ชาวชุมชน “บ้านใหม่สามัคคี” ไม่ใช่แค่เพิ่งถูกล็อกดาวน์ในช่วงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ตามที่ประเทศไทยมียอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงจนหลายจังหวัดกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงสีแดง แต่พวกเขาเหมือนถูกล็อกดาวน์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2546 หรือยาวนานถึง 18 ปีที่เริ่มก่อตั้งหมู่บ้านแห่งนี้ เพราะระบบสาธารณูปโภคที่ยังเข้าไม่ถึง แค่ระบบโทรศัพท์บ้านพื้นฐานชาวบ้านยังไม่เคยได้ใช้งาน ถึงแม้ชุมชนแห่งนี้จะถูกตั้งเป็นหมู่บ้านอย่างเป็นทางการเมื่อ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562 แล้วก็ตาม

สุพัด อาลา ผู้ใหญ่บ้านของบ้านใหม่สามัคคี (ห้วยวาด) หมู่ 7 ตำบลทุ่งผึ้ง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง เล่าให้ฟังว่าเดิมพื้นที่แห่งนี้ คือ บ้านห้วยวาด เพราะอยู่ในลำห้วยซึ่งตอนแรกมีประชากร 380 คน รวม 85 ครัวเรือน จาก 4 หมู่บ้าน คือ บ้านแม่เม่า บ้านแม่ต๋าง บ้านห้วยริน และบ้านแม่ป่อย ย้ายมาตั้งถิ่นฐานร่วมกันในชื่อ “บ้านใหม่สามัคคี” จนปัจจุบันนี้ มีประชากร 495 คน จาก 136 ครัวเรือน ประกอบอาชีพหลักด้านเกษตรกร ปลูกข้าวโพด และชาวบ้านพอจะมีอาชีพเสริมได้บ้างคือ เลี้ยงไก่ หมู เพื่ออุปโภคบริโภคจำหน่ายในชุมชน ส่วนกลุ่มผู้หญิงจะปักผ้าพื้นบ้านด้วยมือ ทำกระเป๋า ผ้าพันคอ หรือผ้ากระโปรง แถวนี้จะกันดารแห้งแล้งมาก น้ำประปายังมาไม่ถึง จะอาศัยน้ำกินน้ำใช้จากแม่น้ำวัง น้ำฝน และบ่อน้ำบาดาล พวกเรามีไฟฟ้าใช้เมื่อกันยายน ปี พ.ศ. 2559

ในส่วนของการติดต่อสื่อสารเป็นปัญหาใหญ่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งเหมือนถูกตัดขาดกับโลกภายนอก จะใช้มือถือได้ต้องเดินไปหาสัญญาณตามสันเขาห่างจากหมู่บ้านไปราว 1.5-2 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่เป็นป่าและต้องเดินเท้า แน่นอนว่าถ้ายิ่งเป็นผู้สูงอายุก็ยิ่งจะไม่สะดวก รวมถึงสภาพอากาศที่อาจจะเจอทั้งแดดร้อนหรือฝนตก รวมถึงอาจจะเจอภัยอื่นในป่า และถ้ามีความจำเป็นเร่งด่วนในเวลากลางคืนแทบจะเป็นไปไม่ได้ในการติดต่อกับใคร

ภัย “ไข้เลือดออก” ระบาดทั้งหมู่บ้าน แลกกับความจำเป็นเพื่อติดต่อสื่อสาร

“สิ่งที่พวกเราเผชิญมาและจำกันฝังใจ คือ เมื่อเดือนกันยายน 2559 คนในหมู่บ้านของเรามีความจำเป็นต้องใช้มือถือ จึงได้เดินไปตามแนวป่าเพื่อหาสัญญาณมือถือใช้ แต่โชคร้ายโดยไม่รู้ตัว มีชาวบ้านของเราถูกยุงกัดซึ่งกลายมาเป็นพาหะของไข้เลือดออก ทำให้ต่อมาคนทั้งหมู่บ้านเกือบทั้งหมด 250 คน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ เกือบทุกคนเป็นไข้เลือดออกร้ายแรงนอนซมกันทั้งหมู่บ้าน ต้องไปรักษาตัวกันที่โรงพยาบาลแจ้ห่มราว 4-7 วัน” นายสุพัด เล่าให้ฟังถึงวิกฤตคุณภาพชีวิตที่ประสบมาจากการตามหาสัญญาณมือถือเพื่อสื่อสารเพราะความจำเป็น

ไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) ติดต่อกันได้จากยุงลายเป็นพาหะ เมื่อยุงลายได้กัดและดูดเลือดจากผู้ป่วยไข้เลือดออก เชื้อไวรัสเดงกีจะเพาะอยู่ในตัวยุงลายและเมื่อกัดคนต่อไป คนนั้นจะติดเชื้อไวรัสและจะป่วยเป็นไข้เลือดออก ซึ่งจะกระจายติดต่อกันได้ทั้งหมู่บ้านเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพโดยเฉพาะในชนบทที่ห่างไกล

ล็อกดาวน์โควิด-19 ทำเด็กเสี่ยงหลุดจากระบบศึกษาเพราะหมู่บ้านไม่มีเน็ตเรียนออนไลน์

จากวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้พื้นที่ต่างๆ ทั่วไทยต้องล็อกดาวน์ เด็กๆ ไปโรงเรียนไม่ได้อย่างเดิม โดยโรงเรียนต่างๆ จะปรับมาสู่การเรียนการสอนผ่านออนไลน์ ซึ่งเด็กนักเรียนจะเรียนจากที่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 แต่ปัญหาของเด็กนักเรียนที่ “บ้านใหม่สามัคคี” ซึ่งเรียกได้ว่าตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร คือ ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่จะเชื่อมต่อออนไลน์สู่การเรียนกับครูได้เหมือนกับนักเรียนพื้นที่อื่น

สุพัด ผู้ใหญ่บ้านแห่งนี้เล่าให้ฟังถึงความลำบากว่า “ในแต่ละวันเด็กนักเรียนที่นี่ต้องเดินขึ้นไปหาสัญญาณเน็ตตามสันเขาเพื่อเรียนออนไลน์ช่วงที่ปิดโรงเรียนเพราะล็อกดาวน์ ซึ่งถ้าเป็นเด็กโตประมาณ ป.3 ถึงมัธยมก็จะพอเดินไปได้แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กจะลำบากและไม่มีทาง ถ้ามีสัญญาอินเทอร์เน็ตในหมู่บ้านชีวิตของพวกเราทั้งเด็กและชาวบ้านจะดีขึ้นกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องข่าวสารความช่วยเหลือตามมาตรการต่างๆ กว่าพวกเราจะรู้ก็แทบจะสายไปทุกครั้ง”

ดีทั่ว ดีถึง เพื่อชีวิตเท่าเทียม ดีแทคนำสัญญาณเน็ตเปิดโลกสู่บ้านใหม่สามัคคี

ดีแทคเชื่อมต่อสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ใช้บริการ พร้อมกับมุ่งสร้างสังคมไทยให้แข็งแกร่งด้วยเทคโนโลยีโทรคมนาคมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ

จากการลงพื้นที่ทีมงานดีแทคพบว่าบ้านใหม่สามัคคี (ห้วยวาด) หมู่ 7 ตำบลทุ่งผึ้ง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและไม่เคยมีสัญญาณมือถือหรืออินเทอร์เน็ตในการเชื่อมต่อสื่อสารมาตลอด ทีมงานจึงได้เร่งติดตั้งนำสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั้งคลื่น 700 MHz และ 2100 MHz สู่ชุมชนอย่างรวดเร็วและติดตั้งเพียง 2 สัปดาห์ เพื่อรองรับการใช้งานโดยเฉพาะสถานการณ์ที่ถูกล็อกดาวน์จากโควิด-19 การเชื่อมต่อสื่อสารจึงมีความจำเป็นอย่างมาก

สุพัด ในฐานะผู้ใหญ่บ้านกล่าวถึงความรู้สึกจากการมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตใช้งานครั้งแรกในหมู่บ้านว่า “นี่คือสิ่งที่ชาวบ้านรอคอยมา 18 ปี โอกาสในชีวิตที่หล่นหายได้คืนกลับมา จากนี้ไปคนในหมู่บ้านได้เชื่อมต่อกับโลกกว้าง ชาวบ้านได้ติดต่อโทรหาลูกหลานในพื้นที่อื่นหรือจังหวัดต่างๆ หรือใช้อินเทอร์เน็ตติดต่องาน ทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ เด็กนักเรียนของเราก็ไม่ต้องเดินหาสัญญาณเสี่ยงต่อการหลุดออกนอกระบบการศึกษาเพราะเรียนออนไลน์ไม่ได้อีกต่อไป ชีวิตของพวกเราทั้งชุมชนพลิกเปลี่ยนจากเดิมสู่คุณภาพที่ดีขึ้นมาก”

นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “เราเชื่อว่าเด็กๆ จะใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เข้าถึงหมู่บ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการค้นหาความรู้ และจากการตั้งใจเรียนออนไลน์ ส่วนผู้ใหญ่ในหมู่บ้านก็จะสามารถใช้งานติดต่อสื่อสาร โทรหาลูกหลานในพื้นที่อื่นๆ ชุมชนจะสามารถเรียนรู้สู่แอปพลิเคชันออนไลน์เพิ่มขึ้น รวมถึงใช้อินเทอร์เน็ตมาพัฒนาอาชีพและเป็นช่องทางการซื้อขายสินค้าออนไลน์ เหนืออื่นใดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจะเป็นการปลดล็อกชุมชนสู่โลกภายนอกให้ดีทั่ว ดีถึง เพื่อชีวิตเท่าเทียม”

ดีแทคได้มุ่งมั่นในการนำสัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าถึงทุกภูมิภาคทั่วไทย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสให้ทุกคนได้เข้าถึงการใช้งานดิจิทัล การพัฒนาโครงข่ายของดีแทคต้องมุ่งสู่การเพิ่มประสบการณ์ใช้งานสู่ชุมชน รวมทั้งสนับสนุนประเทศให้มีความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ที่สำคัญสัญญาณอินเทอร์เน็ตต้องสร้างสังคมดิจิทัลสำหรับทุกคน

Comments

comments