บริษัท โตชิบา ดิจิทัล โซลูชันส์ คอร์ปอเรชั่น (Toshiba Digital Solutions) และ บริษัท โตชิบา เอเชีย แปซิฟิค (ประเทศไทย) จำกัด (TATC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มโตชิบา ประกาศเปิดตัว ifLink ในตลาดประเทศไทย เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่งหรือ IoT รูปแบบใหม่ที่คุ้มค่า ต่อยอดจากแพลตฟอร์ม ifLink ที่ให้บริการโดย โตชิบา ดิจิทัล โซลูชันส์ ซึ่งนับเป็นการดำเนินธุรกิจ ifLink แห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น โดย TATC จะเป็นผู้รับผิดชอบด้านการขายใบอนุญาตซอฟต์แวร์และการสนับสนุนลูกค้า
ifLink เป็นบริการแพลตฟอร์ม IoT แบบเปิด ที่ทำให้ง่ายต่อการรวมอุปกรณ์ IoT และบริการเว็บต่างๆ เข้าไว้ในรูปแบบของโมดูล โดยเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันบนคลาวด์ และกำหนดการทำงานของอุปกรณ์ด้วย “กฎแบบเงื่อนไข – การกระทำ” (condition-action) หรือ “กฎถ้า – แล้ว” (if-then) ในประเทศญี่ปุ่น ifLink ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรธุรกิจและสถาบันการศึกษากว่า 100 แห่ง โดย โตชิบา ดิจิทัล โซลูชันส์ ได้มอบใบอนุญาต ifLink ให้บริษัทญี่ปุ่นในภาคธุรกิจต่างๆ นำไปใช้งาน
ในประเทศไทย การนำ IoT มาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมบางแห่งยังเผชิญความท้าทายด้านการขาดองค์ความรู้และค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูง TATC จึงได้ร่วมมือกับสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท. ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อถ่ายทอดและเผยแพร่เทคโนโลยีและองค์ความรู้ด้าน IoT ล่าสุดของญี่ปุ่นในประเทศไทยและเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคล ทั้งนี้ TATC ได้ศึกษาและยืนยันแล้วว่า ifLink สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับกิจกรรมไคเซ็น ณ โรงงานอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมโครงการทีมสนับสนุนอุตสาหกรรมอัจฉริยะในประเทศไทย (Project of Smart Monodzukuri Support Team in Thailand) ซึ่ง ส.ส.ท. กำลังผลักดันกิจกรรมนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 และ มกราคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา โตชิบาได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการให้แก่วิทยากรในโครงการที่ทำหน้าที่ช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับบุคลากรในประเทศไทยและบริษัทที่เป็นสมาชิก ส.ส.ท. โดยมีเนื้อหาครอบคลุมการใช้งาน ifLink เพื่อติดตั้งระบบ IoT ผู้เข้าร่วมสัมมนาต่างเห็นว่า ifLink ใช้งานง่าย แม้แต่ผู้ที่มีความรู้ด้าน IoT จำกัด เป็นเหตุผลให้ โตชิบา ดิจิทัล โซลูชันส์ และ TATC ตัดสินใจเปิดตัวธุรกิจ ifLink ในประเทศไทยเพื่อให้บริการแก่บริษัทผู้ผลิตในไทย รวมถึงสมาชิก ส.ส.ท. โดย โตชิบา ดิจิทัล โซลูชันส์ เป็นผู้ให้บริการด้านซอฟต์แวร์ ส่วน TATC ดูแลด้านการขายใบอนุญาตซอฟต์แวร์ การติดตั้งอุปกรณ์ และการสนับสนุนลูกค้าทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย
ในประเทศไทย TATC จะเปิดให้ทดลองใช้ชุดเริ่มต้น ifLink เป็นเวลาหนึ่งเดือนก่อนซื้อใบอนุญาตเต็มรูปแบบ ภายในชุดเริ่มต้นนี้ประกอบด้วยสมาร์ตโฟนระบบแอนดรอยด์ที่ติดตั้ง แอปพลิเคชัน ifLink อุปกรณ์สื่อสารข้อมูล และเซนเซอร์ต่างๆ ในราคา 10,500 บาท (ประมาณ 310 ดอลลาร์สหรัฐ*) ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นใช้งาน ifLink ได้ทันทีโดยไม่ต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ใดๆ หลังทดลองใช้บริการและทดสอบประสิทธิภาพของ ifLink แล้ว ผู้ใช้งานสามารถเลือกซื้อใบอนุญาตเต็มรูปแบบได้ในแบบสมัครสมาชิกรายเดือน (subscription) ค่าบริการพื้นฐานเริ่มต้นที่ 5,740 บาทต่อเดือน (ประมาณ 170 ดอลลาร์สหรัฐ*) ยังไม่รวมสมาร์ตโฟนระบบแอนดรอยด์ อุปกรณ์ และเซนเซอร์ต่างๆ และค่าธรรมเนียมการติดตั้งครั้งแรก ทั้งนี้ ค่าบริการรายเดือนอาจแตกต่างกันไปตามประเภทเซนเซอร์ที่ใช้ และสมาชิก ส.ส.ท. ที่เคยเข้าร่วมสัมมนา ifLink ของ ส.ส.ท. จะได้รับราคาพิเศษด้วย
ชุดเริ่มต้น ifLink Starter Kit สำหรับบริการทดลองใช้
โตชิบา ดิจิทัล โซลูชันส์ และ TATC ตั้งเป้าจำหน่ายชุดเริ่มต้น ifLink จำนวน 100 ชุดพร้อมใบอนุญาต ให้แก่กลุ่มผู้ผลิตในประเทศไทย ภายในระยะเวลา 3 ปี จนถึงปีงบประมาณพ.ศ. 2570 พร้อมกันนี้ บริษัทยังแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อพัฒนาโซลูชัน IoT ต่างๆ บนแพลตฟอร์ม ifLink อีกด้วย
นอกจากนี้ โตชิบา ดิจิทัล โซลูชันส์ กำลังพิจารณานำธุรกิจ ifLink ขยายออกไปในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนอกเหนือจากประเทศไทย และมีเป้าหมายที่จะสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ IoT แบบเปิดบน ifLink ให้เติบโตยิ่งขึ้นทั้งในประเทศญี่ปุ่นและในระดับสากล
เกี่ยวกับแพลตฟอร์ม ifLink:
https://www.global.toshiba/ww/products-solutions/ai-iot/iflink.html
