เพราะต้นทุนชีวิตของคนเราไม่เท่ากัน ทำให้หลายคนอาจต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว เพื่อพาตัวเองก้าวสู่ความสำเร็จ เหมือนเช่น “น้องกิ่ง” กัญญารัตน์ สีแดงน้อย สาวน้อยวัย 25 ปี ที่เคยต้องหยุดเรียนกลางคันเพราะปัญหาทางด้านการเงิน ชีวิตเคยมืดมนจนมองไม่เห็นอนาคต แต่แล้วก็ได้รู้จักกับ “แกร็บ” ที่เข้ามาเป็นแสงสว่างให้เธอมีรายได้เลี้ยงชีพ และเป็น “สะพาน” ที่พาเธอกลับเข้าสู่เส้นทางการศึกษา จนจบชั้นอนุปริญญาได้สำเร็จ

เมื่อความฝันต้องพักไว้ เพื่อความอยู่รอดของครอบครัว

“น้องกิ่ง” ชาวอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นลูกคนเดียวของครอบครัวที่ทำอาชีพรับจ้าง ด้วยชีวิตที่ยากลำบากและฐานะทางบ้านที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้พ่อแม่มีกำลังส่งเสียให้เธอเรียนหนังสือได้ถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั้งที่จริงๆ แล้วเธอเป็นคนรักการเรียนและมองว่าการศึกษาจะเป็นหนทางเปลี่ยนชีวิต สร้างอนาคตที่ดีให้กับเธอและครอบครัว

ด้วยอายุเพียง 18 ปี เธอต้องเลือกเดินออกจากเส้นทางการศึกษา และมุ่งหน้าสู่โลกการทำงานอย่างเต็มตัวเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว โดยได้ย้ายเข้ามาในตัวเมือง ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารที่มีรายได้เพียงวันละ 300 บาทซึ่งเพียงพอแค่สำหรับการใช้จ่ายในแต่ละวันเท่านั้น

ขับแกร็บเปลี่ยนชีวิต จากรายได้ขั้นต่ำสู่โอกาสทางการศึกษา

ด้วยความเป็นคนอัธยาศัยดี เข้ากับคนง่าย ทำให้น้องกิ่งเป็นที่รักของทุกคนที่ได้รู้จัก รวมถึง  “พี่ๆ คนขับแกร็บ” ที่ขับรถแวะเวียนมารับอาหารอยู่เป็นประจำ จนวันหนึ่งหลังจากที่น้องกิ่งทำงานที่ร้านอาหารได้ ปี พี่คนขับแกร็บจึงได้ลองชักชวน พร้อมแนะนำน้องกิ่งให้มา “ขับแกร็บ”

แต่ในตอนนั้นเธอยังไม่ได้ตัดสินใจทันที และเลือกไปลองทำงานที่ร้านขายเครื่องดื่มในห้างเล็กๆ ก่อน แต่ไม่นานร้านนั้นก็ปิดตัวลง น้องกิ่งจึงว่างงานอยู่ราว 1 เดือน ท่ามกลางความไม่แน่นอนนั้นเอง เธอจึงตัดสินใจคว้าโอกาสที่เคยถูกยื่นให้ไว้  ด้วยมอเตอร์ไซค์คันเก่าที่เธอเก็บเงินจากการทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ น้องกิ่งตัดสินใจสมัครขับแกร็บเพื่อส่งอาหาร “ก็ลองสมัครดูค่ะ แต่พอได้ขับจริงๆ มันกลับกลายเป็นโอกาสที่เปลี่ยนชีวิตหนูไปเลยค่ะ” น้องกิ่งกล่าว

รายได้ที่เธอได้รับจากการขับแกร็บเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จากรายได้วันละ 300 บาทที่เคยได้รับจากการทำงานในร้านอาหาร กลายเป็น 400500 บาทต่อวัน โดยที่ใช้เวลาทำงานเท่าๆ กัน นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอกล้ากลับมาฝันถึงการเรียนหนังสืออีกครั้ง

หลังจากขับแกร็บได้ประมาณ 1 ปี ทำให้มีรายได้มากขึ้นและสามารถจัดสรรเวลาได้ น้องกิ่งเลยตัดสินใจสมัครเรียนต่อระดับอนุปริญญาที่วิทยาลัยสารพัดช่างอุตรดิตถ์ พร้อมเลือกขับแกร็บในช่วงเย็นวันธรรมดา และขับเต็มวันในวันหยุด“มันอิสระดีค่ะ หนูเลือกเวลาทำงานได้ ไม่กระทบกับการเรียน แถมยังได้ใช้เวลาว่างให้เป็นรายได้อีกด้วย” น้องกิ่งกล่าว

สำหรับน้องกิ่งแล้ว รายได้จากแกร็บทำให้เธอสามารถจ่ายค่าเทอม ค่าเดินทาง ค่าหนังสือ ค่ากินอยู่ได้ด้วยตัวเอง รวมทั้งยังแบ่งสันปันส่วนไปให้ครอบครัวได้อีกด้วย “บางคนอาจคิดว่าขับแกร็บไม่มั่นคง รายได้ไม่แน่นอน แต่สำหรับหนู แกร็บคือสะพานที่ช่วยให้หนูไปถึงฝันได้” น้องกิ่งกล่าวด้วยความภูมิใจ

และเมื่อวันแห่งความสำเร็จมาถึง น้องกิ่งเรียนจบอนุปริญญาที่วิทยาลัยสารพัดช่างอุตรดิตถ์ ที่น่าตื้นตันไปมากกว่านั้น คือการที่พี่ๆ คนขับแกร็บ ที่ช่วยปูทางเดินให้กับเธอในวันนั้น ก็ได้มาร่วมแสดงความยินดีในวันแห่งความสำเร็จของเธอด้วย

จากเพื่อนร่วมอาชีพ สู่การเป็นอีกหนึ่ง “ครอบครัว” 

น้องกิ่งยังติดต่อกับครอบครัวอยู่เสมอ และพยายามกลับบ้านในทุกเทศกาล แต่ระหว่างการเรียนและทำงานตัวคนเดียวที่อำเภอเมือง เธอก็ไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยวเลย เพราะเธอได้พบกับอีกหนึ่ง “ครอบครัว” ที่มอบความห่วงใยไม่แพ้กัน “วันรับปริญญาหนู พี่ๆ คนขับแกร็บก็มาร่วมแสดงความยินดีด้วย หนูรู้สึกปลื้มใจที่มีคนรักและเอ็นดู และรู้สึกว่าหนูไม่ได้มีแค่ครอบครัวที่บ้าน แต่ยังมีครอบครัวอีกกลุ่มที่อยู่เคียงข้างหนูเสมอ” น้องกิ่งกล่าวแม้จะเรียนจบระดับอนุปริญญาแล้ว แต่น้องกิ่งยังมีความฝันจะเรียนต่อในระดับปริญญาตรีสาขาการบัญชีต่อไปด้วยความมุ่งมั่น ความพยายาม และหัวใจที่ไม่เคยหมดไฟ และนั่นคือพลังของ “โอกาส” ที่แท้จริง

Comments

comments