โลกยุคหลังโควิด-19 เราจะสังเกตได้ว่า AI ได้รับการพูดถึงในการทำงานมากขึ้น และการเข้ามาของเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง ChatGPT ก็ทำให้คนตั้งคำถามถึงการที่ปัญญาประดิษฐ์จะมาแทนที่มนุษย์ในหลายๆ ด้าน การจะแสวงหาความก้าวหน้าในที่ทำงานในยุคนี้ จึงต้องเรียนรู้เพื่อเพิ่มทักษะทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ให้กับตัวเองอยู่เสมอ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะการเพิ่มพูนทักษะที่ปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันไม่อาจมีได้ อย่างความสามารถในการนำข้อมูลที่มีไปต่อยอดเพิ่มเติม เพื่อประยุกต์ใช้ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยความคิดสร้างสรรค์และประสบการณ์
“เรียนเยอะ แต่ใช้ได้น้อย” ปัญหาการเรียนรู้ในยุคความรู้ท่วมหัว
คุณนิภัทรา ตั้งพจน์ทวีผล Product Director ของ SEAC (ซีแอค) ได้เริ่มตั้งคำถามบนเวทีในงาน CTC2023Festival ในหัวข้อ “How to Build Workforce SMARTer: Innovations in People Development for a Greater Impact” ว่า “โจทย์การเรียนรู้ในยุคนี้คืออะไร ถ้าย้อนไปในยุคเก่า เราอาจจะไปอ่านหนังสือในห้องสมุด แต่ยุคนี้เราอาจจะใช้ Google และล่าสุดคือ ChatGPT เข้าถึงข้อมูล และความรู้ใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ประเด็นสำคัญในยุคเทคโนโลยีก้าวหน้า คือ การเปลี่ยนแปลงเกิดเร็วมาก ทำให้คนวัยทำงานเข้าอบรมเรียนออนไลน์มากขึ้นถึง 3 เท่าในช่วงโควิด-19 การเติมทักษะใหม่ให้พนักงาน คือวาระแห่งชาติในการแข่งขันในยุคนี้ แต่จุดที่น่าสนใจจากรายงานของ Harvard Business School พบว่าคนในองค์กรที่เข้าเรียนอบรม มีเพียง 12% ที่บอกว่าสามารถนำความรู้มาใช้ในการทำงานจริง หมายความว่า88% ได้ผลกลับมาน้อย คือเรียนเยอะแต่ใช้ได้นิดเดียว
SEAC (ซีแอค) ได้ทำวิจัยระยะยาวนานกว่า 18 ปี และพบปัญหาสำคัญ 5 เรื่อง คือ 1.) ไม่ชัดเจนว่าเรียนแล้วเอาไปใช้กับใคร ใช้ตรงไหน 2.) เรียนอยู่รูปแบบเดียวให้จบไปเป็นครั้งๆ 3.) การออกแบบหลักสูตรที่เน้นเรียนให้ครบ แต่ไม่เน้นให้ลงมือทำ 4.) เนื้อหาการเรียนเน้นทฤษฎี เชื่อมโยงกับชีวิตจริงไม่ได้ และ 5.) ขาดกลไกและตัวช่วยให้เกิดการผลักดันการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
“เราต้องการพัฒนาทักษะใหม่ๆ ให้เร็วกว่าที่เคย ปัญหาไม่ใช่เรียนที่ไหน และเรียนอะไร แต่คือการที่เราจะเรียนอย่างไรให้เรียนน้อยได้มากต่างหาก” คุณนิภัทรา กล่าว
เรียนแล้วนำไปใช้ได้จริง คือกุญแจสำคัญสู่การเป็น Smart People
ด้านคุณอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้ง SEAC (ซีแอค) “ในช่วง 2-3 ปี คำว่า SMART Learning หรือการเรียนอย่างชาญฉลาด ได้รับการพูดถึงอย่างมากในแวดวงสถาบันพัฒนาทักษะทั่วโลก สิ่งที่เราต้องเข้าใจเกี่ยวกับคำนี้แบ่งออกเป็นสองหัวใจหลัก หนึ่ง การที่จะทำอะไรให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี อยู่ที่การเรียนแล้วนำเอาไปใช้ได้จริง เพราะการรู้เยอะไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งได้เร็วขึ้น หรือมีชีวิตที่มั่นคง หากอยู่ที่การทราบว่าสิ่งที่เรารู้นั้นจะสามารถนำไปต่อยอดได้อย่างไร และ สอง อย่ายึดติดว่าจะเรียนแค่รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เช่น เรียนออนไลน์เท่านั้น เรียนให้ครบ 4 ปีตามหลักสูตรมหาวิทยาลัยเท่านั้น หรือเรียนครบหนึ่งคอร์สแล้วจบเลย ทว่ายุคนี้เราต้องถามตัวเองว่า เราจะเรียนรู้ได้เพิ่มอีกอย่างไร และอย่าเรียนทีละมากๆ แต่เราต้องพยายามเรียนแล้วนำไปใช้ทีละเรื่องๆ ให้ถูกต้องตามบริบท”
จากการที่ SEAC (ซีแอค) ได้ทำการวิจัยศึกษาออกมา พบ 5 หัวใจสำคัญของการเรียนรู้ที่ปรับใช้ได้จริง คือ 1.) ผู้เรียนต้องเริ่มต้นโดยรู้ว่าเรียนไปทำไม ตั้งแต่ก่อนเริ่มเรียน 2.) ผู้เรียนรู้สิ่งที่คาดหวังจากตัวเองคืออะไร 3.) ผู้เรียนรู้สึกตื่นเต้น และรู้ว่ามีคนที่มี Passion คล้ายคลึงกันหลายคนที่จะเรียนไปด้วยกัน เพื่อกระตุ้นให้รู้สึกอยากเรียน 4.) ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาและพร้อมออกไปลงมือทำจริง และ 5.) การนำไปปรับใช้จริงตามบริบทของแต่ละคน
“ในโลกยุคปัจจุบัน การมีความรู้มากมาย ไม่ได้จะทำให้ประสบความสำเร็จ แต่คนที่มีทักษะที่เรียนอย่างฉลาด เรียนแล้วทดลอง คือคนที่ชนะในวันนี้ Smart People ต้องเริ่มที่ SMART Learning เพราะคนไม่ทึ่งกับการอ่านหนังสือมากๆ แล้วนำมาพูดได้ หรือเป็นคนที่มีความรู้เฉพาะที่หาอ่านได้จาก Google หรือ ChatGPT อีกต่อไป แต่จะนับถือคนที่นำสิ่งที่รู้ไปประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม” คุณอริญญา กล่าว
ไม่ใช่แค่ได้เรียน แต่ต้องมีพื้นที่ให้ฝึกปฏิบัติจริง
นอกจากนั้น คุณอริญญา ยังได้ระบุถึงเครื่องมือที่จะช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ว่า “SEAC (ซีแอค) ค้นพบสิ่งที่เรียกว่า 6 Learning Labs หรือตัวเร่งที่ช่วยให้ผู้เรียนนำความรู้ไปปรับใช้ได้จริง คือ 1.) การตั้งเป้าหมายให้ชัดว่าใช้ที่ไหน และใช้เมื่อไหร่ 2.) การตกผลึกความรู้ ย่อยเรื่องยาก ซับซ้อนให้ง่ายขึ้น 3.) การสร้างความมั่นใจที่จะลองทำ 4.) การได้ฝึกซ้อมใช้ทักษะความรู้จากสิ่งที่เรียน 5.) การลงมือทำจริง ในสนามจริง และ 6.) มีผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาได้ คอยสนับสนุนตลอดเส้นทางการเรียนรู้
เราต้องเข้าใจจริงๆ ว่าในการศึกษาทั่วโลก คนที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นได้ ไม่ได้เรียนจบในห้องเรียน แต่ต้องเริ่มการมีวินัยที่ตัวเอง และรู้ตลอดเวลาว่า เรานำความรู้อะไรไปใช้ ถ้าต้องการประสบความสำเร็จต่อเนื่อง เราจะต้องเรียนเพื่อนำไปฉลาดใช้”
ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาศักยภาพผู้นำ บุคลากรและองค์กร เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต SEAC (ซีแอค)พร้อมนำความเชี่ยวชาญในการออกแบบการเรียนรู้ที่เน้นการนำไปปรับใช้ได้จริง ผสานทั้งเทคโนโลยี เครื่องมือ หลักสูตรระดับเวิล์ดคลาส ประสบการณ์ ผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญ และสังคมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมผลลัพธ์ และสร้างความสำเร็จให้แก่องค์กรธุรกิจทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หากหน่วยงานหรือองค์กรใดที่สนใจหลักสูตรการพัฒนาผู้นำและบุคลากรในองค์กร ด้วยวิธีการ รูปแบบและเครื่องมือที่สามารถเห็นผลสัมฤทธิ์ได้จริง สามารถติดตามได้ที่เพจ Facebook : SEAC หรือเว็บไซต์ที่
https://bit.ly/43OSnks
อ่าน: 1,012
Comments
comments