สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับมือ บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัดจัดประชุมหารือในหัวข้อ “สถานการณ์ภัยคุกคามทาง ไซเบอร์ในประเทศไทย” และหาแนวทางร่วมมือด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัย พร้อมยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ คุมเข้มกวาดล้างเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้ความรู้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์ โดย นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าสายงานทรูวิชั่นส์และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (ทีเอ็นเอ็น) พร้อมด้วย พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ กรรมการบริหาร บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด และนายสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด และประธานกรรมการ บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกัด ให้การต้อนรับ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะฯ เข้าร่วมประชุมรับฟังการบรรยายสรุปสภาพปัญหา การละเมิดลิขสิทธิ์ของทรูวิชั่นส์ และเยี่ยมชมกระบวนการทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของ TNN ช่อง 16 สถานีข่าวคุณภาพอันดับหนึ่งที่เป็นกระบอกเสียงหนุนมาตรการภาครัฐขจัดภัยไซเบอร์
โดย พลตำรวจโทธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “สถานการณ์การละเมิดลิขสิทธิ์ในปัจจุบันพบว่าผู้กระทำความผิดมักติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บช.สอท และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ร่วมมือกับบริษัทเอกชนที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ พบว่าการละเมิดลิขสิทธิ์ส่วนใหญ่เป็นการสตรีมมิ่งและเว็บไซต์ออนไลน์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมโยงกับการพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หวยออนไลน์ สื่อลามกอนาจาร และการให้บริการทางเพศ การปราบปรามจะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและหน่วยงานเอกชน”
นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าสายงานทรูวิชั่นส์และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (ทีเอ็นเอ็น) กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมทางไซเบอร์และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศไทย ซึ่งมีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น ทรูวิชั่นส์ จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จัดประชุมเพื่อหารือแนวทางในการจับกุมเว็บไซต์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงคอนเทนต์ผิดกฎหมาย เช่น สื่อลามกอนาจาร เว็บไซต์การพนัน ซึ่งอาจนำไปสู่การโจมตีทางไซเบอร์ อีกทั้งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ การร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการจับตาและเฝ้าระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เกิดการป้องกันและปราบปรามที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ทั้งนี้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า “การป้องกันและปราบปรามเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ในปัจจุบันเป็นความท้าทาย เนื่องจากการกระทำผิดทางออนไลน์ทำได้ง่ายกว่าในอดีต ดังนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามและเท่าทันการกระทำผิดของคนร้าย วอนขอให้ประชาชนร่วมช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบเบาะแสสามารถแจ้งมาได้ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท หมายเลข 1441 หรือ 081-866-3000 ตลอด 24 ชม. และแจ้งความออนไลน์ที่ www.thaipoliceonline.com รวมถึงต้องไม่สนับสนุนการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่ง อาจเป็นช่องทางชี้นำให้เยาวชนหลงผิด อันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ และความมั่นคงของชาติ”
โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐกับหน่วยงานเอกชน จะนำพาไปสู่การเดินหน้ายกระดับการป้องกัน และปราบปรามภัยอาชญากรรมทางไซเบอร์ เพื่อยับยั้งความเสียหายได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งเป็นเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ข้อมูลข่าวสาร ที่จะก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ร่วมกัน เพื่อเป้าหมายหลักสำคัญคือการเสริมภูมิคุ้มกันคนไทยทั่วทุกภูมิภาคสามารถใช้ชีวิตในโลกไซเบอร์ได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย