีกผลิตภัณฑ์หรูของ Tiffanyและ Chaumet บน Tmall ปัจจุบัน LVMH ประสบความสำเร็จในการประสบความสำเร็จในการเปิดตัวMaisons ประมาณ 30 แห่งที่เป็นพันธมิตรกับ Tmall Luxury Pavilion เพื่อใช้ความสามารถดิจิทัลด้านต่าง ๆ ของ Alibaba มาใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดึงดูดใจ เช่น การแสดงผลิตภัณฑ์แบบ 3 มิติ การทดลองใช้งานเสมือนจริง และการสตรีมสด บริษัททั้งสองแห่งยังได้ขยายความร่วมมือเกี่ยวกับ omni-retail หลากหลายรายการ รวมถึง การสร้างสถานที่หรูหรามีชื่อเสียงในรูปแบบดิจิทัล การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ โปรแกรมสมาชิกต่าง ๆ และให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล กลยุทธ์นี้ช่วยขยายประสบการณ์ความหรูของ LVMH ไปสู่นักช้อปชาวจีนหลายล้านคน