ความเป็นมา Trade in Trade Up
ก่อนจะไปดูรายละเอียดการทำ Trade in Trade Up เรามาสำรวจเรื่องนี้กันก่อนว่าเหตุผลและที่มา รวมถึงวัตถุประสงค์คืออะไร ในสมัยโบราณ ถ้าจำกันได้ การเปลี่ยนมือถือใหม่หากยังใช้งานได้ดี เราก็ไม่อยากจะเปลี่ยนหรือซื้อเครื่องใหม่ หรือถ้าเปลี่ยน ก็ไม่อยากจะทิ้งเครื่องเก่าหรือทำให้มันด้อยค่าลงไปเท่าไรนัก คนส่วนใหญ่จะหาทางออกด้วยการนำไปให้ญาติใช้บ้าง นำไปให้ร้านมือสองตีราคาบ้าง หรือลงประกาศขายเองตาม webboard ต่าง ๆ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังทำกันอยู่
ในต่างประเทศนั้น อย่างประเทศเบลเยี่ยมที่ผู้เขียนเคยไปเรียนเมื่อ 10 กว่าปีก่อน บรรดาผู้ให้บริการต่างๆล้วนมึโปรแกรมรับแลกเครื่องเก่า เปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ อย่าง Orange Vodafone เหล่านี้เข้าไปในช้อปจะยื่นข้อเสนอเลย เปลี่ยนรุ่นใหม่ แค่จ่ายรายเดือนเซ็นต์สัญญาใช้งานต่ออีก 24-36 เดือน รับเครื่องใหม่ไปเลยฟรี ๆ หรือถ้าเป็นรุ่นที่ราคาแพงหน่อยก็ให้เราจ่ายส่วนต่างอึกเล็กน้อย 100-200 เหรียญ ก็รับเครื่องใหม่ไปใช้ได้เลย
กลับมาบ้านเราบ้าง เมื่อผู้ผลิตมือถือในปัจจุบัน ต่างพาเหรดยกขบวนออกรุ่นใหม่มาทุกปี รุ่นเก่ายังใช้งานได้ดีไม่มีปัญหา แต่รุ่นใหม่ออกกันมาไม่หยุด สิ่งที่ตามมาคืออะไร มันก็คือการที่ตลาดค่อนข้างนิ่งหรือไม่ตอบรับ พูดง่ายๆ คนสนใจน้อย เพราะของเดิมยังดีอยู่ นี่คือโจทก์ที่ผู้ให้บริการ หรือคนขายต้องเอาไปทำการบ้านแล้วว่า จะมีแรงจูงใจยังไงให้คนอยากเปลี่ยนมือถือทุกปี หรือเปลี่ยนเร็วขึ้น ก็เป็นที่มาของโครงการ Trade in Trade Up จูงใจให้ผู้ใช้อย่างเรา มีทางเลือก มีข้อเสนอที่พอฟังได้ น่าสนใจในการเปลี่ยนเครื่องใหม่โดยที่ไม่ต้องควักเงินก้อนใหญ่ หรือทำให้เกิดความเสียดายในของเดิมที่ยังพร้อมใช้อยู่
ใครเป็นคนตีราคา กำหนดราคารับซื้อ และใครเป็นคนรับซื้อกันแน่?
ผู้ให้บริการอย่าง AIS หรือรายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Samsung เอง Jmart Banana TGFone ต่างไม่ใช่คนที่จะมานั่งรับซื้อมือถือเก่าของเราไปขายต่อหรือ re-cycle เพราะไม่ใช่ธุรกิจของพวกเค้า หากแต่จะเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับความไว้วางใจว่าสามารถบริหาร จัดการในการเข้ารับซื้อ มีความปลอดภัย เชื่อถือได้ สร้างความมั่นใจว่ากระบวนการแลกเปลี่ยนเครื่องเก่าเพื่อซื้อเครื่องใหม่จะได้รับประสบการณ์ที่ดีและส่งเสริมสร้างแรงจูงใจในการซื้อเครื่องใหม่ ที่เราคุ้นเคยและให้บริการมานานหลายปี นั่นคือบริษัท Remobie ที่มี website ของตนเองที่สามารถเช็คราคาประเมินรับซื้อเบื้องต้นได้
โดยที่ราคามือถือมือสองนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คือราคาซื้อและขายออกในตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไปตาม demand supply มีปัจจัยกระตุ้นคือรุ่นใหม่ที่จะออกมาแทนที่ตลอดเวลา ทำให้ราคาในช่วงระยะเวลานึงอาจขึ้นลงเป็นหลักพันเพราะความเสี่ยงของผู้รับซื้อในอนาคตว่าจะนำไปจำหน่ายต่อพอจะมีกำไรได้ไม่ขาดทุน ดังนั้นราคารับซื้อที่เราเห็นนั้น ทางผู้ให้บริการไม่ได้เป็นคนกำหนดขึ้นมาแต่อย่างใด แต่เกิดจากคนกลางอย่าง Remobie จะกำหนดขึ้นมาใหัครอบคลุมความเสี่ยงและการบริหารจัดการเพื่อส่งต่อเจ้าของใหม่ได้แบบวิน วินทุกฝ่าย
แก้ปัญหาราคารับซื้อมือสองตกต่ำ: ที่มาของ Top-Up
เมื่อราคารับซื้อมือสองโดยคนกลางที่กำหนดขึ้นนั้น ล้วนอ้างอิงตามสภาพตลาดของการซื้อขายมือสอง รวมถึงการเผื่อความเสี่ยงราคาขายออกในอนาคตรวมไว้ด้วย ทำให้เราเห็นตัวเลขราคาที่ค่อนข้างต่ำ ไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง ปัญหานี้ย่อมทำให้ผู้ขายเครื่องใหม่ ยกตัวอย่างในกรณีคือ AIS ต้องนำไปคิดและหาทางออกไม่ให้การซื้อขายสินค้าใหม่ต้องหยุดลง เป็นที่มาของข้อเสนอ Top Up เพิ่มมูลค่าเครื่องที่นำมาเปลี่ยนให้สูงขึ้น แก้ Pain Point ได้อย่างหมดจด สร้างแรงจูงใจให้คนซื้ออย่างเราปิดจบตัดสินใจจอง เพราะ 1) เครื่องเก่าได้มูลค่าสูงปรี้ดภายหลังการ Top Up และ 2) เครื่องใหม่ได้ลดราคา หรืออัพเกรดความจุ (ในกรณีเครื่องเปล่า) คุ้มค่ากว่าถ้าเลือกที่จะจองซื้อในช่วงเวลานี้
อย่าง AIS ที่ใจปล้ำให้ Top Up อีก 15000 บาทกับเงื่อนไขมอบให้คนที่ลงทะเบียนความสนใจไว้ก่อนหน้าและทำการจองในช่วง Pre-Order ใช้งานแบบรายเดือนขั้นต่ำเดือนละ 1499 บาทขึ้นไป ผู้เขียนตัดสินใจนำ OnePlus 11 5G ความจุ 256GB ไปเทรด ทางผู้รับซื้อกำหนดราคาไว้คร่าวๆ ว่าเครื่องสวย ไร้รอย เกรด A จะได้ราคา 6200 บาท (ในตลาดมือสอง ซื้อขายกันที่ช่วง 9000-11000) ซึ่งถ้ารวมกับการที่ AIS ให้ Top Up อีก 15000 บาทก็จะกลายเป็น 21200 บาท (มูลค่าสูงปรี๊ดเกินกว่าราคาขายต่อในตลาดมือสองเป็น 2 เท่า) เมื่อรวมกับส่วนลดจากการใช้แพ็กเกจรายเดือนต่อเนื่องไปอีก 12 เดือนก็จะได้ส่วนลด 5400 บาท เมื่อนำมาคำนวณในการซื้อเครื่องใหม่ทำให้เราจ่ายค่าเครื่อง S25 Ultra 256GB ในราคาเพียง 46900-6200-15000-5400 = 20300 บาท ซึ่งเราสามารถเลือกชำระแบบผ่อนผ่านบัตรเครดิต 0% 10 เดือน จะได้รับเงินคืน (cashback) อีก 4-5% กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ก็ได้คืนมาราว 800-1000 บาท สรุปเครื่องใหม่ของเรา จ่ายเพิ่มแค่ไม่ถึง 20,000 บาท ถ้าไม่มีเหตุการณ์หรือโครงการนี้ เราอาจจะต้องจ่ายเงินถึง 37900 บาท (46900-9000) คิดจากราคาเครื่องใหม่แล้วนำเครื่องเก่าไปขายต่อเองตามร้านรับซื้อมือสอง จะเห็นว่าการซื้อกับ AIS ผ่านการ Trade in Trade Up ทำให้เราจ่ายน้อยลงไปเป็นหมื่น
ราคาที่ได้ “มีสูงกว่าและต่ำกว่า” ขึ้นอยู่กับสภาพเครื่องและการแข่งขันในการรับซื้อ
อย่าไปคิดว่าเครื่องของเราจะต้องได้ราคาต่ำกว่าราคาประเมินเสมอไป เพราะ AIS เปิดให้สามารถนำเครื่องไปทำรายการ “Pre-Trade” ที่สาขาตามที่เราจองรับเครื่องก่อนวันรับเครื่องได้ ทำให้ประหยัดเวลาในวันรับเครื่องใหม่ และเป็นการล๊อคราคารับซื้อไว้ล่วงหน้า การันตีว่าเครื่องเก่าเราถ้าหลังจากนี้ไม่ได้ไปทำให้เกิดรอยใดๆตามมา ก็จะได้ราคาตามที่เสนอไว้ในวัน Pre – Trade ได้เลย ในวัน Pre Trade เจ้าหน้าที่ AIS จะนำเครื่องเก่าเราไปลงโปรแกรมเพื่อตรวจสภาพเครื่องพร้อมถ่ายภาพประกอบเพื่อสรุปราคาและพิมพ์ใบเสนอรับซื้อให้เราเก็บไว้ประกอบการเทรดเครื่องในวันที่จองรับเครื่อง ถึงวันรับเครื่องใหม่ก็นำเครื่องเก่าพร้อมใบเสนอรับซื้อนี้ไว้มารับเครื่องใหม่พร้อมชำระส่วนต่างได้เลย สะดวก ไม่เสียเวลารอคิวนาน
ราคาที่เช็คมาก่อนกับ Remobie
ราคาภายหลังนำเครื่องมาทำ Pre-Trade ที่ AIS
ตัวอย่างกรณีผู้เขียนนำ OnePlus 11 5G ไป Pre Trade ดูราคามาก่อนล่วงหน้าว่าใน Web Remobie ได้ราคาประมาณ 6200 บาทเพราะเป็นเครื่องที่ไม่มีรอย สภาพเกรด A แต่เมื่อผ่านการทดสอบสภาพเครื่องแล้ว พนักงานแจ้งสรุปราคารับซื้อว่าได้ถึง 6600 บาท มากกว่าที่ให้ไว้ใน Web 400 บาท ซึ่งอาจเกิดจากการแข่งขันระหว่างกันของตัวแทนที่ทาง AIS เลือกมาให้ตีราคารับซื้อก็เป็นได้ และในกรณีกลับกัน หากเครื่องที่นำมาเกิดมีรอยหรือการทำงานไม่สมบูรณ์ อาทิ สุขภาพแบตต่ำกว่ากำหนด ก็อาจทำให้เราประเมินได้ราคาต่ำกว่าเบื้องต้นก็เป็นได้ ดังนั้นแนะนำให้นำเครื่องไปทำ “Pre-Trade” ไว้ก่อนถ้าสามารถทำได้
สรุป
การ Trade in Trade Up กับช่วงเวลาในการเปิดจองซื้อเครื่องใหม่ เป็นช่วงเวลานาทีทองแห่งความคุ้มค่ามาก เพราะเป็นการสร้างมูลค่าให้เครื่องเก่าที่ยังใช้งานได้ดีอยู่ ให้ได้ราคารับซื้อที่คนซื้อไปต่อได้ คนขายอย่างเราก็ Happy ได้ผู้ให้บริการใจดีอย่าง AIS มาช่วย Top Up ส่วนต่างให้อีก 13000-15000 บาทในกรณีที่ซื้อเครื่องได้ส่วนลดแบบติดสัญญาใช้งาน หรือกรณีซื้อเครื่องเปล่าไม่ติดสัญญา ก็ได้ Top Up สบายๆช่วยถึง 9000 บาท ทำให้เครื่องเก่าได้ราคาสูง หรือสูงเกินกว่าการที่เราจะนำไปขายต่อเองแล้วมาเพิ่มเงินส่วนต่างซื้อเครื่องใหม่
