12 มกราคม 2564 – กรุงเทพฯ ประเทศไทย: จากข้อมูลของ Shoplus บริษัทในเครือ iKala ผู้นำด้านการให้บริการเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ ที่รวมการไลฟ์สดและการจัดการออเดอร์เข้าไว้ด้วยกันสำหรับแบรนด์และร้านค้าปลีกทั่วเอเชีย เผย ประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบตรงใจผู้บริโภค (Personalised) การไลฟ์สดขายสินค้าที่เน้นความสนุกสนาน และเทคโนโลยีเสมือนจริง หรือ AR จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนให้การไลฟ์สดขายสินค้าในประเทศไทยเติบโตขึ้นในปี 2564
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 ยอดคำสั่งซื้อจากการขายสินค้าผ่านการไลฟ์สดในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นกว่า 173% ส่งผลให้ยอดขายสินค้ารวมเพิ่มขึ้น 212% โดยยอดขายสินค้ารวมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตขึ้นสามเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า ในขณะที่คำสั่งซื้อทั้งหมดเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า การซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดียไม่ใช่ช่องทางใหม่ แต่เนื่องจากการเติบโตของประชากรชั้นกลาง การเชื่อมต่อด้านดิจิทัลที่ครอบคลุมและเสถียรมากขึ้น รวมถึงความท้าทายของร้านค้าปลีกจากการระบาดของโรคโควิดส่งผลให้ทั้งแบรนด์ ร้านค้า รวมถึงผู้บริโภคหันมาใช้การไลฟ์ขายสินค้าเป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายใหม่
“หลายๆแบรนด์ยังขาดการปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับผู้บริโภค ซึ่งการหันมาใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซแบบเต็มรูปแบบอาจต้องใช้เงินทุนมหาศาล Shoplus ผู้ให้บริการการขายสินค้าผ่านการไลฟ์สดจึงมอบทางเลือกที่ง่ายกว่าให้ร้านค้าสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้าได้ โดยมาพร้อมกับระบบอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรไม่ว่าจะเป็น ระบบชำระเงิน ระบบจัดการออเดอร์และระบบคลังสินค้า เราประสบความสำเร็จในการวางรากฐานอันแข็งแกร่งในตลาดประเทศไทยเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา และเราเชื่อมั่นว่านวัตกรรมที่เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าของผู้ซื้อและผู้ขายจะเป็นตัวเร่งการเติบโตในปี 2564 ยิ่งขึ้นไปอีก” คิมมี เฉิน ผู้จัดการทั่วไป Shoplus กล่าว
จากรายงานด้านเทคโนโลยีในเอเชียฉบับล่าสุดของแมคคินซีย์ เผยว่า “ผู้บริโภคมองหาประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์แบบที่สามารถมีส่วนร่วมได้และเป็นรูปแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น” โดย Shoplus ได้เผยถึงเทรนด์ที่จะเข้ามายกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์และเพิ่มอัตราการช้อปปิ้งออนไลน์ให้สูงขึ้นในปี 2564 พร้อมให้คะแนนที่ส่งผลต่อพัฒนาการไลฟ์สดขายสินค้า
● เชื่อมต่อประสบการณ์ค้าปลีกเต็มรูปแบบ – 4 ดาว: ในปีนี้มีหลายแบรนด์เริ่มใช้และประสบความสำเร็จบนช่องทางโซเชียลคอมเมิร์ซ และในขณะที่ระบบในห่วงโซ่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ร้านค้าปลีกเริ่มเห็นคุณค่าในการสามารถควบคุมประสบการณ์ค้าปลีกแบบเต็มรูปแบบได้เอง ซึ่งจะช่วยให้สามารถส่งเสริมความภักดีของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยการทำทุกอย่างบนแพตลฟอร์มเดียวและสามารถควบคุมได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็น เชื่อมต่อการชำระเงิน ติดตามออเดอร์ จัดส่งและคืนสินค้า – จะเป็นปัจจัยที่สร้างความแตกต่างให้แบรนด์มากขึ้นไปอีกในปี 2564 รวมถึงความสามารถในการมอบบริการเต็มรูปแบบนี้ก็จะยิ่งดึงดูดให้แบรนด์ใหญ่ๆ เข้ามาลงทุนใช้การไลฟ์สดมากขึ้นด้วย
● ใช้คนมีชื่อเสียงและ KOLs เพื่อสร้างความบันเทิงในการช้อปปิ้งมากขึ้น – 3 ดาว: แบรนด์จะมองหาวิธีการในการเพิ่มคุณค่าให้กับประสบการณ์การไลฟ์สดขายสินค้าของตนเองมากขึ้น ซึ่งหลายแบรนด์เลือกใช้คนมีชื่อเสียงและ KOLs ในการไลฟ์สดเพื่อดึงดูดลูกค้า แบรนด์ใหญ่บางแบรนด์อาจใช้เงินลงทุนสูงโดยการเพิ่มลูกเล่นในการไลฟ์สดให้เป็นรูปแบบเกมส์โชว์ มินิคอนเสิร์ต หรือ เล่นเกมส์เพื่อนำเสนอส่วนลดพิเศษให้กับคนที่ดูไลฟ์ ในขณะที่แบรนด์ใหญ่อื่นๆ ก็อาจเลือกใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อขยายฐานลูกค้าแทนการใช้ KOLs ส่วนบางแบรนด์อาจเลือกวิธีสร้างความบันเทิงในรูปแบบของตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูง
● จากปัญญาประดิษญ์ (AI) สู่เทคโนโลยีเสมือนจริง (AR) – 3 ดาว: ปัญญาประดิษฐ์ (AI) นับเป็นฟีเจอร์สำคัญในการดำเนินการจัดการออเดอร์และคำขอต่างๆจากลูกค้าบนช่องทางไลฟ์สด และในปี 2564 นี้ เราจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆของ AR ที่มอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยลูกค้าสามารถ ‘ลอง’ ก่อน ‘ซื้อ’ ด้วยการใช้ห้องลองชุดเสมือนจริงที่มีพื้นหลังหลากหลายแตกต่างกันไปเพื่อให้ลูกค้าได้เลือกชุดที่เหมาะกับตัวเองที่สุด ถือเป็นวิธีให้ผู้ค้าปลีกเชื่อมต่อกับผู้ซื้อในรูปแบบที่น่าสนใจมากขึ้นและเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย ถึงแม้อาจต้องใช้เวลาในการพัฒนาระบบขึ้นมา โดยคาดว่าจะมีการเริ่มใช้เทคโนโลยีนี้ในปี 2564 และจะแพร่ขยายมากขึ้นอีกในปี 2565 หลังจากที่ 5G เป็นที่นิยมและเข้าถึงได้มากขึ้น
● ผู้ชมสามารถออกแบบประสบการณ์ช้อปปิ้งของตัวเอง – 5 ดาว: การไลฟ์สดที่ช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันจะก้าวสู่อีกขั้นด้วยการให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าอยากเห็นอะไรระหว่างการไลฟ์สด ร้านค้าให้ลูกค้าโหวตได้ว่าอยากให้ร้านค้าขายสินค้าชิ้นไหนเป็นชิ้นต่อไป หรือกระทั่งเลือกราคาสินค้าและส่วนลดสินค้าที่ตนชื่นชอบได้ นับเป็นอีกก้าวของการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่จะกลายเป็นที่นิยม
● ไลฟ์ขายสินค้าชิ้นพิเศษ – 4 ดาว: อีกวิธีของแบรนด์ที่ให้ลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมในการไลฟ์สดมากขึ้น คือการมอบส่วนลดพิเศษในระหว่างการไลฟ์สด โดยอาจเป็นการมอบราคาพิเศษ ข้อเสนอพิเศษ หรือสินค้าออกแบบพิเศษเฉพาะลูกค้าที่ดูไลฟ์สดเท่านั้น ที่ผ่านมาร้านค้าอิสระหลายร้านประสบความสำเร็จในการดึงดูดลูกค้าเข้ามาที่ร้านด้วยการมอบข้อเสนอพิเศษ และแบรนด์ใหญ่ๆหลายแบรนด์ก็เลือกที่จะใช้วิธีการนี้เช่นเดียวกัน
● ไลฟ์ขายสินค้าชิ้นใหญ่ – 3 ดาว: ผู้ค้าปลีกที่ขายสินค้าขนาดใหญ่ – ตั้งแต่รถไปจนถึงบ้าน – เลือกใช้วิธีการไลฟ์สดเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า ในขณะที่อุตสาหกรรมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ประเภทสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ยิ่งสินค้าที่มีคุณค่าสูงก็จะมีวิธีใหม่ๆในการเล่าเรื่องราวเพื่อเข้าถึงลูกค้าแบบเฉพาะตัวยิ่งขึ้น โดยอาจใช้เวลาในการพัฒนาแต่นับเป็นพื้นที่ที่ท้าทายความสามารถในการหาแนวทางนำเสนอสินค้าที่สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น
ในขณะที่ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียได้พัฒนาความสามารถเพื่อส่งเสริมด้านโซเชียลคอมเมิร์ซมากยิ่งขึ้น ร้านค้าปลีกควรหาวิธีให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมและมอบประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ แบรนด์ควรเปิดรับและปรับตัวให้เร็ว แต่การทำทุกอย่างพร้อมๆกันอาจเป็นเรื่องยาก ดังนั้นการลงทุนในเทคโนโลยีด้านโซเชียลคอมเมิร์ซไม่ว่าจะเป็น การคิดวิเคราะห์ล่วงหน้าแบบเรียลไทม์ โซลูชั่นการจัดการออเดอร์ด้วย AI การสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าบนสังคมออนไลน์ และอุปกรณ์ถ่ายวิดีโอ ระบบเสียง รวมถึงการจัดไฟที่มีคุณภาพก็เป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จของร้านค้าได้
Shoplus ระบบจัดการออเดอร์อย่างครบวงจรมีขั้นตอนการติดตั้งที่ง่ายและสะดวก เชื่อมต่อกับ Facebook ได้โดยตรง ให้ร้านค้ามีส่วนร่วมกับผู้ชมได้มากขึ้น สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ช่วยจัดเก็บและจัดการออเดอร์พร้อมปิดยอดรับชำระเงินด้วยฟังก์ชั่นต่างๆไม่ว่าจะเป็น AI-Live sell จาก Shoplus ที่ช่วยจัดเก็บออเดอร์อัตโนมัติจากคอมเมนต์และข้อความ ไปจนถึงติดต่อลูกค้าเพื่อปิดออเดอร์ระหว่างไลฟ์ได้ทันที ซึ่ง AI-Chatbot เป็นระบบบอทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการขายออนไลน์ของ Shoplus ช่วยทักหาลูกค้าที่สนใจสินค้า เพื่อแนะนำการสั่งซื้อ ยืนยันออเดอร์และช่วยปิดการขายได้อัตโนมัติ ส่วน AI-Messenger จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและนำข้อมูลการจัดส่งของลูกค้าในแชทมาสร้างเป็นออเดอร์ให้อัตโนมัติ