GoDaddy Inc. (NYSE: GDDY) บริษัทที่มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการทั่วโลกในทุกวันและผู้ให้บริการจดทะเบียนชื่อโดเมนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เร่งเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ สอดรับกระแสการขยายตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย มุ่งทิศทางปี 2565 ในการสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการและเอสเอ็มอีไทยในภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่กำลังแสวงหาแนวทางเสริมสร้างศักยภาพด้วยการสร้างธุรกิจออนไลน์และอีคอมเมิร์ซ เพื่อเดินหน้าต่อไปท่ามกลางความท้าทาย และพร้อมเติบโตในปีหน้าและอนาคตต่อไป
เศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตไทยที่พุ่งทะยาน ปูทางสู่การเติบโตของธุรกิจออนไลน์
จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ระบุว่ามูลค่าอีคอมเมิร์ซของไทยในปี 2564 คาดว่าจะเติบโต 6.1% คิดเป็นมูลค่า 4 ล้านล้านบาท ในขณะที่มูลค่าอีคอมเมิร์ซของกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 ในทางกลับกัน มูลค่าอีคอมเมิร์ซของกลุ่มเอสเอ็มอีกลับเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 13.9% จากปี 2562 มาอยู่ที่ 1.5 ล้านล้านบาทในปี 2563 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.9 ล้านล้านบาทในปี 2564
นางสาวสายทิพย์ (นิกกี้) เชวงทรัพย์ ผู้อำนายการฝ่ายการตลาด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ GoDaddy กล่าวว่า “การเติบโตของเอสเอ็มอีมีส่วนสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของประเทศ ด้วยแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตและการค้าออนไลน์ในประเทศไทย ซึ่งผู้ประกอบการและเอสเอ็มอีต่างพากันผันตัวเข้าสู่ช่องทางการขายออนไลน์เพื่อขยายธุรกิจ GoDaddy พร้อมอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนธุรกิจเหล่านี้ด้วยโซลูชั่นสำหรับการสร้างธุรกิจออนไลน์ที่ทำได้ง่ายและมีต้นทุนค่าใช้จ่ายไม่สูงอย่างที่คิด”
GoDaddy มีประสบการณ์อันยาวนานในการสนับสนุนผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กทั่วโลก ด้วยฐานลูกค้าธุรกิจกว่า 20 ล้านราย โดยมอบความช่วยเหลือและสนับสนุนเครื่องมือทางธุรกิจต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อการบรรลุความสำเร็จที่เหนือชั้นกว่าบนโลกธุรกิจออนไลน์
“ตั้งแต่การเปิดตัวทีมงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีนี้ GoDaddy คือธุรกิจระดับโลกที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในประเทศไทย และมุ่งมั่นให้การสนับสนุนธุรกิจและผู้ประกอบการไทยบนเส้นทางสู่ความสำเร็จบนช่องทางออนไลน์ ด้วยจุดแข็งหลักคือทีมบริการลูกค้าที่พูดภาษาไทย ซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ พร้อมให้คำแนะนำและความช่วยเหลือแบบตัวต่อตัว โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงและติดต่อทางโทรศัพท์ และเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นว่าธุรกิจไทยจำนวนมากที่เป็นลูกค้าของเราก่อนการจัดตั้งทีมงานอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของเรานั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา และเราพร้อมที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งบนเส้นทางธุรกิจออนไลน์ของลูกค้า เพื่อคอยให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ในการก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง” นิกกี้กล่าวเสริม
เพียงโซเชียลมีเดียอาจไม่เพียงพอต่ออนาคตที่มั่นคงของธุรกิจออนไลน์
ในขณะที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้กลายเป็นตัวเลือกแรกที่เอสเอ็มอีส่วนใหญ่นึกถึงเมื่อต้องการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้โซเชียลมีเดียควบคู่ไปกับการสร้างเว็บไซต์ของตนเอง เนื่องจากการอาศัยโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอต่อการทำธุรกิจออนไลน์ที่มั่นคงในระยะยาว แต่หากมีการผสมผสานกับการใช้เว็บไซต์แล้ว จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถควบคุมคอนเทนต์เนื้อหาของตนได้ขึ้น รวมทั้งสร้างความผูกพันและให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สถานการณ์โควิดส่งผลให้ธุรกิจจำนวนมากเริ่มก้าวสู่โลกออนไลน์ และผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น สิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจต้องพิจารณาคือการมีเครื่องมือดิจิทัลต่าง ๆ พร้อมมือ เพื่อช่วยให้กลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าค้นหาธุรกิจของตนพบได้ง่ายบนอินเทอร์เน็ต นั่นคือ การสร้างเว็บไซต์ของตนเอง การเชื่อมโยงกับช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ การใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลเพื่อดึงดูดลูกค้า และระบบอีคอมเมิร์ซ
“ผลิตภัณฑ์แฟล็กชิพของเราอย่าง GoDaddy Websites + Marketing คือชุดเครื่องมือออนไลน์แบบครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจก้าวไปอีกขั้น ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างเว็บไซต์ให้สำเร็จ แต่ยังครอบคลุมไปถึงขั้นตอนหลังจากนั้น โดยช่วยให้คำแนะนำต่าง ๆ ในการทำธุรกิจออนไลน์ให้แข็งแกร่ง เช่น การลงทุนในกลยุทธ์ SEO การพัฒนากลยุทธ์การตลาดออนไลน์โดยใช้อีเมล หรือการใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อขายสินค้า โดย GoDaddy ช่วยให้ลูกค้ามีข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาจากการวิเคราะห์บิ๊กดาต้าอย่างมีหลักการ ซึ่งจะช่วยในการพัฒนาแผนเชิงกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการสร้างการเติบโต” นิกกี้เพิ่ม
GoDaddy Websites + Marketing คือโซลูชั่นครบวงจรในการสร้างและบริหารจัดการเว็บไซต์ สร้างแคมเปญการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ และใช้ประโยชน์จากเครื่องมืออีคอมเมิร์ซอันทรงพลังต่าง ๆ เปรียบเสมือน one-stop-shop ในการสร้างตัวตนออนไลน์ของธุรกิจ โดยอาศัยแนวทางที่ได้รับการพิสูจน์และปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจ เพื่อกำหนดรูปแบบของธุรกิจออนไลน์ไม่ว่าจะอยู่บนแพล็ตฟอร์มใด ทั้งการลงรายการผลิตภัณฑ์บนตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มโซเชียล เช่น Facebook และ Instagram เพื่อให้เป็นที่รู้จัก เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และสามารถขายสินค้าได้มากขึ้น และที่สำคัญคือ ช่วยให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายค้นหาธุรกิจนั้นพบได้ไม่ว่าจะบน Google, โซเชียลมีเดีย หรือตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์
“โซลูชั่นออนไลน์ครบวงจร” สำหรับทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
“เราคาดหวังว่าในปี 2565 สถานการณ์ต่าง ๆ จะดีขึ้น เป็นปีแห่งการฟื้นตัวของวัฏจักรที่แข็งแกร่ง และมีการขยายตัวของความต้องการจากผู้บริโภคที่อัดอั้นไว้ มีเอสเอ็มอีไทยจำนวนมากขึ้นที่กำลังพิจารณากลยุทธ์ธุรกิจด้านดิจิทัล GoDaddy ยังมุ่งสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์อย่างต่อเนื่องเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ผลิตภัณฑ์และบริการของเราสามารถช่วยสร้างธุรกิจออนไลน์เพื่อให้บริการลูกค้าของตนได้”
“แผนการเติบโตของเราสอดคล้องกับจุดประสงค์หลักที่เรายึดมั่นในการช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทยให้เริ่มต้นวางรากฐานธุรกิจออนไลน์ที่แข็งแกร่ง GoDaddy ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง เราส่งเสริมผู้ประกอบการหน้าใหม่ให้เติบโตด้วยความมั่นใจ ขณะเดียวกัน เราก็มุ่งสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางที่มั่นคงแล้วให้ก้าวต่อไปข้างหน้าได้ไกลยิ่งกว่าเดิม ทั้งหมดนี้ด้วยชุดเครื่องมือและบริการออนไลน์แบบครบวงจรเพื่อความสำเร็จบนโลกธุรกิจออนไลน์”” สายทิพย์กล่าว
GoDaddy นำเสนอเครื่องมือทางธุรกิจต่าง ๆ สำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการในประเทศไทยเพื่อสร้างตัวตนดิจิทัลและช่วยสร้างการเติบโต ครอบคลุมตั้งแต่ การจดทะเบียนชื่อโดเมน เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ บริการโฮสติ้ง บริการ Managed WordPress ระบบรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์ การตลาดออนไลน์ บริการอีเมลธุรกิจ และ Microsoft Office สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ ชื่อโดเมน เว็บไซต์ โฮสติ้งและเครื่องมือการตลาดออนไลน์ – GoDaddy TH.